SHARE

คัดลอกแล้ว

แฮชแท็กอันดับหนึ่ง ประเด็นร้อนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ #จับโป๊ะโดมปฏิวัติ คืออะไรกันแน่

ข่าวนักศึกษาของสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ โดนกล่าวหาว่าพัวพันกับเหตุการณ์ข่มขืน และการใช้ยาเสพติด ทั้งหมดมีเรื่องราวอย่างไร Workpoint News จะสรุปสาระสำคัญของเรื่องนี้ให้ฟังใน 18 ข้อ

1) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในทุกๆปี จะมีการเลือกตั้งภายใน เพื่อหาผู้มาทำหน้าที่สภาผู้แทนนักศึกษา โดยพรรคการเมืองต่างๆ ก็จะเป็นนักศึกษาที่ลงสมัครกันเอง

2) 20 สิงหาคม 2018 นักศึกษากลุ่มหนึ่งนำโดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิ้น” นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ได้ร่วมกันก่อตั้งพรรค “โดมปฏิวัติ” ขึ้นมา เพื่อส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งสภานักศึกษา

พรรคโดมปฏิวัติ ระบุว่าอุดมการณ์ของตัวเองคือเป็นพรรคการเมืองหัวก้าวหน้าในธรรมศาสตร์ โดยเชื่อว่ามหาวิทยาลัยเป็นของนักศึกษาและประชาชน มิใช่เป็นของผู้บริหารเพียงอย่างเดียว โดยผู้บริหารจะต้องทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของนักศึกษาและประชาชน

3) มีเสียงวิจารณ์ว่า พรรคโดมปฏิวัติเป็นกลุ่มหัวรุนแรง เพราะไม่ใช่แค่เสนอนโยบายเท่านั้น พวกเขายังวิจารณ์ไปถึงการเมืองในภาพใหญ่ของประเทศด้วย ในเฟซบุ๊กของพรรค มีการวิจารณ์รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง วิจารณ์เรื่องเพชรซาอุฯ ขณะที่คำหยาบคายถูกหยิบมาใช้เป็นเรื่องปกติ

4) 26 กันยายน 2018 ในการเลือกตั้งสภาผู้แทน สมัยแรกของพรรค พรรคโดมปฏิวัติได้คะแนนเสียงเข้ามาเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนนเสียง 1,322 เสียง พวกเขาไม่ชนะการเลือกตั้งในปีแรก

5) เวลาผ่านไป 1 ปี จุดยืนของพรรคโดมปฏิวัติยังไม่เปลี่ยน คือวิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย และ การเมืองภาพใหญ่ของประเทศอย่างเผ็ดร้อน รวมถึงวางจุดยืนของพรรคอย่างชัดเจน

ตัวอย่างเช่น วันที่ 11 พฤษภาคม 2019 ตอนที่มหาวิทยาลัยเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปบรรยายที่งานปรีดี พนมยงค์ ทางพรรคโดมปฏิวัติก็วิจารณ์ว่า “ทำไมมหาวิทยาลัยถึงเชิญคนฆ่าประชาชน … พรรคฝ่ายประชาธิปไตยมีเยอะแยะ ทำไมไม่เชิญ #เสียชื่อ

6) นโยบายที่แปลกใหม่ จนถึงขั้นโดนวิจารณ์ว่าสุดโต่ง เช่น การเรียกร้องให้ถอดถอนวิชา TU100 (วิชาจิตอาสา และหน้าที่พลเมือง) ออกจากการเรียนการสอน ,การเรียกร้องให้เลิกแต่งชุดนักศึกษาในวันสอบ รวมถึง การโจมตี CP ว่ากำลังเข้ามาครอบงำธรรมศาสตร์ นโยบายเหล่านี้ เมื่อรวมกับคาแรกเตอร์ของคนในพรรคที่มีจุดยืนการเมืองชัดเจน ช่วยเพิ่มฐานความนิยมให้พรรคโดมปฏิวัติอย่างต่อเนื่อง

7) ในที่สุดการเลือกตั้งครั้งต่อไป ก็มาถึง 26 กันยายน 2019 มีพรรคลงสมัครทั้งสิ้น 7 พรรค และเป็นพรรคโดมปฏิวัติ ได้คะแนนเสียงมากที่สุด 1256 คน ครองเสียงสูงสุดในสภา ทั้งๆที่ก่อตั้งพรรคมาได้แค่ 1 ปีเศษเท่านั้นเอง

