SHARE

คัดลอกแล้ว


  • หนึ่งในพิธีกรรายการทีนทอล์ค และอีฟอร์ทีน รายการทีวียอดนิยมของเหล่าวัยรุ่นยุค 90
  • ทิ้งชีวิตที่มั่นคงในเมืองไทย ยอมนับหนึ่งใหม่ที่อเมริกา เพื่อทำตามความฝัน
  • “ถ้าอยากเป็นเชฟระดับโลก ต้องเรียนรู้จากเชฟระดับโลก”
  • เจ้าของร้านอาหารไทยในนิวยอร์ก ที่ได้รับความนิยมจนต้องจองคิว และมีคนดังเป็นลูกค้ามากมาย อาทิ Ryan Gosling , Sam Rockwell และ 2 พี่น้องซูเปอร์โมเดล Gigi Hadid กับ Bella Hadid
  • หญิงไทยคนแรกที่ออกรายการ Iron Chef America
  • ถ้าเปรียบกับเมนูอาหารแล้ว เธอบอกว่า ชีวิตตัวเองเหมือนต้มยำ เส้นบะหมี่หมึกดำ

 

“Thaimee คือชื่อร้านอาหารไทยในย่านอีสต์วิลเลจ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ของ “เชฟหงส์” หรือ “งามพร้อม ไทยมี” ที่ตัดสินใจเดินทางไปทำตามความใฝ่ฝันของตัวเองเมื่อ 12 ปีก่อน

เชฟหงส์เกิดและเติบโตที่เชียงใหม่ ช่วงมัธยมปลายได้มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองพอร์ตแลนด์ สหรัฐฯ และขณะศึกษาในระดับปริญญาตรีที่คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาภาษาเยอรมัน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เธอได้มีโอกาสทำงานในแวดวงบันเทิง ทั้งถ่ายแบบโฆษณา และเป็นหนึ่งในพิธีกรทีนทอล์ค และอีฟอร์ทีน รายการทีวียอดนิยมของเหล่าวัยรุ่นยุค 90

หลังสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพายัพ เธอก็เข้าทำงานด้าน Corporate Social Responsibility (CSR) ของบริษัทยาแห่งหนึ่ง เป็นผู้บริหารในขณะที่อายุ 20 กลางๆ

ในสายตาคนทั่วไป นี่คือชีวิตที่เพอร์เฟกต์ แต่เชฟหงส์คิดว่า มันยังไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง แต่เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ทำอาหารแล้ว เธอรู้สึกมีความสุขมากที่สุด ญาติมิตรที่ได้รับประทาน ก็มีความสุขเช่นกัน และเมื่อไม่อาจต้านทานเสียงเรียกร้องภายในได้ เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงาน แล้วเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกา พร้อมเงินติดตัวไม่มากนัก เพื่อทำในสิ่งที่ตนเองรักในมหานครใหญ่อย่างนิวยอร์ก ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมความสุดยอดในด้านต่างๆ ไว้มากมาย รวมถึงเรื่องอาหารการกินด้วย

ก่อนที่คุณจะไปอเมริกา สามารถใช้คำว่าชีวิตเพอร์เฟกต์ได้เลย มีความเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน คือทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว แต่คุณก็กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ กล้าที่จะเสี่ยง

เพราะหงส์รู้สึกว่า ถ้าจะเป็นเชฟ ต้องเป็นเชฟระดับโลก แม้เราเป็นแค่คนเล็กๆ คนหนึ่ง แต่เราสามารถทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ ที่หงส์ไม่มีความกลัว เพราะมีการวางแผน มีแผนสำรอง และมีการคำนวณไว้หมดแล้ว ตอนนั้นหงส์อายุ 30 ปี ถ้าภายใน 2 ปี ยังไม่มีอะไร หงส์สามารถกลับมาทำงานที่เมืองไทยได้อีก

ตอนนั้นมีเป้าหมายแล้วว่า ต้องเป็นเชฟระดับโลก

ใช่ค่ะ (ตอบอย่างหนักแน่น)

มันดูเป็นการต่อสู้ที่โรแมนติก เพราะว่าคุณสามารถทำได้ แต่เชื่อว่า ระหว่างทางต้องเจอสิ่งที่หนักหนาสาหัส

อยู่เมืองไทยหงส์มีทุกอย่าง แต่ที่อเมริกาหงส์ไม่มีอะไรเลย เรารู้จักคน 2 คนในนิวยอร์ก คือนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เราเคยไปอยู่บ้านเขา ส่วนอีกคนคือนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เคยมาอยู่บ้านเรา ช่วงแรกหงส์ต้องใช้ชีวิตบนโซฟาในคอนโดบ้านเพื่อน มีรายได้จากการสอนทำอาหารไทยให้กับกลุ่มเพื่อนๆ หงส์เริ่มจากจุดเล็กๆ ทีละจุด ทีละจุด เพื่อให้มันกลายเป็นรูปภาพขึ้นมา

