วันที่ 10 พ.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นต่อแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลต่อการบินไทย เขาเห็นว่าข้อเสนอแผนกู้เงิน 5 หมื่นล้านเพิ่มสภาคล่องโดยให้รัฐบาลค้ำประกัน รวมทั้งเพิ่มทุนอีก 8 หมื่นล้านบาท รวม 1.3 แสนล้านบาท จะไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เพราะถ้าไปได้ดีผู้ถือหุ้นจะได้ประโยชน์ แต่ถ้าเจ๊งประชาชนต้องเป็นคนแบกหนี้ และเมื่อไปดูแผนฟื้นฟูการบินไทย ที่ระบุจะลดต้นทุน 42% ในช่วงเวลา 2 ปี ทำให้เห็นว่าแผนนี้เป็นไปไม่ได้จริง เป็นเพียงการเขียนแผนธุรกิจนี้ขึ้นมาเพื่อไปขอเงินกระทรวงการคลัง เขาประเมินว่าทางเลือกเชิงนโยบาย ของรัฐบาลมี 3 ทาง คือ 1.ปล่อยล้มละลาย ให้กลไกตลาดจัดการ นำไปสู่การเปิดเสรีน่านฟ้า คือจะไม่มีการช่วยสายการบินแห่งชาติ ทุกสายการบินบินอย่างเสรี และค่าสัมปทานเท่ากันทุกสนามบิน 2.การเข้าไปช่วยในระยะสั้น ปล่อยกู้ 5 หมื่นล้าน เพื่อนำไปสู่การขาย หรือล้มละลายอย่างมีการจัดการ รัฐจะได้คืนจากผู้ซื้อคนใหม่ 3.ยึดการบินไทยกลับมาเป็นของรัฐ ฟื้นฟูปรับปรุงกิจการ แล้วเลือกได้ว่าจะเลือกปลายทางอย่างไร เขาสรุปปลายทางว่ามี 4 แนวทาง คือ 1.เปิดเสรีน่านฟ้า รัฐบาลไม่ต้องถือหุ้นการบินไทยเลย 2.เปิดเสรีน่านฟ้า รัฐบาลถือหุ้นน้อยไม่เกิน 25% 3. ทำแบบปัจจุบัน รัฐบาลถือหุ้นมากกว่า 51% 4. รัฐบาลถือหุ้น 100% รัฐบาลอาจจะเลือกแนวทาง 1.ปล่อยล้มละลาย เพื่อนำไปสู่การที่ รัฐบาลไม่ต้องถือหุ้นการบินไทยเลย หรือ 2.การเข้าไปช่วยปล่อยกู้ระยะสั้น ก่อนจะขาย เพื่อจะไม่ต้องถือหุ้นเลย หรือถือแแค่ 25% หรือ 3.ยึดกลับมาเป็นของรัฐ ลบเจ้าหนี้ออกทั้งหมด ลบผู้ถือหุ้นทั้งหมด เพื่อจะตัดสินใจแปรรูปอีกครั้งใน 2-3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เขาไม่เห็นด้วยถ้าหลังจากนั้น รัฐบาลจจะยังถือหุ้น 51% หรือ 100% เพราะจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กรณีถ้าปล่อยล้มละลาย เขาประเมินว่าผู้ซื้อที่มีอำนาจซื้อในตลาด กลุ่มทุนไทยมีแค่ 5 กลุ่ม คือ ซีพี, ช้าง, บีทีเอส,กัลฟ์ และคิงเพาเวอร์ ซึ่งทั้ง 5 กลุ่มมีธุรกิจบางตัวที่สามารถใช้ประโยชน์จากการบินไทยได้ ส่วนกลุ่มอื่นๆ สายการบินต่างชาติ จากประเทศจีนมีโอกาส เนื่องจากรัฐบาลใกล้ชิดกับจีนสูง ส่วนสายการบินอื่นๆ ที่มีส่วนแบ่งในการตลาดโลกสูง ขณะนี้ล้วนประสบปัญหา กลุ่มสุดท้ายคือ กองทุนภาคการเงินที่อาจะเขามาซื้อ แล้วฟื้นฟูกิจการขายทอดตลาดเอากำไร เขาสรุปว่า หากรัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่จะไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และทางเลือกเหล่านี้ จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าข้อเสนอของรัฐบาลที่กำลังทำอยู่