มูลค่าบริษัทเทสล่า มากกว่า 5 ค่ายรถยนต์รวมกัน

การเติบโตของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า (Tesla) ตลอดทั้งปีนี้ จนมีมูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ทะลุ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 16.5 ล้านล้านบาท กลายเป็นปัจจัยสำคัญให้นายอีลอน มัสก์ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับที่ 2 ของโลก

ความยิ่งใหญ่ของเทสล่า ทำให้ปัจจุบันค่ายรถยนต์ไฟฟ้าค่ายนี้เป็นค่ายรถยนต์ที่มีมูลค่าบริษัทสูงกว่า 5 ค่ายรถยนต์ดั้งเดิมรวมกัน วันนี้ workpointTODAY จะมาตกผลึกว่าอะไรทำให้เทสล่าเติบโตได้มากขนาดนี้

🚗 ก่อนอื่นไปดูมูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (Market Cap) ของเทสล่า และค่ายรถยนต์ดั้งเดิม 5 ค่ายหลัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ตอนนี้มูลค่าบริษัทของเทสล่า มากกว่าทั้ง 5 ค่ายรวมกันแล้ว

🚗 โดยมูลค่าบริษัทเทสล่าอยู่ 16.5 ล้านล้านบาท

🚗 ขณะที่มูลค่าบริษัทค่ายรถยนต์ 5 ค่ายมีดังต่อไปนี้
มูลค่าบริษัทโตโยต้า 5.25 ล้านล้านบาท
มูลค่าบริษัทโฟล์คสวาเก้น 2.13 ล้านล้านบาท
มูลค่าบริษัทจีเอ็ม มอเตอร์ส 1.97 ล้านล้านบาท
มูลค่าบริษัทฮอนด้า 1.29 ล้านล้านบาท
มูลค่าบริษัทฟอร์ด 1.09 ล้านล้านบาท
รวมมูลค่าบริษัทค่ายรถยนต์ทั้ง 5 แห่งอยู่ที่ 11.73 ล้านล้านบาท

🚗 ต้องย้ำตรงนี้ว่า ตัวเลขที่นำมาใช้เปรียบเทียบคือมูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคำนวณจากราคาหุ้นเป็นหลัก และราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากจะเป็นเรื่องของผลประกอบการแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังมาจากความมั่นใจของนักลงทุนที่มีผลต่อราคาหุ้นด้วย

🚗 เช่นในกรณีนี้ ถ้าเปรียบเทียบด้านยอดขาย เมื่อปีที่แล้วเทสล่าขายรถยนต์ไปได้ 367,200 คัน ทำรายได้ประมาณ 745,000 ล้านบาท ขณะที่ค่ายยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นอย่างโตโยต้าขายรถยนต์ได้กว่า 10.7 ล้านคัน ทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 8.52 ล้านล้านบาท

🚗 แต่ยอดขายไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจ โดยในกรณีของเทสล่า นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นในอนาคตที่สดใสของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งผลประกอบการในปีนี้ที่ทางเทสล่าเชื่อมั่นว่า จะขายรถยนต์ได้ 500,000 คัน ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้ราคาหุ้นของเทสล่าพุ่งสูงกว่าค่ายรถยนต์ดั้งเดิมรายอื่นๆ ที่ยังอยู่ในตลาดรถยนต์ใช้น้ำมันเป็นหลัก

🚗 นับตั้งแต่บริษัทเทสล่าก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 ในช่วงแรกเทสล่าขาดทุนมาโดยตลอด และเพิ่งเริ่มเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-2 ปีมานี้ โดยผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของเทสล่ามีกำไรราว 10,000 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่เทสล่ามีกำไร ขณะที่หุ้นของเทสล่าเฉพาะในปีนี้ เพิ่มสูงขึ้นถึง 585%

🚗 การเติบโตที่ยิ่งกว่าก้าวกระโดดของเทสล่าถูกตั้งคำถามอย่างมากว่าจะเป็นการเติบโตที่ยั่งยืนหรือเป็นเพียงการเก็งกำไรในตลาด โดยหนึ่งในผู้ที่ออกมาตั้งคำถามถึงการเติบโตของเทสล่าคือโตโยต้า โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อะกิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ เปรียบเทียบการทำธุรกิจของเทสล่าว่าเป็นเหมือนกับร้านอาหารที่โปรโมทแต่สูตรอาหาร โดยที่ยังไม่มีอาหารเสิร์ฟ แตกต่างจากโตโยต้าที่เป็นเหมือนร้านอาหาร มีเชฟและมีลูกค้าจำนวนมากอยู่แล้ว

🚗 อย่างไรก็ตาม ประธานโตโยต้ายอมรับว่า โตโยต้าควรต้องเรียนรู้ความสำเร็จของเทสล่าที่ดึงดูดนักลงทุนได้เป็นจำนวนมากจากการคิดแผนธุรกิจ ซอฟท์แวร์ รวมไปถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานทดแทน