SHARE

คัดลอกแล้ว
ดราม่าธงชาติไทยวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อภาพโปรโมท แอนชิลี สก็อต-เคมมิส Miss Universe Thailand 2021 มีลักษณะยืนบนกราฟิกคล้ายธงชาติไทย แม้กองประกวดจะลบภาพดังกล่าวไปแล้ว
แต่วันนี้ (23 พ.ย.) สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา กมธ.กฎหมายฯ เตรียมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดี ‘แอนชิลี’ ตาม พ.ร.บ.ธง และกฎหมายอาญา ม.118 ที่ระบุว่าการกระทำการใดๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศชาติมีความผิด อย่างไรก็ตามทางกองประกวดยืนยันว่า ‘แอนชิลี’ ไม่ได้เป็นคนทำภาพดังกล่าว และเป็นกราฟิกผ้าสีที่ทำขึ้นเพื่อสื่อถึงประเทศไทยไม่ใช่ธง พร้อมเตือนว่าระวังโดนฟ้องกลับ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการใช้สีแดง-ขาว-น้ำเงิน workpointTODAY พาย้อน “ดราม่าธงชาติ” ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัย พ.ศ. 2496

อดีตที่ปรึกษากมธ.กฎหมาย เอาผิด “แอนชิลี” เหยียบกราฟิกคล้ายธง

วันนี้ (23 พ.ย.) สนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร จะเดินทางเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดี ‘แอนชิลี สก็อต-เคมมิส’ Miss Universe Thailand 2021 ตาม พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 มาตรา 53, 54 และกฎหมายอาญา มาตรา 118

หลังกองประกวดปล่อยภาพที่ถูกวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมเนื่องจาก ‘แอนชิลี’ ยืนบนสีน้ำเงินของธงชาติไทย ต่อมากองประกวดได้ลบรูปภาพดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊ก

ด้าน ปิยาภรณ์ แสนโกศิก หรือ “ปุ้ย TPN” ผู้อำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับ รายการ ‘เอาให้ชัด’ ทางช่องวัน ว่าภาพดังกล่าวแอนชิลีไม่ได้เป็นคนทำ ไม่รู้เรื่อง โดยเป็นภาพกราฟิกที่ทำขึ้นมาเพื่อสื่อถึงประเทศไทย ไม่ใช่ธงแต่เป็น “ผ้าสีที่สื่อถึงความเป็นประเทศไทย” พร้อมระบุว่าสังคมมันแตกแยกเพียงพอแล้ว เราต้องทำให้มันไม่แตกแยก อย่ามาจุดประกายนู่นนี่นั่นเลย

สำหรับ พ.ร.บ.ธง มาตรา 53 มีการกำหนดความผิดต่อผู้ที่ใช้ธง “โดยไม่สมควร” ซึ่งมคโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วน มาตราที่ 54 ห้ามกระทำการอันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 118 ห้ามกระทำการใดๆ ต่อธงหรือเครื่องหมายอื่นใดอันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผ้าขาวม้าลายคล้ายธงชาติรอบชุดว่ายน้ำ

ในการประกวด Mister Supranational 2016 ภานุพงศ์ วันทะมาตย์ ตัวแทนประเทศไทย ได้ใส่ผ้าขาวม้าลายสีเหมือนธงชาติไทยในรอบชุดว่ายน้ำ

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตตั้งคำถามถึงความเหมาะสมเช่นกัน และยกเรื่อง พ.ร.บ.ธง ขึ้นมาพูดถึง ขณะที่บางส่วนก็ชื่นชมระบุว่าเป็นความสร้างสรรค์

แห่คอมเมนต์รูปเพจ Vogue รองเท้าแถบ แดง-ขาว-น้ำเงิน

ราวปี 2561 ชาวเน็ตไทยบางส่วนได้เข้าไปแสดงความเห็นในเฟซบุ๊กเพจ Vogue Paris (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Vogue France) หลังโพสต์ภาพแฟชั่นรองเท้าที่มีแถบสีแดง ขาว น้ำเงิน เรียงกันเหมือนธงชาติไทย

ในช่วงเวลานั้น นายพฤฒิพล ประชุมผล ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธงชาติไทย ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าชาวต่างชาติมีสิทธิ์นำสีแดง ขาว น้ำเงิน ไปใช้ในงานออกแบบได้ ส่วนกฎหมายเกี่ยวกับธงชาติมีผลบังคับใช้แค่ในประเทศไทยเท่านั้น

รองเท้าปลอม ลายธงชาติ-ตราครุฑ

ต้นปีที่ผ่านมามีกระแสดราม่าเช่นกันหลังโซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพซึ่งระบุว่าเป็นรองเท้าแบรนด์ดังที่นำเอาสีธงชาติและตราครุฑมาตกแต่ง

