SHARE

คัดลอกแล้ว
การเข้ามาเป็น CEO ร่วมของบริษัทสตรีมมิ่งอันดับหนึ่งของโลกอย่าง NETFLIX ของ เท็ด ซารานดอส เป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการ จากพนักงานสู่การเป็น CEO ที่ยืนขนาบข้างกับเจ้าของและผู้ก่อตั้ง รีด เฮสติ้งส์ กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนทำงานไม่น้อย และเส้นทางการทำงานของเขา ก็บันเทิงพอๆ กับหนังและซีรี่ส์ใน NETFLIX จริงๆ
ซารานดอส เกิดในปี 1964 ที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันอายุ 55 ปี เขาเรียนจบด้านนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอริโซน่า สเตต หลังจากเรียนจบ ซารานดอสทำงานที่แรกกับบริษัทให้เช่าวิดีโอ “Arizona Video Cassettes West  นานถึง 8 ปี
ไต่เต้าจากระดับผู้จัดการสาขา มาสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีหน้าที่หลักคือการโน้มน้าวบรรดาคู่ค้า พาร์ทเนอร์ ต่างๆ ให้เชื่อในวิธีการชมภาพยนตร์แบบใหม่ในตอนนั้นที่เรียกว่า DVD จากเทป VHS
ในวันที่เขาลาออกจากตำแหน่ง เขาทำหน้าที่ดูแลทั้งหมด 500 สาขา
แม้ว่าซารานดอสจะคุ้นชิ้นกับความเปลี่ยนแปลง แต่กว่าเขาจะย้ายมารับงานที่ NETFLIX รีด เฮสติ้งส์ ผู้ก่อตั้ง ก็ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะทำให้เขาลาออก

รีด เฮสติ้งส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง NETFLIX คนที่ดึงซารานดอสมาร่วมทำงานด้วย

ในปี 2000 ปีที่ รีด เข้าไปจีบ เท็ด มาทำงาน NETFLIX อยู่ในช่วงตัดสินใจลุยตลาดสตรีมมิ่งทางอินเตอร์เน็ต บรรยากาศวงการให้เช่าภาพยนตร์ตอนนั้น ยังคงอยู่ในช่วงมั่นคงของการดูหนังผ่านเทป และเป็นจุดเริ่มต้นของ DVD – การเข้าไปบอกว่าต่อไปนี้จะคนจะดูหนังผ่านบริการสตรีมมิ่งนั้นถือเรื่องที่ยากยิ่งที่คนจะเชื่อ ต่อให้เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ดีอย่างเท็ดก็เถอะ
นั่นทำให้ รีด ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะดึง เท็ด เข้ามาร่วมงานได้สำเร็จ
เมื่อเข้ามาร่วมงานกับ NETFLIX เท็ดทำงานอยู่ในตำแหน่ง Chief Content Office หรือหัวหน้าฝ่ายเนื้อหาของ NETFLIX ทำหน้าที่ดูแลเลือกภาพยนตร์และซีรี่ส์ที่จะมาฉายใน NETLFIX ในเวลาเดียวกันก็ต้องเปิดน่านน้ำธุรกิจใหม่ๆ

