SHARE

คัดลอกแล้ว

ไฟเขียว Thailand Digital Health Pass รับรองการเดินทางเข้าสหภาพยุโรปได้กว่า 60 ประเทศ/ดินแดน

วันที่ 10 ก.พ. 2565 กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่าสหภาพยุโรป (EU) ได้มีมติยอมรับและขึ้นทะเบียนเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 ของประเทศไทย หรือ Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อมให้มีความเท่าเทียมกับเอกสารรับรองของสหภาพยุโรป (EU Digital COVID Certificate :EU DCC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถใช้เอกสารรับรองบน Thailand Digital Health Pass แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด-19 สำหรับเดินทางเข้าพื้นที่ที่ร่วมระบบการตรวจสอบเอกสารรับรองของสหภาพยุโรปได้มากกว่า 60 ประเทศ/ดินแดน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565) ได้แก่ ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป 27 ประเทศ และประเทศนอกสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรอง 33 ประเทศ โดยไทยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนที่ได้รับการรับรองระบบนี้

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดให้ประชาชนเริ่มทดสอบใช้งานระบบแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเอกสารดิจิทัลเกี่ยวกับโควิด-19 ของ EU DCC ใน Thailand Digital Health Pass จะแสดงข้อมูลสำคัญ 2 ส่วน คือ

  1. ข้อมูลพื้นฐานจำเป็นในการยืนยันตัวตน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก อายุ สัญชาติ และหมายเลขหนังสือเดินทาง (ถ้ามี) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในการเชื่อมโยงข้อมูลชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษและหมายเลขหนังสือเดินทาง (passport number) ของผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย
  2. ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ประกอบด้วย

1) ข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด 19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่รับเข็มล่าสุด

2) ข้อมูลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK เฉพาะรุ่นที่ EU รับรอง มีอายุ 7 วัน นับจากวันที่ตรวจล่าสุด

3) ข้อมูลการหายป่วยจากโควิด 19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วย โดยแสดงในรูปแบบ QR Code ที่มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) กำกับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งจะอ่านได้เฉพาะแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาตามมาตรฐานของ EU เท่านั้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเปิดให้เดินทางเข้าประเทศผ่านระบบ Test&Go อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวมถึงยังมีการเข้าประเทศผ่านระบบแซนด์บ็อกซ์และระบบกักตัว จึงต้องมีการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 สหภาพยุโรป (EU) ได้มีมติยอมรับและขึ้นทะเบียนเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด 19 ของประเทศไทย หรือ Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อม ให้มีความเท่าเทียมกับเอกสารรับรองของสหภาพยุโรป (EU Digital COVID Certificate :EU DCC) ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคนจึงสามารถใช้เอกสารรับรองบน Thailand Digital Health Pass ของหมอพร้อม แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด 19 ก่อนเดินทางสู่ประเทศ/ดินแดนที่เข้าร่วมระบบการตรวจสอบเอกสารรับรองของสหภาพยุโรปนี้กว่า 60 ประเทศ/ดินแดน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565) รวมถึงสามารถใช้แสดงข้อมูลก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในประเทศ/ดินแดน เหล่านั้นได้ด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดให้ประชาชนเริ่มทดสอบใช้งานระบบดังกล่าวได้แล้ว

“ต้องขอบคุณคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข และผู้บริหารทั้ง 3 กระทรวง ที่ร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันเรื่องนี้จนประสบความสำเร็จ เชื่อมั่นว่าประชาชนทุกคนจะได้รับความสะดวกจากการใช้งานระบบ Digital Health Pass และสามารถเดินทางระหว่างประเทศได้อย่างอุ่นใจและปลอดภัย” นายอนุทิน กล่าว

ดร.สาธิต กล่าวว่า การเข้าร่วม EU DCC นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน ที่ถือเอกสารรับรองฯ ของประเทศไทยแล้ว ยังจะช่วยให้กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะสุขภาพของนักเดินทางจากประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียน EU DCC ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ของไทย ร้านค้า/หน่วยงานต่างๆ สามารถสแกนคิวอาร์โคดตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวกับโควิด 19 ของนักเดินทางได้เช่นกัน เป็นการยกระดับระบบตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโควิด 19 ของประเทศไทย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่ระบาดได้ง่าย การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ จึงยังคงต้องระมัดระวังสูงสุดยึดมาตรการ VUCA คือ การฉีดวัคซีน การป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา COVID Free Setting และการตรวจ ATK เพื่อช่วยป้องกันการแพร่และรับเชื้อ