ต่อมาคุณก็เข้าไปทำงานในร้านอาหาร Spice Market ของ Jean-Georges Vongerichten เชฟชื่อดังระดับโลก

หงส์ไปทำงานในระดับล่างที่สุด ที่ร้านไม่มีใครรู้ว่าเราเคยเป็นผู้บริหารมาก่อน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เคยโดนดุจนรู้สึกว่า เรามาถูกทางหรือเปล่า

ดุสไตล์ฝรั่งกับคนไทย ต่างกันไหม ?

ต่างกัน ฝรั่งดุนี่คือด่าเลย เชฟใหญ่ๆ ด่าเราเลยนะ เพราะเรายังไม่มีผลงาน และหงส์อยู่นิวยอร์กนะคะ ซึ่งเป็นเมืองที่มีมาตรฐานสูงมาก ช่วงแรกโดนมีดบาด มือไหม้ จนกลายเป็นเรื่องปกติ

แต่มีอยู่วันหนึ่งหงส์ไปช่วยเชฟเตรียมของ เชฟก็ถามว่ามาจากไหน หงส์ก็ตอบว่ามาจากเมืองไทย เขาก็ถามว่าชอบผัดไทยที่ร้านนี้ไหม หงส์ก็บอกจะให้พูดจริงๆ เหรอ เขาจึงให้หงส์ลองทำผัดไทยให้ชิม

ระหว่างทำผัดไทยหงส์ก็คิดว่า พระเจ้านำเรามาถึงขั้นนี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องทำผัดไทยจานนี้ให้อร่อยที่สุดในโลก พอเชฟชิมก็ชมว่าอร่อย ก่อนไปบอก Jean-Georges ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน และเป็นหนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก จำได้เลยว่า วันนั้นเดินร้องไห้กลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจ และต่อมาหงส์ก็มีโอกาสทำผัดไทยให้ Jean-Georges ทาน แล้วเขาก็ชมว่า อร่อยเหมือนกับที่เคยทานในเมืองไทย

หลังจากนั้นเชฟก็เริ่มสอนงาน อย่างกำลังคุยๆ กันอยู่ เขาก็บอกว่า ไก่สุกแล้วนะ แต่ไก่ยังอยู่ในเตาอบ พอไปดูก็สุกจริงๆ เราก็สงสัยว่าทำไมเชฟถึงรู้ แล้วเขาสอนให้ฟังเสียงต่างๆ เช่นเสียงของน้ำมัน ทุกวันนี้จึงคล้ายๆ สไปเดอร์แมน คือมันจะมีเซ้นส์ไปหมดทุกอย่าง

เหมือนเป็นการฝึกเซ้นส์บางอย่างที่ล้ำลึก ที่คนทั่วไปอาจเข้าไมถึง

ใช่ค่ะ แล้วอะไรที่เขาบอกว่าดี เราก็ทำ แต่อะไรที่ส่งผลกระทบต่อการเป็นเชฟ เราก็ไม่ทำ เช่น หงส์ไม่สูบบุหรี่ เพราะมันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรับรู้รสชาติ แล้วหงส์ต้องเรียนรู้ด้วยการชิมอาหารเยอะๆ เหมือนนักเขียนที่ต้องอ่านมากๆ เพื่อให้มีข้อมูลในการเขียนหนังสือ

อย่างเชฟดังๆ ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน ทุกคนต้องอดทนและผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก และการเป็นเชฟไม่ใช่แค่ทำอาหาร แต่ต้องมีความเป็นผู้นำ เพราะต้องดูแลทีมงานทั้งหมดให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

แล้ววันหนึ่งผู้จัดการร้าน ซึ่งเขาทำพีอาร์ให้ร้านอาหารดังๆ ระดับโลกหลายแห่ง ก็เข้ามาคุยกับหงส์ เขาก็บอกว่าถ้าต้องการเป็นเชฟในอเมริกา จะต้องมีความเป็นเซเลบริตี้เชฟ ซึ่งเขามองว่าหงส์มีศักยภาพตรงนั้น หงส์ก็ตอบตกลงที่จะร่วมงานกับเขา เพราะมันเป็นโอกาสที่ดี หลังจากนั้นเขาก็เขียนแผนธุรกิจขึ้นมา แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไปไม่รอด เพราะเขาไม่ใช่พาร์ทเนอร์ที่ดี