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้แสดงความคิดเห็นถึงความเหมาะสม ต่อมาเพจ CURATORS ได้ออกมาระบุว่ารองเท้าดังกล่าวเป็นของปลอมโดยนำเอาทรงรองเท้าของ Air Jordan 13 เป็นโมเดล

“ทางบริษัทของปลอมคิดว่าการเอาเอกลักษณ์ของประเทศเราต่างๆ จะทำให้คนไทยสนใจหรือชื่นชอบรองเท้าคู่นี้เหมือนที่ต่างประเทศได้นำธงและเอกลักษณ์ต่างๆ ไปใส่บนรองเท้าและคนประเทศนั้นๆ จะชื่นชอบ แต่ผิดตรงมันใช้ไม่ได้กับประเทศไทย จนเกิดดรามานั่นเอง” เพจดังกล่าวระบุ

การ์ตูนนกใช้เท้าโบกธงชาติไทย

เมื่อปี 2560 ศิลปิน Syd Weiler ได้วาดรูปการ์ตูน Trash Doves หรือ นกม่วงโยกหัว ซึ่งเป็นสติ๊กเกอร์ในเฟซบุ๊กที่กำลังเป็นที่นิยมในจังหวะนั้น โดยให้นกม่วงใช้เท้าโบกธงชาติไทย

ศิลปินระบุว่า “ฉันตื่นมาพบว่ามีคนชอบ Trash Doves มากมาย และขอบคุณคนไทยที่นำมันไปเป็นมีม (meme) หวังว่าคุณจะชอบมัน”

หลังภาพแทนคำขอบคุณนี้เผยแพร่ออกไป ทำเอาผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียไทยบางส่วน ติถึงความเหมาะสมในการใช้เท้าชูธงของตัวการ์ตูน บางส่วนแนะนำให้เปลี่ยนเป็นใช้ปากแทน จนท้ายที่สุดศิลปินได้วาดใหม่เปลี่ยนให้นกใส่รองเท้าบูธและหมวกสีเหลืองและใช้ปากคาบธงชาติไทยแทน

ถุงเท้าของนายแผน ดราม่าธงชาติปี 2496

ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2496 นายแผน เรืองคำ ได้ซื้อถุงเท้ามาคู่หนึ่ง เขาใส่และเดินออกสู่ที่สาธารณะ หลังจากนั้นไม่นาน นายแผน ถูกจับด้วยข้อหา “ดูหมิ่นธงชาติ” เพราะถุงเท้าของเขามีรูปธงชาติเล็กๆ ปักอยู่ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา ม.118 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในหมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร

ต่อมาอัยการได้ฟ้องว่า นายแผน สมควรถูกลงโทษสูงสุด คือจำคุก 3 เดือน และปรับไมเกิน 200 บาท และให้ยึดถุงเท้า (นี่เป็นบทลงโทษเก่าก่อนจะมีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเมื่อปี 2502 ซึ่งเพิ่มโทษ ม.118 ขึ้นไป)

นายแผนได้ให้การสารภาพว่าใส่ถุงเท้านั้นจริง แต่ไม่ทราบมาก่อนว่ามีรูปธงชาติปักอยู่ และไม่มีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่นธงชาติ จึงไม่เข้าองค์ประกอบ ม.118

ศาลชั้นต้นมองว่าเป็นความผิดของผู้ผลิตถุงเท้า ผู้ใส่ไม่น่ามีความผิด จึงตัดสินให้ปล่อยตัวนายแผนและให้คืนถุงเท้า

ศาลอุทธรณ์เห็นต่างโดยเห็นว่านายแผนมีความผิด และให้ยึดถุงเท้าไว้

คดีไปถึงศาลฎีกาและพิพากษาว่าผู้ผลิตมีความผิด แต่ผู้ใส่ไม่มีเจตนา จึงให้ปล่อยนายแผนไปและให้คืนถุงเท้าแก่เขาด้วย

“คุณรู้สึกไหมคดีนี้เพี้ยน ถ้าหากเพี้ยนคุณคิดว่าใครเพี้ยน นายแผนเพี้ยน หรือคนจับกุมเพี้ยน อัยการเพี้ยน หรือศาลเพี้ยน หรือกฎหมายเพี้ยน หรือทั้งหมดทุกอย่าง” ศ.ดร.ธงชัย วินิจกูล ตั้งคำถามหลังเล่าเรื่องนี้ในการปาฐกถาหัวข้อ ‘นิติรัฐอภิสิทธิ์และราชนิติธรรม: ประวัติศาสตร์ภูมิปัญญาของ Rule by Law แบบไทย’ เมื่อ 9 มี.ค. 2563

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า