SHARE

คัดลอกแล้ว

TEDxBangkok ดึง ‘หมู่อาร์ม’ ทหารชั้นประทวนผู้เปิดโปงทุจริตเบี้ยเลี้ยงในกองทัพ เปิดไอเดียแรงบันดาลใจ ‘ตั้งคำถาม ลงมือทำ’ ชี้การเมืองเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตสามารถพูดได้เพื่อหาทางออกร่วมกัน

(ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ หมู่อาร์ม)

วันที่ 22 ส.ค. 2563 ที่เวที TEDxBangkok 2020 “Awake” :  Into the New Destination ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ หมู่อาร์ม ทหารชั้นประทวน ตำแหน่งเสมียนงบประมาณ ศูนย์ซ่อมสร้างสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ที่ออกมาเปิดเผยการทุจริตเบี้ยเลี้ยงทหารจนมีข้อพิพาทกับผู้บังคับบัญชากระทั่งถูกสอบสวนกำหนดโทษจำขัง 7 วัน ได้ขึ้นพูดเป็น Speaker คนสุดท้ายของงานในวันนี้

หมู่อาร์ม เริ่มต้นทอล์คด้วยคำถามว่า “ตื่นมาทุกวันเพื่ออะไร?” จากนั้นได้เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กว่า เป็นเด็กกำพร้าพ่อและแม่แยกทางมีครอบครัวใหม่ทำให้ตนเองมาอาศัยอยู่กับลุงและป้า ที่ปัจจุบันเป็นพ่อแม่บุญธรรม ถูกเลี้ยงมาด้วยคำสอนเดียว คือ ห้ามทะเลาะ ห้ามมีเรื่องกับใคร ทำให้เป็นเด็กที่ไม่ว่าจะผิดหรือถูกต้องเป็นฝ่ายโดนเสมอ จึงอยากฝากทัศนคตินี้ถึงผู้ใหญ่ว่าทัศนคติแบบนี้อาจจะส่งผลดีและไม่ดีต่อตัวเอง รวมถึงลูกหลานเพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบตน ที่เมื่อมีความอดทนอดกลั้นมากเท่าไหร่ก็จะถึงจุดระเบิด เมื่อระเบิดแล้วตนก็เกเร หนีออกมาจากบ้าน เรียนไม่จบ

เมื่อออกจากบ้านมาตอนอายุ 15-16 ปี ไม่มีใครส่งเสียให้เรียนหนังสืออีกแล้วต้องดำเนินชีวิตเอง ชีวิตของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่มีความฝั่น มีคำถาม มีแรงบันดาลใจ ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนหนึ่งมาถามตัวเองว่า เราอยากทำอะไร เราทำอะไรได้บ้างเพื่อสังคม เพื่อจังหวัดของตัวเอง จึงมาเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง จังหวัดสิงห์บุรี  ใช้ชื่อเรียกในกลุ่มอาสาสมัครด้วยกันว่า ธน425 ถือเป็นจุดที่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองทำในสิ่งที่พ่อแม่มาบังคับไม่ได้

แต่ด้วยแรงบันดาลใจและความฝันที่มองว่า ทหารคือฮีโร่ เพราะเห็นทหารที่ออกไปช่วยอุทกภัย ไฟป่า ช่วยเหลือประชาชน สร้างบ้านให้คนยากไร้ จึงให้ตนเองอยากเป็นทหาร ตอนอายุ 18 ปี ได้สมัครเป็นทหารเกณฑ์เป็นเวลา 2 ปี ตนได้เห็น ‘เส้นของความเท่าเทียม’ เป็นเส้นที่ไม่เคยมีเลยภายใต้การปกครองของทหาร มีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะที่ทำให้ไม่สามารถรับตรงนี้ได้อีกต่อไป

หลังปลดประจำการจากทหารเกณฑ์  ในปี 2550 ได้ออกมาทำงานในบริษัทต่างๆ จนมีประสบการณ์ในงานช่างสีช่างเชื่อมต่างๆ แต่ก็พบว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ตอบโจทย์เราต้องการมากกว่านั้น คือเราต้องการความมั่นคง อนาคตและวันข้างหน้าที่ดี เลยตัดสินใจมากสอบรับราชการเป็นทหาร อัตราสิบเอก ของกรมสรรพาวุธทหารบก ระหว่างรับราชการมาได้ 1 ปี ก็เริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมทหารถึงเป็นแบบนี้… เริ่มมีความรู้สึกแอนตี้ (ต่อต้าน) แต่แรกๆ ยังมีความกลัว