แต่พอใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ หงส์ก็คิดว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิต มีข้อดีหมดเลยนะ อย่างคนนี้ถึงแม้ไม่ใช่พาร์ทเนอร์ที่ดี แต่เขาก็เป็นคนที่จุดประกายให้ว่า เราสามารถเปิดร้านอาหารเองได้

เพราะถ้าคนที่มีประสบการณ์ระดับนี้ ที่ทำพีอาร์ให้ร้านอาหารดังๆ ระดับโลก มาชวนเราร่วมธุรกิจ แสดงว่าเขาต้องเห็นอะไรในตัวเรา ถึงแม้ไม่ได้ร่วมงานกัน แต่เราก็มีไอเดียแล้ว หงส์จึงนำแผนงานเหล่านั้นมาลุยต่อ

ก่อนจะเปิดร้านอาหาร เป็นช่วงที่หนักหนาสาหัสมากๆ

เป็นสิ่งที่ยากที่สุดเท่าที่เคยทำมา แต่ก็เป็นของขวัญที่ล้ำค่า คือยากมาก เหนื่อยมาก และเจ็บมาก เพราะเราเป็นคนที่เดินทางตามหาฝัน ในระหว่างทางก็ต้องสูญเสียตัวตน เพราะก่อนไปอเมริกา หงส์มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่โดนความเจ็บปวด โดนหักหลัง โดนสิ่งต่างๆ สารพัด มาบั่นทอน แต่สิ่งที่ได้มาก็คือ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง สิ่งที่คุณเจอ ก็ทำให้เข้มแข็งขึ้น

ใช่ค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เราจะโฟกัสในสิ่งที่ไม่ควรโฟกัส แต่ช่วงหลัง ถ้าเป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เราก็ไม่ไปให้ความสำคัญ เพราะเรามีสิ่งอื่นที่ใหญ่กว่า ที่น่าโฟกัสมากกว่า

 ระหว่างที่กำลังจะเปิดร้าน ต้องประสบปัญหาอะไรที่หนักๆ อีก ?

จะเอาเรื่องอะไรล่ะคะ เรื่องเงิน เรื่องคน เรื่องการหักหลัง จะเอาเรื่องอะไร

เรื่องที่คุณคิดว่า หนักหนาสาหัสที่สุด  

วันที่เซ็นสัญญาเช่าตึก เพื่อนกันนี่แหละโทรมาบอกว่าขอถอนตัว เราก็คิดว่า จะทำยังไงดี เพราะเซ็นสัญญาไปแล้ว 15 ปี ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละหมื่นเหรียญ ตอนนั้นทางเดินตรงหน้ามี 2 ช้อยส์ให้เลือก คือ หยุด หรือไปต่อ แล้วถ้าไปต่อ จะเอาเงินจากไหน

เมื่อหงส์เลือกที่จะไปต่อ ตอนนั้นรู้จักใคร ก็เข้าไปคุยกับเขาหมดเลย กระทั่งเปิดร้านได้ แต่ก็เป็นไปอย่างขรุขระ เปิดมาช่วงแรกๆ พนักงานจัดจานไม่สวย หงส์ก็โมโห เพราะเรามีสแตนดาร์ดแบบโอเว่อร์มาก แต่แล้ววันหนึ่งพอมองไปรอบๆ ร้าน หงส์ก็เห็นว่า ทั้งๆ ที่ร้านเราไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่ทำไมลูกค้าถึงรู้สึกแฮปปี้ ทำให้หงส์เริ่มเข้าใจว่า ลูกค้าไม่ได้ต้องการความเพอร์เฟกต์ แต่ต้องการประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าประทับใจ

ใช้เวลานานไหม กว่าร้านเริ่มมีแนวโน้มที่ดี ?

หงส์โชคดีที่ใช้เวลาไม่นาน (หัวเราะ) แต่หงส์ต้องทำงานหนักมาก ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อวัน พอเปิดได้ 3 เดือน ก็เริ่มมีรีวิวจากสื่อต่างๆ เช่น Wall Street Journal , The New York Times , สถานี NBC , Gotham Magazine จนวันหนึ่งโปรดิวเซอร์ของรายการ Iron Chef America มาทานอาหารที่ร้าน ซึ่งลักษณะร้านของหงส์เป็นครัวเปิด ลูกค้าสามารถคุยกับเชฟได้ เขาก็ถามหงส์ว่า สนใจไปออกรายการไหม