It’s Okay to Not Be Okay (2020) อีกหนึ่งซีรี่ส์ยอดนิยมที่ให้บริการทาง NETFLIX

ในช่วงปี 2010 NETFLIX ปักธงในฐานะผู้นำในบริการสตรีมมิ่งได้สำเร็จ แต่คนยังจำพวกเขาในฐานะบริษัทที่รวมคอนเทนต์จากผู้ผลิตรายใหญ่ๆ รีด เฮสติ้งส์ รู้ดีว่าเขาต้องเปิดน่านน้ำการต่อสู้ใหม่ เขาต้องรุกตลาดผลิตภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ให้ได้ และภารกิจนี้ก็เป็นภารกิจหลักที่เท็ดในฐานะหัวหน้าฝ่ายเนื้อหาต้องดูแล
หนึ่งในซีรี่ส์ NETFLIX เรื่องแรกๆ ที่เท็ดดึงมาฉายในแพลตฟอร์มได้สำเร็จคือ House of Cards ซีรี่ส์การเมืองชื่อดัง ซึ่งตอนแรกยังมีเพียงแค่ชื่อผู้กำกับ เดวิด ฟินเชอร์ และดาราดัง เควิน สเปซี่ย์ แปะไว้เป็นตัวยืนยันคุณภาพ
เท็ด ซารานดอส เล็งเห็นว่าซีรี่ส์เรื่องนี้แหละที่อาจจะเข้ามาพลิกโฉมหน้า NETFLIX จากบริษัทที่กว้านซื้อหนังคนอื่น มาเป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกได้สำเร็จ เขาเลยตัดสินใจไปเจรจากับ ฟินเชอร์ เพื่อทำการปิดดีลหนังเรื่องนี้จนสำเร็จ แต่เรื่องราวในการปิดดีลภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีรายละเอียดที่โลกต้องจำ
ย้อนไปในปี 2011 ช่วงการเจรจาซื้อซีรี่ส์เรื่องนี้ NETFLIX ถือว่าเป็นหน้าใหม่ของวงการผู้ผลิต ในมุมของผู้กำกับชื่อดังแล้ว เมื่อเขาทำหนังสักเรื่อง พวกเขาจะคิดถึงค่ายอย่าง HBO หรือ NBC มากกว่า – NETFLIX รู้ดีถึงปัญหานี้ และการรู้ว่าตนเองอยู่ในจุดที่เป็นรอง ก็ช่วยทำให้เท็ดกำหนดยุทธศาสตร์ถูกว่าพวกเขาต้องยื่นข้อเสนอที่หอมหวานกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด จึงจะเดินหน้าปิดดีลได้สำเร็จ
เท็ดเข้าไปเสนอเงินมหาศาลกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับทีมของฟินเชอร์ ซึ่งถือว่าเป็นเม็ดเงินที่ในวงการมองกันว่าแพงมหาศาล เข้าขั้นบ้าเลือดก็ว่าได้ ที่สำคัญเท็ดตัดสินใจครั้งนี้โดยไม่ได้ปรึกษากับ รีด เฮสติ้งส์ ก่อนเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าตอนนั้นเขารู้ดีว่าถ้าช้าก็อาจจะพลาด คอนเทนต์แห่งทศวรรษนี้ไป
นอกจากดีล House of Cards แล้ว เท็ดยังเป็นคนสำคัญในการคิดค้นอัลกอริทึ่มเลือกซีรี่ส์ที่เหมาะสมมาให้กับสมาชิกรับชม ซึ่งเจ้าอัลกอริทึ่มนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในหัวใจที่ทำให้สมาชิกของ NETFLIX ก้าวกระโดดอย่างมหาศาล
รวมถึงการเดินหน้าใช้เม็ดเงินมหาศาล ทำแคมเปญดันภาพยนตร์ ROMA ชนะรางวัลออสการ์ในฐานะภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้ได้ ซึ่งแม้ว่าจะพลาดหวังตรงนี้ไป แต่เขาก็ได้ปักธงนำหนังจากบริการสตรีมมิ่งมาเทียบศักดิ์ศรีกับหนังจากผู้ผลิตค่ายยักษ์ใหญ่อื่นๆ ได้สำเร็จ
ในวันที่ เท็ด ซารานดอส เข้ามารับตำแหน่ง CEO ร่วมของ NETFLIX เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าว “เส้นทางการเข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้ของเขา มันเต็มไปด้วยความบันเทิงจริงๆ”
การกล้าทำ กล้าตัดสินใจ และเข้าถึงหัวใจขององค์กรแบบนี้ อาจจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้รีดมองออกว่าคนที่จะมานำพา NETFLIX ก้าวไปข้างหน้าต่อไป ก็คือ เท็ด ซารานดอส นี่แหละ

เท็ด ซารานดอส ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ในปี 2020

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า