“เชื่อไหมครับ…ผมร้องเรียนครั้งแรกเรื่องห้องน้ำ เรื่องเล็กนิดเดียวเองแต่มันเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับผม เพราะห้องน้ำที่เคยให้ทหารชั้นประทวนเข้า ไม่สามารถเข้าได้อีกต่อไป เนื่องจากมีการแบ่งชนชั้น แยกยศถาบรรดาศักดิ์ระหว่างนายร้อยกับนายสิบ ไม่สามารถใช้ร่วมห้องน้ำห้องเดียวกันได้ เห็นไหมครับคำว่าความเท่าเทียมมันไม่มี ผมจึงลุกขึ้นมาสู้ สู้เพื่ออะไร สู้กับระบบ ผมไม่รู้หรอกครับว่าระบบนี้มันมาจากด้านไหน มีอำนาจมากแค่ไหน มีอิทธิพลมากแค่ไหน และจะทำลายชีวิตทำลายครอบครัวผมได้มากแค่ไหน แต่ผมตั้งคำถามกลับไปที่ทุกคนครับหากมีคนๆ หนึ่งถึงแม้ว่าทุกคนจะว่ายน้ำไม่เป็นไม่เคยโดดลงน้ำเลย หรืออาจจะไม่ได้ฉันว่ายน้ำไม่เป็น แต่ถ้าลูกของคุณตกน้ำญาติพี่น้องของคุณตกลงไปในน้ำคุณจะกล้าโดดลงไปช่วยเขาไหม”

“ผมเชื่อว่าจิตใต้สำนึกของทุกคนพร้อมที่จะโดดลงไปช่วยต่อให้ตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นก็ตาม หรือถ้าไม่เช่นนั้นทุกคนอาจไปหาห่วงยางหาเชื่อกหรืออะไรก็ได้เพื่อมาช่วยเขา ถูกต้องไหมครับ และสิ่งนั้นผมก็จะตอบโจทย์ว่าทุกวันนี้สิ่งที่ผมต่อสู้ ผมไม่ได้ต่อสู่เพื่อตัวผมเอง ผมต่อสู้เพื่อภาษีของประชาชนทุกท่านที่นั่งอยู่ต่อหน้าผมอยู่ทางบ้าน เพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดิน เพื่อให้ภาษีของทุกคนเกิดประโยชน์ เพื่อคนในอนาคต…เพื่อประชาชนคนไทยทุกคน อย่าตั้งคำถามกับผมว่ากลัวหรือไม่ เพราะทุกคนมีความกลัว แต่ความกลัวนั้นสามารถเปลี่ยนได้ ถ้ามีความเสียสละ เปลี่ยนความกลัวเป็นการเสียสละสิ่งที่จะเกิดคือความกล้าหาญ ทุกคนก้าวข้ามความกลัวได้ ทุกคนมีจุดยืน แล้วถ้าคนอย่างผมที่ยืนอยู่ในวันนี้บนเวทีนี้ครั้งแรก ถ้าชีวิตของผมสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้ มาเอาชีวิตของผมไปเลยผมยินดี”

ในช่วงท้ายหมู่อาร์ม ได้พูดถึงการสร้างแรงบันดาลใจว่า อย่างที่ตนต่อสู้อยู่ในทุกวันนี้นั้นก็อยากให้โลกจดจำชื่อของตนไว้ว่า หมู่อาร์มคือคนที่ต่อกับสู่เพื่อความยุติธรรม ความเท่าเทียม ซึ่งทุกคนก็ทำได้เช่นกัน เพราะถ้าลองมองย้อนกลับไปดีๆ ทุกคนมีความกล้าเหมือนกันหมด “จงปลุกแรงบันดาลใจของตนเองขึ้นมา ผมจะสู้จนกว่าทุกคนจะเท่าเทียมกัน แล้วฝากคำถามไปถึงทุกคนด้วยว่า แล้วทุกคนตื่นมาเพื่ออะไร”

(พิริยะ กุลกาญจนาชีวิน License Holder ของ TEDxBangkok)