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า เอกสารดิจิทัลเกี่ยวกับโควิด 19 ของ EU DCC ใน Thailand Digital Health Pass จะแสดงข้อมูลสำคัญ 2 ส่วน คือ 1.ข้อมูลพื้นฐานจำเป็นในการยืนยันตัวตน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก อายุ สัญชาติ และหมายเลขหนังสือเดินทาง (ถ้ามี) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในการเชื่อมโยงข้อมูลชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษและหมายเลขหนังสือเดินทาง (passport number) ของผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย และ 2.ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด 19 ประกอบด้วย 1) ข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด 19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่รับเข็มล่าสุด 2) ข้อมูลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK เฉพาะรุ่นที่ EU รับรอง มีอายุ 7 วัน นับจากวันที่ตรวจล่าสุด และ 3) ข้อมูลการหายป่วยจากโควิด 19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วย โดยแสดงในรูปแบบ QR Code ที่มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) กำกับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งจะอ่านได้เฉพาะแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาตามมาตรฐานของ EU เท่านั้น

นายธานี กล่าวว่า การที่สหภาพยุโรปรับรอง Thailand Digital Health Pass ให้มีสถานะเทียบเท่า EU Digital COVID Certificate แสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างไทยและยุโรป รวมถึงความสามารถ ความพร้อม และมาตรฐานด้านดิจิทัลของไทย ทำให้ระบบของประเทศไทยเชื่อมโยงกับระบบเอกสารวัคซีน 60 ประเทศ ได้แก่ ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป 27 ประเทศ และประเทศนอกสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรอง 33 ประเทศ โดยไทยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนที่ได้รับการรับรองระบบนี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้าประเทศต่างๆ จะมีความแตกต่างกันในเงื่อนไข ทั้งชนิดวัคซีนและชุดตรวจ ATK ที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรปให้การยอมรับ จึงขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเดินทางทุกครั้ง

น.ส.อัจฉรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ร่วมพัฒนาระบบหลังบ้านกับกระทรวงสาธารณสุข สำหรับออกเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด 19 ตามมาตรฐานสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน นับเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยที่ได้นำเทคโนโลยีทางดิจิทัลมาพัฒนาระบบเอกสารรับรอง เป็นการขับเคลื่อน Digital Transformation ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ช่วยพัฒนามาตรฐานของข้อมูลและยกระดับระบบข้อมูลของประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศในอนาคต สำหรับระบบเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด 19 ที่พัฒนาขึ้น ดำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลจากหน่วยบริการสุขภาพที่ประชาชนเข้ารับบริการ มีการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์กำกับในเอกสารรับรองทุกฉบับ โดยใช้เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานกุญแจสาธารณะ (Public Key Infrastructure หรือ PKI) เพื่อเข้ารหัสลับในการลงลายมือชื่อ สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงและป้องกันการปลอมแปลงได้ มีการจัดเก็บหลักฐานการออกเอกสารรับรองด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA

นพ.เจตน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้ติดตามและผลักดันการจัดทำข้อตกลงดังกล่าวมาโดยตลอด ขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 กระทรวง ที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานจนสำเร็จอย่างรวดเร็ว เนื่องจากระบบนี้มีความสำคัญในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมระบบนี้ สามารถใช้ข้อมูลใน Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อม รวมถึงเอกสารรับรองที่ออกโดยจุดฉีดวัคซีน แสดงกับประเทศปลายทางเพื่อตรวจสอบข้อมูลได้ทันที โดยไม่ต้องขอเอกสารรับรองอื่นๆ อีก ช่วยประหยัดเวลาและลดภาระของประชาชนในการขอเอกสารรับรอง ที่สำคัญ ประชาชนสามารถใช้งานระบบนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับการนำระบบไปใช้จริง (Go Live) คณะกรรมาธิการการสาธารณสุขจะสนับสนุนและติดตามการดำเนินการ รวมถึงรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในการใช้งานระบบอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้สามารถนำระบบไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า