SHARE

คัดลอกแล้ว

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดงานแถลงข่าวการจัดแสดงอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เป็นประธานในงาน พร้อมด้วย เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย มิสเตอร์โอตากะ มาซาโตะ (MR.OTAKA MASATO), นายโฆสิต สุวินิจจิต คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ ที่ปรึกษาการจัดอาคารนิทรรศการไทย (THAILAND PAVILION), นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะเข้าร่วมงาน

สำหรับงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “Designing Future Society for Our Lives” การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์เพื่อเป้าหมายชีวิตที่มีความสุขและสุขภาพดี ในส่วนของประเทศไทยมีแนวคิดหลักในการจัดงานครั้งนี้ คือ “THAILAND Connecting Lives for Greatest Happiness”สร้างสรรค์ชีวิตเพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่ และแนวคิดรอง Thai-Smile Connecting Happiness World Destination ยิ้มสยามที่ก่อให้เกิดความสุขเป็นเป้าหมายปลายทางของคนทั่วโลก โดยหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยตั้งแต่ ธรรมชาติ ภูมิปัญญา ศิลปวัฒนธรรม นวัตกรรม จนถึงศักยภาพและความพร้อมด้านสาธารณสุข มานำเสนอแก่ผู้ชมจากทั่วโลก

ในส่วนของอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ตั้งอยู่ในพื้นที่ A13 โซน Connecting  Lives รูปแบบการก่อสร้างแบบ Type A หมายถึงประเทศที่ได้รับพื้นที่ขนาดใหญ่ มีการออกแบบและดำเนินการก่อสร้างเอง ทำให้สามารถสะท้อนถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรม รวมไปถึงศักยภาพของประเทศไทยได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตัวอาคารได้ออกแบบโดยนำศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยโบราณให้ผสานเข้ากับวิธีก่อสร้างสมัยใหม่ ใช้เทคนิคย่อมุมที่อยู่บนยอดอาคารมณฑป

ซึ่งเป็นลักษณะ “ทรงจอมแห” เป็นรูปทรงของหลังคา และด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ตั้งอาคาร ซึ่งมีหน้าแคบและลึกยาว รูปทรงอาคารในครั้งนี้จึงถูกออกแบบให้เป็นทรงครึ่งจั่วประกอบกับการใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่ขนาบข้างอาคารยาวตลอดแนวเป็นการสร้างเทคนิคภาพสะท้อน เมื่อมองจากด้านหน้าทางเข้าหลักทำให้เห็นความเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่สมบูรณ์แบบ สร้างความโดดเด่นสะดุดตา และยังคงความสมดุลของหน้าจั่วแบบสถาปัตยกรรมไทยไว้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านการออกแบบของไทยด้วยการผสมผสานความละเมียดละไมของศิลปะสถาปัตยกรรมไทยที่ประยุกต์ใช้กับวัสดุและวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่ ทำให้อาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในครั้งนี้งดงามทันสมัยแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา

โลโก้ประจำอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในครั้งนี้คือ เฉลว ที่มีแนวความคิดมาจากเฉลวไม้จักสานที่ปักบนหม้อยา อันเป็นสัญลักษณ์ของการแพทย์แผนไทยตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยสื่อความหมายถึงภูมิปัญญาไทยในการดูแลใส่ใจด้านสุขภาพ

ภายในอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการ จาก 1 สู่ 1,000,000 ที่จะนำประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก (Medical and Wellness Hub) ประกอบด้วย

  • 1 หมุดหมายสุขภาพโลก (World’s destination for healthcare and wellness)

ปักหมุดอาคารนิทรรศการไทย ร่วมทำสัญลักษณ์ถ่ายภาพเช็คอินเพื่อแชร์ให้ทั่วโลกได้รู้จักดินแดนแห่งความกินดี อยู่ดีสไตล์ไทยๆ โดยมี “น้องภูมิใจ” มาสคอตตัวแทนประเทศไทยรอต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตร

  • 10 มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย (Enchantments of Thailand)

นำเสนอความงดงามของธรรมชาติ ภูมิปัญญา สมุนไพรไทย มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ และรอยยิ้มของผู้คน ผ่านการจัดแสดงแบบ Immersive Experience ภายในโรงภาพยนตร์ Wisdom of life Immersive Theater

  • 100 ศักยภาพสาธารณสุขไทย (Potentials of Thai Public Health System)