ความเห็นของผู้จัดงาน TEDxBangkok 2020

พิริยะ กุลกาญจนาชีวิน License Holder ของ TEDxBangkok ให้สัมภาษณ์กับ workpointTODAY ถึงเหตุผลที่เลือกหมู่อาร์ม มาเป็น Speaker ในครั้งนี้ว่า ในทุกๆ ปีเวลาเราเลือก Speaker เลือกจะตั้งคำถามว่าไอเดียแบบไหนที่มีคุณค่าหรือเป็นไอเดียที่สังคมต้องการในตอนนี้ ทุกวันนี้เราเห็นปัญหาสังคม ในเรื่องความไม่เท่าเทียม การมีสองมาตรฐานในส่วนต่างๆ มากมาย จึงมาตั้งคำถามอีกว่าแล้วมีใครที่จะมีไอเดียในการลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับสิ่งนี้ เราทุกคนน่าจะได้เห็นข่าวของหมู่อาร์ม ที่เป็นข้าราชการเป็นทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่ง อีกส่วนที่ชื่นชมคือ หมู่อาร์มเปิดหน้า และสู้ตามกระบวนการด้วย เลือกที่จะร้องเรียน แจ้งเบาะแสว่ามีเหตุการณ์อะไร ซึ่งในส่วนของคดีเราไม่ได้เลือกมาเป็นประเด็นพูดบนเวที

แต่สิ่งที่เราสนใจ คือการที่คนคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาได้ แล้วกล้าที่จะเลือกลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง คือมองว่าสังคมเรารอไม่ได้แล้วในวันที่เราเจอวิกฤติแบบนี้ในวันที่เราเจอปัญหาปากท้องของประชาชนก็หนักขนาดนี้ ปัญหาเรื่องการทุจริตเป็นเรื่องที่เราทุกคนควรจะมีสิทธิพื้นฐานในการตรวจสอบได้ และสามารถลุกขึ้นมาตั้งคำถามได้ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่หมู่อาร์มชวนทุกคน ไม่ใช่การเรียกร้องหรือการใช้ความรุนแรง แต่หมู่อาร์มพูดให้คนตั้งคำถามเท่านั้นเอง ข้อความสำคัญของหมู่อาร์มคือการตั้งคำถามว่า พวกเราทุกคนตื่นมาทุกวันเพื่ออะไร เหตุผลในการตื่นเช้ามาเพื่ออะไร สำหรับหมู่อาร์มมันคือการสู้เพื่อความยุติธรรมกับระบบความไม่เท่าเทียม ซึ่งตนมองว่าแต่ละคนอาจจะมีเหตุผลในการตื่นมาต่างกันไป บางคนอาจเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสื่อสารผ่านศิลปะ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ส่วนหมู่อาร์มเป็นอีกคนที่ตื่นขึ้นมาเพื่อมีความหมายของชีวิตอีกแบบหนึ่ง จึงรู้สึกว่าไอเดียของหมู่อาร์มควรค่าแก่การเผยแพร่

นอกจากนี้ พิริยะ ยังตอบคำถามที่ว่าการเลือกหมู่อาร์มเป็นการสะท้อนการเมืองอยู่ในชีวิตหรือไม่ว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนในสังคมเข้าใจได้แล้วว่า การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคนและเกี่ยวกับชีวิตพวกเราทุกคนจริงๆ ทุกคนคงรู้และไม่ได้ปฏิเสธอยู่แล้ว ซึ่งกรณีของหมู่อาร์ม คือเรื่องของความโปร่งใสและการบริหารจัดการภายในองค์กร ซึ่งไม่ใช่แค่หน่วยงานของหมู่อาร์ม แต่ทุกองค์กรทุกหน่วยงานอาจมีปัญหานี้ซุกอยู่ใต้พรมก็ได้ ทุกคนรู้ว่าปัญหาคอร์รัปชั่นมีอยู่ในสังคมนี้ แค่เราไม่ได้หยิบมันออกมาพูด หรือเราไม่ได้มีระบบการตรวจสอบ หรือระบบดูแลคนที่ออกมาพูด ซึ่งไม่ใช่การจับผิดกัน แต่เพื่อการหาทางออกร่วมกันว่าอะไรคือจุดอ่อน อะไรคือระบบที่พัฒนาได้ ซึ่งเราคนไทยทุกคนไม่ว่าอาชีพไหน ก็อยากเห็นประเทศพัฒนาไปข้างหน้า เห็นคนที่เดือดร้อนอยู่มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ รอดผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า