
ภาพ : กรอบการพิจารณา แนวขุดคลองไทย โดย รศ.ดร.สถาพร เขียววิมล
วันที่ 16 ม.ค. ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทย (Thai Canal) เส้น 9 A กระบี่, ตรัง, พัทลุง, นครศรีธรรมราช, สงขลา
พล.ต. ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย กล่าวว่าเรื่องนี้สำคัญ เป็นเรื่องสำคัญของประชาชนทั้งประเทศไม่เฉพาะภาคใต้ ถ้าขุดได้จะสร้างรายได้ให้ประเทศมหาศาล การตั้ง กมธ.วิสามัญ ได้จะทำให้มีการลงพื้นที่อธิบายกับประชาชน และอาจจะผลักดันไปถึงจุดที่จะทำประชามติได้ ซึ่งเอ็นจีโอหรือเพื่อนบ้านที่ไม่เห็นด้วยจะไม่สามารถคัดค้านได้
คลองไทย จะเป็นประโยชน์มหาศาล มีนักธุรกิจพร้อมจะลงทุน เพราะเขามองว่าศักยภาพคุ้มการลงทุน ของเราติดแค่ประเทศเพื่อนบ้าน คือ สิงคโปร์ การที่เคยบอกกันว่าขุดคอคอดกระแล้วจะแบ่งประเทศ จริงๆ แล้วเป็นการแบ่งทางกายภาพ ไม่ใช่การแบ่งทางอธิปไตย กองทัพเราคุ้มครองได้และสหประชาชาติคงไม่ยอมให้ใครมายึดประเทศใดกันง่ายๆ
สำหรับเส้นทาง 9A กระบี่, ตรัง, พัทลุง, นครศรีธรรมราช, สงขลา ประมาณ 128 กม. กว้าง 400 เมตร ลึกไม่ต่ำกว่า 30 เมตร ถ้าเริ่มโครงการได้จะใช้เวลาแค่ 3 ปี และระหว่างนั้นก็จะมีการจ้างงานจำนวนมาก
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ กล่าวว่า ประเด็นเรื่องความมั่นคงแบ่งแยกประเทศในปัจจุบันมีการทำความเข้าใจกันแล้ว ตรงข้ามขุดคลองแล้วความมั่นคงจะเพิ่มขึ้น เพราะเรือดำน้ำที่ซื้อมาจะสามารถข้ามฝั่งได้ เช่นเดียวกับด้านเศรษฐกิจเรือประมงก็สามารถข้ามฝั่งไปทำประมงได้อีกด้านหนึ่งทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ถ้าขุดคลองไทยได้ เงินจะไหลเข้าประเทศอย่างไม่มีมาก่อนในภาวะที่เราต้องการขยายการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คลองไทยจะมีความสำคัญในการยุทธศาสตร์การเดินเรือ เป็นการสร้างเส้นทางเดินเรือใหม่ สร้างรายได้ 4.4 ล้านล้านบาท อ่าวไทยจะมีอำนาจทางทหารและการขนส่งทางทะเล การเดินเรือทั่วโลกประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้อย่างสูง ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ วันนี้ ประเทศไทยไม่มีอะไรไปขาย ญี่ปุ่นก็ย้ายฐานการผลิต ถ้าไม่มีโครงการใหม่ๆ เราจะมีปัญหา ถ้าเราทำคลองไทยได้จะไม่มีใครมีจุดยุทธศาสตร์ที่ดีเท่านี้ อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณา ดูแลชาวบ้านที่ต้องได้รับผลกระทบด้วย และต้องไม่มีการล็อกสเปกเหมือนโครงการอีอีซี
เรื่องนี้ช้าไม่ได้ รถไฟความเร็วสูงถ้าเราทำ 5 ปีที่แล้ว ตอนนี้เราได้เห็นแล้ว เรื่องคลองก็ควรรีบดำเนินการ แต่ต้องดูเรื่องสิ่งแวดล้อม และผลกระทบ ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปด้วย ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ต่อ ท่านทำโครงการนี้ได้อยู่แน่ เพราะเศรษฐกิจไทยจะพลิกฟื้นขึ้นมา
นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนเคยเป็นคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเรื่องนี้ของวุฒิสภา เรื่องนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ที่สภานำเรื่องนี้มาพิจารณา การมีการตั้ง กมธ.จะทำให้มีการศึกษาในทุกมิติ ทั้งความมั่นคงทางทหาร ผลกระทบพี่น้อง 5 จังหวัด วิถีชีวิตของชาวประมง
ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเชื่อมโยงการขนส่ง 2 มหาสมุทรเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โลกต้องการการขนส่งทางทะเลเส้นทางที่ใกล้ที่สุด คลองไทยจะเป็นคลองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก จะทำให้ประเทศไทยจะมีรายได้จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตการเกษตร กำหนดราคาเองได้ รายได้จากธุรกิจที่เกิดขึ้นจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องถึง 5 แสนล้านบาท เก็บภาษีได้ 5 ล้านล้านบาท สามารถนำรายได้มาพัฒนาประเทศได้
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดทำเมกกะโปรเจ็กต์เป็นเรื่องยาก สนามบินสุวรรณภูมิต้องไปนอนเฝ้าถึงจะสำเร็จ กรณี คลองไทยก็เช่นเดียวกัน และโลกนี้เหลืออยู่ที่เดียวที่เป็นภูมิรัฐศาสตร์ที่ดีที่สุด ส่วนอื่นของโลกขุดไปหมดแล้ว ไทยจะก้าวสู่ความศิวิไลซ์เพราะเรื่องนี้ ถ้าเทำได้จะเกิดเขตเศรษฐกิจขวานทองใน 5 จังหวัดขึ้น
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเทศไทยหยุดนิ่งมานาน อยากให้ประเทศไทยเริ่มโครงการนี้ แม้ว่าตนจะเป็น ส.ส. กทม. และมาจากฝ่ายค้าน แต่ 5 ปี หลังรัฐประหาร เราสนใจแต่อีอีซี ซึ่งตนไม่เห็นด้วยเพราะเป็นการไปทำที่เก่าๆ และแยกไม่ออกจะท่องเที่ยวหรืออุตสาหกรรม แต่ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ควรพัฒนา ก่อนจะสร้างสะพาน “จันทร์โอชา” ตามที่มีคนเสนอ ควรหันกลับมาพัฒนาภาคใต้ให้เป็นศูนย์กลาง
นอกจากคลองไทย อยากให้มีการบรรจุเรื่องการเป็นศูนย์กลางการบินของอาเซียน ถ้าทำได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เช่น ที่ภูเก็ต หรือที่กระบี่
วันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีทั้ง 2 ฝ่ายทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านที่เห็นตรงกันที่จะต้องร่วมกันพิจารณา และเมื่อตั้ง กมธ.แล้วอยากจะให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ
นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เสนอว่า คลองที่ขุดใหม่ควรตั้งชื่อว่า “จันทร์โอชา คาแนล” ถ้าตั้งได้ก็ยิ่งดีเป็นอย่างยิ่ง

ภาพ : กรอบการพิจารณา แนวขุดคลองไทย โดย รศ.ดร.สถาพร เขียววิมล
ต่อมาหลังจาก ส.ส.พรรคอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจใหม่ อนาคตใหม่ และประชาธิปัตย์ อภิปรายเห็นด้วยแล้ว ที่ประชุมมีมติให้ตั้งกมธ.วิสามัญ 49 คน ศึกษาเรื่องนี้ต่อไป ใช้ระยะเวลาในการพิจารณา 120 วัน
สำหรับโครงการนี้ เดิมเรียกว่า โครงการขุดคอคอดกระ ที่ จ.ระนอง ซึ่งเป็นส่วนที่แคบสุดของประเทศ แต่ภายหลังมีการเสนอเส้นทางใหม่จึงเรียกว่า โครงการขุดคลองไทย