นำเสนอเรื่องราวการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ไทยอย่างครบวงจรผ่านวิดีทัศน์ “Eye Opener เปิดโลกระบบสาธารณสุขไทย” ควบคู่กับวัตถุจัดแสดงกว่า 100 สิ่ง ที่สื่อถึงศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทย ซึ่งจะพาผู้ชมท่องไปในโลกสาธารณสุขไทยที่ประกอบไปด้วย Medical service hub สถานบริการรักษาพยาบาลแบบครบวงจรที่ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล Academic hub การเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยด้านการแพทย์และการวิจัย Wellness hub สถานบริการที่รองรับการพักผ่อนเพื่อรักษาสุขภาพที่เน้นการฟื้นฟูและรักษาสุขภาพ รวมทั้ง Product Hub ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ

  • 1,000 สถานบริการทางการเเพทย์ (Medical Facilities) นำเสนอศักยภาพทางการแพทย์และการบริการ ของไทยที่ได้มาตรฐานในระดับสากล ผ่านทัชสกรีนที่สามารถเข้าถึงการรักษา 15 กลุ่มโรคที่นักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นิยม มารักษาที่ไทย ผ่านโรงพยาบาลในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานสากล ตลอดจนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่นำเสนอสปาและเวลเนสที่ได้รับมาตรฐาน Thai World Class Spa และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไทย อีกทั้งสามารถสัมผัสประสบการณ์ผ่อนคลายผ่านห้องจัดแสดง “ท่วงทำนองแห่งสุขภาพดีแบบไทย” ตามหลักเเพทย์เเผนไทยที่จะช่วยบำบัด ผ่อนคลาย ปรับสมดุลร่างกายแก่ทุกคน นอกจากนี้ รอบห้องจัดแสดงยังนำเสนอศักยภาพทางการแพทย์ของไทยผ่านการจัดอันดับที่ทั่วโลกยอมรับ เช่น ประเทศที่ฟื้นตัวและรับมือสถานการณ์ โควิด-19 ได้ดีที่สุด ประเทศที่มีกิจกรรมเชิงสุขภาพและสถานบริการเพื่อสุขภาพดีติดอันดับโลก ฯลฯ เสมือนข้อพิสูจน์ว่าประเทศไทยเป็นหมุดหมายปลายทางด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างแท้จริง
  • 10,000 เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เรียนรู้เรื่องราววัตถุดิบและอาหารไทย ผ่านโซนจัดแสดงต่าง ๆ ได้แก่ “เกมรังสรรค์เมนูสุขภาพสไตล์คุณ” ผ่าน Art Wall Installation และรับชม “อาหารไทยติดอันดับโลก” ที่สามารถเลือกดูเมนูอาหาร ติดอันดับผ่าน Interactive Table เช่น ผัดกะเพรา ผัดไทย มัสมั่น ฯลฯ ทั้งยังต่อยอดเป็นเมนูฟิวชั่นต่าง ๆ เช่น พิซซ่ากะเพรา ไข่ดาว เกี๊ยวซ่าผัดไทย สเต็กซอสมัสมั่น ฯลฯ พร้อมรู้จักกับ “สำรับอาหารไทย 4 ภาค” ที่จำลองเมนูสุขภาพของแต่ละภูมิภาคซึ่งรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบของไทย
  • 100,000 ผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกัน พื้นที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ทั้งเครื่องแต่งกาย ของใช้ อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าที่ระลึก ผลิตภัณฑ์หัตถกรรม รวมถึงโปรแกรมท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ที่ทุกคนล้วนเข้าถึงสุขภาพดีในแบบไทยๆได้
  • 1,000,000 รอยยิ้มแห่งความประทับใจ พื้นที่รวบรวมล้านความรู้สึกประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ได้มีส่วนร่วมแบ่งปันรอยยิ้มให้กับคนทั่วโลก

พร้อมกันนี้ จัดให้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยที่จะมาสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจและความประทับใจแก่ ผู้ที่มาร่วมชมงาน โดยมีแนวคิดหลัก คือ Creative Performances ยิ้มสยามงามสู่สังคมโลก เพื่อผลักดัน Soft Power เผยแพร่ความเป็นไทยผ่านการแสดงที่เข้าถึงได้ง่ายและร่วมสมัยในสไตล์ Contemporary Fashionable ซึ่งการแสดงในแต่ละชุดนั้นจะแสดงให้เห็นภูมิวัฒนธรรมของประเทศไทยที่ผูกพัน สอดคล้องกับธรรมชาติ วิถีชีวิต และตามฤดูกาลที่หมุนเวียน ทั้งการละเล่น และประเพณีที่หลากหลาย สามารถสร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน รวมทั้งมอบความประทับใจให้แก่ผู้มาเข้าชมทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการและกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ จากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมจัดกิจกรรมตลอดการจัดงาน

ในส่วนของมาสคอตประจำอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในครั้งนี้ชื่อว่า “น้องภูมิใจ” โดยมีแนวคิดการออกแบบมาจากแมงสี่หูห้าตาในตำนาน ที่มาพร้อมสิ่งวิเศษทั้ง 4 ได้แก่ รอยยิ้มสยาม พรหมวิหาร 4 มี 4 หู 5 ตา และเฉลว ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆของประเทศไทย พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนทุกคนด้วยรอยยิ้มสยาม

ด้านเครื่องแต่งกายเจ้าหน้าที่ มีด้วยกัน 2 ชุด ชุดแรก ชื่อว่า เอกลักษณ์สยาม ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดสมัยรัชกาล ที่ 5 โดยนำความเป็นไทย ผสมผสานกับความเจริญก้าวหน้าของโลก โดยที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของไทย ชุดที่สอง ชื่อว่า ภูมิพัสตรา เป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ในสมัยรัชกาลที่ 1-3 โดยนำรูปแบบการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์มาผสมผสานกับรูปแบบเสื้อผ้าของสองวัฒนธรรมระหว่าง ไทย-ญี่ปุ่น โดยผสมผสานความเป็นทางการกับลุคสบายๆ เข้าด้วยกัน

โดยทั้ง น้องภูมิใจ และเครื่องแต่งกายเจ้าหน้าที่ประจำอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ล้วนเป็นผลงานจากผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดออกแบบมาสคอตและเครื่องแต่งกายเจ้าหน้าที่ประจำอาคารนิทรรศการไทย ซึ่งได้จัดประกวดไปเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา โดยผลงานดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งความน่าประทับใจให้กับทุกท่านได้รับรู้ถึงวิถีชีวิต ภูมิปัญญาไทยได้เป็นอย่างดี

จะเห็นได้ว่าท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-เชิงการแพทย์ หรือ Medical and Wellness Tourism ของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท สำหรับกลุ่ม Wellness Economy ซึ่งมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-เชิงการแพทย์ และเราคาดการณ์ว่าในระยะยาว มูลค่ารวมของตลาดด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ของไทยจะสามารถสร้างรายได้ถึง 2.2 ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2577 ซึ่งจะส่งผลต่อประเทศในการเกิดเป็นเศรษฐกิจศักยภาพสูง ดังนั้นการที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก (Medical & Wellness Hub) บนเวทีโลก ซึ่งจะก่อให้เกิดการขยายตลาดด้านสุขภาพของไทย อีกทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว รวมทั้ง Soft Power ด้านต่าง ๆ ของประเทศไทยแก่สายตาชาวญี่ปุ่นและชาวโลก รวมถึงเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือกับนานาประเทศ เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์กับนานาชาติ

จากการประมาณการ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมจากทั่วโลก รวมถึงประเทศสมาชิกและองค์กรระหว่างประเทศจากทั่วโลกเข้าร่วมงานประมาณ 28.2 ล้านคน ซึ่งจากจำนวนผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว คาดว่าจะมีประเทศกลุ่มเป้าหมายที่ประเทศไทยมุ่งขยายตลาดเศรษฐกิจสุขภาพ ประกอบด้วย ประเทศญี่ปุ่น, กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) รวมถึงกลุ่มประเทศ CLMV รวมทั้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นโอกาสสำคัญที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพเพื่อดึงดูดนักลงทุนกลุ่มทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศอย่างยั่งยืน

เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมให้กับประชาชนคนไทยทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดแสดงภายในอาคารนิทรรศการไทย ผ่านกิจกรรม Thai Smile @ Expo 2025 ส่งยิ้มไทยไปเอ็กซ์โป2025 จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนส่งภาพรอยยิ้มผ่านโซเชียลมีเดียของท่าน และติดแฮชแท็ก #thaismileatexpo2025 #ยิ้มไทยไปเอ็กซ์โป2025 ภาพรอยยิ้มของท่านใดที่มีจำนวนยอดไลค์มากที่สุด จะได้รับรางวัลใหญ่ตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ โอซากา พร้อมทัวร์สุดพิเศษในงาน EXPO 2025 จำนวน 2 ที่นั่ง โดยสามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์- 5 มีนาคม 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Thailand Pavilion World Expo 2025

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของประเทศไทยในงานระดับโลกที่จะได้โชว์ศักยภาพของประเทศไทย รวมถึงการนำสถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม มนต์เสน่ห์ของประเทศไทย และความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขไปเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมภาคภูมิใจ ร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และไปเยี่ยมชมอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) ในงาน EXPO 2025 OSAKA, KANSAI, JAPAN ระหว่างวันที่ 13 เมษายน – 13 ตุลาคม 2568 ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ด้วยกัน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า