พอคุยกับเขาเสร็จ หงส์เดินไปร้องไห้ข้างหลังครัวเลย นึกถึงวันที่เราออกจากกรุงเทพฯ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเราต้องสู้ทุกวัน เหมือนวิ่งมาราธอน วันต่อมาเขาก็ส่งคนมาเเคสติ้ง แล้วเราก็ได้ และพอไปออกรายการ จากเดิมที่ลูกค้าเยอะอยู่แล้ว ก็ยิ่งเยอะขึ้นไปอีก

แต่ก่อนวันที่จะไปออกรายการ หงส์ทำงานจนดึก แล้วก็เหนื่อยมาก เขานัดให้ไปที่สตูดิโอตอน 6 โมงเช้า โดยทางรายการให้ทำอาหาร 4 จาน ภายในเวลา 1 ชั่วโมง แต่หงส์ทำไป 20 จานเลย ซึ่งผลออกมาก็ดีนะคะ และหลังจากวันนั้น ถ้าพูดถึงอาหารไทย เขาก็จะนึกถึงเรา แล้วคนเอเชียที่อยู่ต่างประเทศ มองเราเป็นฮีโร่เลย

ร้านของคุณมีคนดังเป็นลูกค้ามากมาย อย่าง Ryan Gosling ก็เคยมาที่นี้ด้วย

วันที่เขาเดินเข้ามา ลูกค้าเงียบกันทั้งร้าน หรืออย่าง Sam Rockwell ที่เพิ่งได้ออสการ์ เคยมากับแฟน แต่วันนั้นร้านเต็ม วันต่อมาเขากับแฟนก็มาอีก เพราะลงคิวจองไว้ หรืออย่าง 2 พี่น้องซูเปอร์โมเดล Gigi Hadid กับ Bella Hadid คุณแม่ของพวกเขา (Yolanda Hadid) ก็มายืนต่อคิว 45 นาที เขาบอกว่าลูกสาวอยากทานอาหารที่ร้านนี้มาก

แต่จริงๆ แล้วก็มีหลายร้านที่มีลูกค้าเป็นคนดัง หงส์ไม่เคยมองว่าร้านของเราเหนือกว่าร้านอื่นๆ หงส์คิดแค่ว่า ถ้าวันนี้มีปัญหา เราต้องแก้ให้ได้ และพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้

หงส์มีความคิดที่เป็นปรัชญานิดๆ เพราะชอบอ่านหนังสือ อย่างที่แม่ชีเทเรซา (Mother Teresa) กล่าวว่า Not all of us can do great things. But we can do small things with great love. ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่เราสามารถทำสิ่งเล็กๆ ด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ได้ เราก็ทำไปวันละนิด เช่น วันนี้เราผิดพลาด ก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาด เพื่อในวันพรุ่งนี้จะได้ดีกว่าเดิม และไม่ต้องผิดซ้ำเรื่องเดิม พอเรียนรู้ไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้เราดีขึ้นกว่าเมื่อวาน

และสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากนิวยอร์ก คือ ?

วัฒนธรรมที่นั่นคือ การกล้าได้ กล้าเสนอตัวเอง แต่ต้องนำเสนออย่างมีเสน่ห์ ทำอะไรแบบสุกเอาเผากินไม่ได้ เพราะนิวยอร์กเป็นเมืองที่มีการแข่งขันสูง เรามีแค่หนึ่งโอกาสที่จะสร้างความประทับใจ ถ้าลูกค้าเข้ามาครั้งแรกแล้วชอบ เขาจะกลับมา แต่ถ้าไม่ชอบ เขาก็บ๊ายบาย เพราะเขามีทางเลือกอื่นๆ ตั้งเยอะแยะ

 แล้วคุณคิดว่า อะไรคือเสน่ห์ของอาหารไทย ?

เยอะมาก ทั้งดีต่อสุขภาพ ไม่รู้สึกอึดอัดหลังทานเสร็จแล้ว อีกทั้งรสชาติกลมกล่อม มีเปรี้ยวหวานมันเค็มครบครัน มีความคิดสร้างสรรค์ คนกินส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์ ชอบอาหารไทย และเราสามารถประยุกต์ พัฒนาได้เรื่อยๆ แต่ต้องไม่ลืมรากเหง้า เช่น ถ้าเป็นเมนูผัดไทย ก็ต้องเป็นผัดไทย ถ้าบอกว่าผัดซีอิ๊ว มันก็ต้องเป็นผัดซีอิ๊ว

และการให้บริการก็สำคัญ เชฟเป็นงานขายบริการ ขายความคิด ขายความสุข ถ้าคนมากินแล้วอารมณ์เสียกลับไป มันดีตรงไหนล่ะ หรือแค่รอยยิ้มของพนักงานเสิร์ฟ ก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ดีให้ร้านได้แล้ว เพราะคนเขาไม่จำหรอกว่าเราพูดอะไร แต่คนจะจดจำว่า เราทำให้เขารู้สึกอย่างไร

