TCP Group ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม ปรับตัว สู้วิกฤตน้ำ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

‘น้ำ’ เป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เราใช้น้ำทั้งการอุปโภค บริโภค รวมไปถึงภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ทุกภาคส่วนต่างต้องใช้น้ำเป็นส่วนประกอบ

และตอนนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ‘วิกฤตน้ำ’ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์น้ำท่วม ภัยแล้ง น้ำกร่อย น้ำเค็ม รวมถึงปัญหาแหล่งน้ำเสื่อมโทรม มีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกำลังสร้างความเสียหายต่อประชากรโลก รวมถึงตอนนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วม จากความแปรปรวนของสภาพอากาศที่คาดเดาได้ยาก

จากรายงาน Forward Faster  ของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ปี 2566 ชี้ให้เห็นว่า ภายในปี 2573 ปริมาณน้ำสะอาดที่โลกมีอยู่กับความต้องการใช้น้ำ จะมีสัดส่วนต่างกันถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และสถานการณ์จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงนับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของภาคธุรกิจ ที่ต้องวางแผนรับมือ พร้อมขับเคลื่อนสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านทรัพยากรน้ำเป็นโจทย์สำคัญ 

กลุ่มธุรกิจ TCP เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จัดงานประชุมด้านความยั่งยืน  TCP Sustainability Forum 2024 ซึ่งปีนี้มาภายใต้แนวความคิด  “Water Resilience in a Changing Climate” เพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจให้  ‘ยืดหยุ่นและปรับตัวเร็ว’ รับความท้าทายด้าน ‘ทรัพยากรน้ำ’ สร้างการเปลี่ยนแปลง สู่เป้าหมายความยั่งยืนที่เร็วขึ้น เพื่อโลกที่ดีกว่า ที่รวมนักวิชาการ นักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญร่วมแลกเปลี่ยนและเตรียมความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรน้ำ ในหัวข้อ “น้ำกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัวของภาคธุรกิจ” เพื่อบรรลุเป้าหมาย ในการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ที่เกิดจากการขาดแคลนน้ำและความท้าทายด้านน้ำอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แหล่งน้ำที่มีความเปราะบาง

‘สราวุฒิ อยู่วิทยา’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “Water Resilience” หรือความยึดหยุ่นด้านทรัพยากรน้ำ เป็นกลยุทธ์สำคัญในการรับมือกับภาวะขาดแคลนน้ำแบบเฉียบพลัน  ในฐานะที่เราเป็นองค์กรใช้น้ำเป็นวัตถุดิบหลัก การจัดการน้ำอย่างยั่งยืนจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัท หัวใจสำคัญเวลาพูดถึง Water Resillience คือ การจะอยู่รอดอย่างไรในวันที่เราเจอวิกฤตน้ำ ที่ปัจจุบันไม่ใช่แค่ Climate Change แต่เป็น Climate Crisis  และเป็นเรื่องการรับมือกับอนาคต ถ้าหากทรัพยากรน้ำของธุรกิจ เศรษฐกิจ หรือประเทศ มีความยืดหยุ่นก็จะสามารถต้านทานความเปลี่ยนแปลงได้ดี ซึ่งก็คือ Business Resilience ที่ทำให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรับมือกับความท้าทายตั้งแต่วันนี้ วันที่เราต้องแข่งกับเวลาและต้องปรับตัวให้เร็วกว่าโลกที่กำลังหมุนไป”

ความคืบหน้าของการดำเนินการด้านความยั่งยืนตามเป้าหมาย “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ของกลุ่มธุรกิจ TCP ตามกลยุทธ์ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Caring) มีดังนี้

1) Product Excellence การพัฒนาผลิตภัตภัณฑ์แบรนด์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค (Unmet Needs) และส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพ 80% ในปี 2569  โดยปัจจุบันทำได้ 72.25%

2) Circular Economy การดำเนินตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ตั้งเป้าหมายพัฒนาบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ให้สามารถร์ไซเคิล 100% ได้ภายในปี 2567  โดยปัจจุบันทำได้ 93% อีก 7% คือกลุ่มสแบค ซึ่งมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะทำได้สำเร็จ และปีนี้บริษัทนำร่องการใช้ขวด rPET กับแบรนด์แบนซั่ม พร้อมเดินหน้าเป็นองค์กร Zero Waste to Landfill ทั้งที่โรงงานปราจีนบุรีและสำนักงานใหญ่อย่างต่อเนื่อง

3) Carbon Economy การมุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ปัจจุบันสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 10% และขณะนี้มีการใช้พลังงานหมุนเวียนกว่า 80%

4) Water Sustainability การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าคืนน้ำกลับน้ำสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต (Net Water Positive) ภายในปี 2573 ซึ่งบรรลุเป้าหมายแล้วในขณะนี้ โดยสามารถคืนน้ำสู่ธรรรมชาติสะสมได้ถึง 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าปริมาณน้ำที่ใช้ คือ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรตรต่อปี หลายเท่าตัว และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ทำให้ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้ 24% เมื่อเทียบกับปี 2562 และนำมาตรฐานสากลเรื่องการจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำอย่าง Alliance Water Stewardship หรือ AWS มาใช้เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มธุรกิจ TCP จะดูแลและบริหารจัดการน้ำทั้งภายในและภายนอกโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจ TCP เดินหน้าดำเนินแผนงานใน 3 ด้าน เพื่อสร้างเป้าหมาย Net Water Positive ให้โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม ได้แก่ 

1.ด้านการจัดการน้ำแบบฟื้นฟู เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศทางน้ำให้กลับสู่สภาพเดิมหรือดีกว่า 

2.ด้านการใช้น้ำหมุนเวียนแบบ 100% เพื่อนำทรัพยากรน้ำกลับมาใช้ไหม่ได้อย่างสมบูรณ์และเกิดประโยชน์สูงสุด

3.ด้านการใช้นวัตกรรมที่ยั่งยืนและสร้างสรรค์ มุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกต่อทรัพยากรน้ำ  พร้อมส่งเสริมเรื่องการสร้างคนด้วยการศึกษา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนแผนงานด้านความยั่งยืนทั้งภายในองค์กร ชุมชน และระดับประเทศ

TCP Sustainability Forum 2024 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เข้าสู่ปีแห่งการลงมือทำและปรับตัวเพื่อเร่งให้เกิดความก้าวหน้าเร็วที่สุด เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านธุรกิจควบคู่กับการสร้างผลกระทบในทางบวก ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งไทยและต่างประเทศ ตามเป้าหมาย “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ซึ่งงานนี้เป็นเวทีความยั่งยืนเวทีแรกและเวทีเดียวของประเทศไทย ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือของพันธมิตรในกลุ่มอุตสาหกรรมและเครื่องดื่ม ในการรับมือกับความท้าทายจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนของประเทศตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยังยืนของสหประชาชาติ (SDGs)