SHARE

คัดลอกแล้ว

ในช่วงหลายปีหลัง หากมีข่าวงานสร้างหนัง เจมส์บอนด์ 007 เรื่องใหม่ ไม่ว่าหนังจะได้ตัวผู้กำกับอย่างเป็นทางการรึยังก็ตาม ชื่อของ คริสโตเฟอร์ โนแลน มักจะปรากฏขึ้นเสมอ เมื่อมีแฟนๆ จำนวนมากอยากให้เขามากำกับหนังเรื่องใหม่ของแฟรนไชส์นี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โนแลน เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจริงๆ เขาเปรียบได้กับพระเจ้าแห่งวงการหนังในยุคปัจจุบันที่ไม่ว่าจะทำอะไรออกมา ก็จะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากผู้คน หนังเรื่องเด่นของเขาประกอบด้วย หนังระทึกขวัญเล่าเรื่องย้อนจากจุดจบไปยังจุดเริ่มต้น Memento (2001), ไตรภาคซูเปอร์ฮีโร่อัศวินรัตติกาล The Dark Knight (2005-2012), หนังโจรกรรมในโลกแห่งความฝัน Inception (2010), หนังท่องอวกาศ Interstellar (2014) และหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 Dunkirk (2017) เป็นต้น โดยทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นหนังดีที่มักจะไม่ทำให้คนดูผิดหวัง แถมยังมาพร้อมกับคุณภาพขั้นสูง

และตัวเขาเองยังเป็นแฟนหนัง 007 ตัวยงด้วย หากได้เขามาเป็นผู้กำกับจริงๆ เชื่อได้เลยว่าเขาจะพาโลกของสายลับผู้เก่งฉกาจไปสู่มิติใหม่ๆ ที่น่าสนใจเฉกเช่นหนังเรื่องอื่นๆ ที่เคยทำแน่นอน แถมยังสอดคล้องกันดีกับแฟรนไชส์ 007 ในยุคที่แดเนียล เครก รับบทเป็น เจมส์ บอนด์ ที่พยายามปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างให้ก้าวข้ามความซ้ำซากจำเจที่อยู่คู่หนังชุดนี้มานานกว่า 60 ปี

แต่ท่ามกลางเสียงเรียกร้อง โนแลน ก็มีอยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่อยากให้เขามากำกับ สาเหตุที่แฟนๆ กล้าเซย์โนต่อ โนแลน น่าสนใจมากด้วย เพราะพวกเขาอยากเห็นยอดผู้กำกับชาวอังกฤษไปสร้างหนังสายลับแนวใหม่ขึ้นมาต่างหาก เนื่องจากเห็นว่าเขามีหัวครีเอท ชอบทำอะไรที่มีความสดใหม่ เป็นออริจินัลอยู่เสมอ และมันเป็นสิ่งที่กำลังขาดหายไปในวงการหนังทุกวันนี้ที่เต็มไปด้วยหนังภาคต่อ ค่ายหนังไม่ค่อยอยากพัฒนาอะไรใหม่ๆ แต่เน้นปลุกผีหนังเก่าเอามาทำซ้ำอีกครั้ง

และว่าไม่ได้ด้วย เพราะเหตุผลนี้มีน้ำหนักฟังขึ้นจริงๆ เคยมีตัวอย่างลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้นด้วย เมื่อ สตีเว่น สปีลเบิร์ก ผู้กำกับที่เป็นแฟน เจมส์ บอนด์ ตัวยงเคยสนใจอยากกำกับหนัง 007 แต่เพื่อนสนิท จอร์จ ลูคัส ชวนเขาไปสร้างหนังเรื่องใหม่ เป็นหนังแนวผจญภัยสุดขอบฟ้า Raider of the Lost Ark (1981) หรือ อินเดียน่า โจนส์ ภาคแรกแทน ผลของการตัดสินใจนี้กลายมาเป็นตำนานบทสำคัญของฮอลลีวู้ด Indiana Jones มีภาคต่อรวมแล้วทั้งหมด 4 ภาค และทำเงินถล่มทลายทุกภาค พร้อมเสียงวิจารณ์ที่เป็นบวกแทบทั้งสิ้น

แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าสุดท้ายโปรเจ็ค Bond 25 โนแลน ไม่ได้นั่งเก้าอี้กำกับ หน้าที่ดังกล่าวตกเป็นของ แครี่ โจจิ ฟูกุนากะ จากซีรี่ส์ True Detective เพราะในช่วงเวลาเดียวกันกับที่หนังสายลับเจ้าเสน่ห์กำลังเปิดกล้องถ่ายทำ โนแลนก็อยู่ระหว่างถ่ายทำหนังฟอร์มใหญ่ Tenet หนังแนวสายลับผจญภัยสุดขอบฟ้าที่ว่ากันว่าจะไปตะลุยกันไกลถึง 7 ทวีปพอดี

หากใครที่ติดตามผลงานของ โนแลน มาตลอดจะพบว่าเวลาเขาทำหนังอะไรสักเรื่อง เขาจะให้คนดูรู้น้อยที่สุด เลยไม่ค่อยปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับหนังออกมาเท่าไหร่ นอกจากข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับหนังสุดๆ เช่น นักแสดงของเรื่องซึ่งใน Tenet จะได้ทีมนักแสดงชุดใหญ่ประกอบด้วย จอห์น เดวิด วอชิงตัน (BlacKkKlansman, 2018), โรเบิร์ต แพทตินสัน (The Rover, 2014), อลิซาเบธ เดเบคกี้ (The Man From U.N.C.L.E., 2015), ไมเคิล เคน (Inception), เคนเน็ธ บรานาห์ (Dunkirk) และ แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน (Kick-Ass, 2010) เป็นต้น, กำหนดฉายในอเมริกาวันที่ 17 กรกฎาคม 2020 และการใช้กล้องฟิล์ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้องไอแม็กซ์ 70 มม. สำหรับถ่ายทำ แต่ถ้าเป็นอะไรนอกเหนือจากนี้ เราแทบจะไม่รู้อะไรเลย

จริงๆ แล้วการจะไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวหนังเลยเป็นเรื่องพอเข้าใจได้ เพราะหนังกำลังอยู่ในช่วงถ่ายทำ และยังเหลือเวลาอีกตั้ง 1 ปีกว่าจะถึงกำหนดฉาย แต่ที่ผ่านๆ มา ต่อให้หนังใกล้จะฉายอยู่รอมร่อ โนแลนก็แทบไม่เผยรายละเอียดส่วนสำคัญออกมา เพื่อให้คนดูไปเซอร์ไพรซ์ด้วยตาตัวเองแทน

แต่อย่างน้อย โนแลน ก็ไม่ใจร้าย ปล่อยแฟนๆ มืดแปดด้านเกินไป ล่าสุดตัวอย่างของ Tenet ความยาว 1 นาทีปล่อยออกมาให้ดูกันแล้วในโรงภาพยนตร์ ฉายปะหัวหนังเรื่อง Hobbs & Shaw เฉพาะในโรงไอแม็กซ์เท่านั้น (ยังไม่ปล่อยลงในโลกออนไลน์ด้วย) และสิ่งที่หลายๆ คนได้เห็นกันไปแล้วก็ทำให้เกิดการคาดเดาไปต่างๆ นานา

จากตัวอย่างเราจะพบกับตัวละครเอกที่รับบทโดยดาราหนุ่มผิวสี จอห์น เดวิด วอชิงตัน กำลังสำรวจรอยกระสุนบนกระจก 2 บาน ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก และระหว่างที่สำรวจยังมีการขึ้นแคปชั่นว่า “ถึงเวลาแล้วสำหรับตัวละครเอกตัวใหม่” (Time has come for a new protagonist) และ “ถึงเวลาแล้วสำหรับภารกิจใหม่” (Time has come for a new kind of mission)

จากเบาะแสที่ออกมา ทำให้หลายคนเริ่มเพ่งเล็งว่า Tenet น่าจะเชื่อมโยงกับเรื่องของเวลา ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่พบเจอได้เสมอในหนังของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

การเน้นย้ำเรื่องของ เวลา อาจสอดคล้องกับชื่อเรื่อง Tenet ด้วยที่ไม่ว่าจะอ่านจากหน้าไปหลังหรือหลังไปหน้า ก็จะอ่านได้แบบเดียวกัน (เป็นคำประเภทที่เรียกว่า palindrome) การออกแบบฟอนต์ตัวอักษรก็น่าสนใจ จากในตัวอย่างหนัง รวมถึงในเว็บไซต์ http://www.tenetmovie.com/ จะพบว่าชื่อเรื่องมีการหมุนตามเข็มนาฬิกา และเมื่อวนครึ่งรอบ สีพื้นหลังและตัวอักษรจะเปลี่ยนสีไปมาจากขาวเป็นดำและดำเป็นขาว นั่นหมายถึงเวลาที่เปลี่ยนไปจากกลางคืนเป็นกลางวัน และกลางวันเป็นกลางคืนหรือไม่?

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ตอนนี้ก็เริ่มมีแฟนๆ สร้างทฤษฎีขึ้นมาว่า Tenet อาจดำเนินอยู่ในจักรวาลเดียวกับ Inception ก็ได้ เป็นโลกแห่งการโจรกรรมอันเหนือจริง เพียงแต่อาจใช้ตัวละครใหม่และสถานการณ์ใหม่ทั้งหมดในการดำเนินเรื่อง บางคนมองว่าอาจถึงขั้นเป็นหนังภาคต่อด้วยซ้ำ

ข้อน่าสังเกตคือ ไมเคิล เคน เป็นนักแสดงเพียงคนเดียวจากใน Inception ที่มีชื่อปรากฏว่าจะมาเล่น Tenet ด้วย แต่ทฤษฎีดังกล่าวยังมีช่องโหว่ตรงที่ เขาปรากฏตัวในหนังของ โนแลน มาแทบทุกเรื่อง แม้เขาจะมาเล่นหนังเรื่องนี้ไม่ได้การันตีว่าหนังทั้ง 2 เรื่องจะเชื่อมโยงกันเสมอไป

อย่างที่กล่าวไปว่ากว่า Tenet จะเข้าฉายก็อีก 1 ปีเต็ม ยังมีข้อมูลอีกมากมายรอให้แฟนๆ ได้รับรู้และสร้างทฤษฎีสมคบคิดกันอีกมากมาย ซึ่งจะกลายเป็นจริงหรือไม่ยังมิอาจรู้ได้ แต่สิ่งที่จริงแท้และมั่นใจได้คือ Tenet จะเป็นหนังที่ควรค่าแก่การรับชมที่สุดประจำปี 2020 อย่างแน่นอน

 

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า