และหงส์จะบอกกับพนักงานเสมอว่า ร้านเราไม่ได้เพอร์เฟกต์ มีข้อผิดพลาดบ้าง ต้องปรับปรุงพัฒนาตลอดเวลา เราอยู่กับที่ไม่ได้ เพราะถ้าอยู่กับที่ เท่ากับว่ากำลังถอยหลัง และเมื่อมองย้อนกลับไป ถือว่าเป็นความโชคดีที่หงส์มีเงินทุนน้อยในช่วงเปิดร้าน ทำให้ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เยอะมาก

ถ้าเปรียบชีวิตเป็นอาหาร คุณคิดว่าชีวิตตัวเองคืออาหารเมนูใด ?

ต้มยำ และต้องเป็นเส้นบะหมี่หมึกดำ คือมันก็มีช่วงดาร์กของชีวิต แต่เราเปลี่ยนจุดนั้นมาเป็นเรื่องที่ดี แล้วชีวิตมันก็แซ่บเสมอ มีเรื่องสนุกสนานเกิดขึ้นตลอดเวลา

ชีวิตถึงแม้จะเจอเรื่องทุกข์ยากบ้าง แต่รวมๆ แล้วถือว่าอร่อย

อร่อยสิคะ เพราะจากที่เคยขม ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นหวาน ถ้ามันจะขมอีก เราก็อยู่กับมันได้ เพราะเราเรียนรู้ที่จะเอนจอยกับมัน

ถ้าให้วิเคราะห์ตัวเองสัก 3 ข้อ คิดว่าคุณสมบัติใดบ้าง ที่ทำให้คุณฝ่าฟันจนมาถึงวันนี้ได้ ?  

อันดับแรกเลยก็คือ ความคิด ความคิดในวางแผนและเรียนรู้ โดยหงส์คิดว่า ถ้าเราต้องการเป็นเชฟระดับเชฟโลก เราต้องเรียนรู้จากเชฟระดับโลก แล้วเชฟระดับโลกมีกี่คนที่สามารถเป็นครูให้เราได้ หนึ่งในนั้นก็มี Jean-Georges (เจ้าของร้านอาหารที่เธอไปสมัครงานเป็นผู้ช่วยเชฟ) แล้วก็ต้องเรียนรู้ให้เยอะๆ ทั้งจากการกิน และการอ่าน เพื่อให้รู้ว่าร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จ เขาทำกันอย่างไร

อันดับต่อมาคือ ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมจริงๆ เป็นคนที่กัดไม่ปล่อย ส่วนข้อสุดท้ายก็คือ รับฟังผู้อื่น เพราะเราไม่ได้เก่งที่สุด ต้องมีผู้รู้ที่คอยชักนำไปในทางที่ดี แล้วนำคำชี้แนะต่างๆ มาขบคิดพิจารณา ประมวลผลจนได้แนวทางหรือวิธีการที่ดีที่สุด

หลังจบการสนทนา สิ่งที่ผู้สัมภาษณ์สัมผัสได้ก็คือ ความรักอันลึกซึ้งที่เธอมีต่อวิชาชีพ ความรักที่ทำให้เธอกล้าที่สู้ กล้าที่เสี่ยง แม้ระหว่างทางจะต้องเจอแรงกดดัน บีบคั้น ความเจ็บปวดมากมาย แต่เมื่อมาถึงวันนี้แล้วมองย้อนกลับไป สิ่งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ หรือความสุข ก็เปรียบได้ดังเครื่องปรุง ที่ทำให้ต้มยำเส้นบะหมี่หมึกดำแห่งชีวิตของเธอ มีรสชาติที่กลมกล่อม

[box] True Thai: Real Flavors for Every Table คือหนังสือภาคภาษาอังกฤษของเชฟหงส์ ที่ได้รับเลือกจากนิตยสาร Vanity Fair ให้เป็นหนึ่งในหนังสือทำอาหารที่ดีที่สุดในปี 2015 ล่าสุดเธอมีผลงานหนังสือในภาคภาษาไทยที่ชื่อว่า “เชฟหญิงเหล็ก สูตรชีวิตจากครัวไทยในนิวยอร์ก” มีวางจำหน่ายเเล้วในร้านหนังสือทั่วไป [/box]

 

ถ่ายภาพโดย วุฒินันท์ จันโทริ

ขอบคุณ คุณเฉลิมพล ฤทธิชัย เเละ คุณนนทลิกานต์ สุริยวัฒน์

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า