8 ) หลังจากชนะเลือกตั้งไปได้เพียงแค่ 1 วัน ยังไม่ทันได้เริ่มบริหารงานอะไรเลย ก็เกิดดราม่าขึ้นกับพรรคโดมปฏิวัติ โดยมีบทสนทนากันในคอมมิวนิตี้ Yellotalk มีคนจุดประเด็นว่า “พรรคอะไรชนะเลือกตั้งแล้วนะ? ใช่พรรคนักข่มขืนปะ?”

พอมีคนเริ่มมาดังนั้น ก็เลยมีการสืบค้นของกลุ่มนักศึกษาว่า มีบุคลากรคนไหนของพรรคโดมปฏิวัติที่เป็น “Rapist” (นักข่มขืน) ตามที่โดนกล่าวอ้างหรือไม่ ก่อนจะไปค้นพบว่า หนึ่งในทีมงานของพรรคที่ชื่อ “เขียว”ทักษภณ โฆษิตพิพัฒน์ มีสมญานามว่า “มือกลอง กบฏ” หัวหน้าฝ่ายจัดหาบุคลากรของพรรค ซึ่งอยู่ในข่ายที่จะเป็นไปได้ว่า อาจกระทำการข่มขืนแฟนสาวของตัวเอง

9) เรื่องเริ่มมีมูลมากขึ้น เมื่อมีแชทหลุดออกมาในโลกออนไลน์ ว่านายทักษภณ คุยกับแฟนสาวและยอมรับว่า กระทำการข่มขืนฝ่ายหญิงไปในช่วงที่คบกันอยู่

10) 28 กันยายน 2019 เพนกวิ้น – พริษฐ์ แกนนำของพรรคได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้พรรคได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายทักษภณเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในประเด็นนี้ก็โดนกลุ่มนักศึกษาธรรมศาสตร์ วิจารณ์อย่างหนัก ว่าเอาคนของพรรคตัวเอง มาตรวจสอบคนในพรรคเอง แล้วมันจะต่างอะไรกับ ที่รัฐบาลเอาคนของตัวเองมาตรวจสอบการทุจริต

พรรคโดมปฏิวัติ ทำการโจมตีรัฐบาล ถึงความไม่โปร่งใสตลอดเวลา แต่เวลามีเรื่องเกิดขึ้นกับตัวเองกลับใช้วิธีการเดียวกัน

11) 29 กันยายน 2019 นายทักษภณ ผู้โดนกล่าวหาว่าข่มขืน โพสต์ข้อความอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ผู้หญิงคนที่หยิบประเด็นนี้ขึ้นมา เป็นแฟนเก่าของเขา ซึ่งตอนคบหากัน ก็มีเพศสัมพันธ์กันตามปกติของคู่รัก

“ทุกๆครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ ผมจะขอ consent (ถามความยินยอม) ก่อนทุกครั้ง ว่าเขายินยอมให้ผมมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่”

“แต่มีครั้งหนึ่งที่ผมได้ขอความยินยอมจากเขา แต่ครั้งแรกเขาปฏิเสธ สักพักผมจึงถามเขาเรื่อยๆ จนเขายินยอม โดยปราศจากการใช้กำลังข่มขู่ใดๆทั้งสิ้น”

“ซึ่งส่วนนี้ผมผิดเองที่ไม่ได้นึกถึงอีกฝ่าย สิ่งที่ผมทำคือการอาศัยสถานะความเป็นแฟนเพื่อขอให้เขายอมมีเพศสัมพันธ์กับผมในที่สุด แต่ตอนนั้นผมคิดว่าทำได้ เพราะผมถามเขาแล้ว และผมเข้าใจว่าเขาเต็มใจ”

12) เมื่อฝ่ายชายออกมาแถลง ฝ่ายหญิง ออกมาตอบโต้ทันที “ขอ Consent ยังไง ช่วยอธิบายด้วย ที่เราจำได้คือ ขอ เ-็ด หน่อย แล้วกอดจูบ จับหน้าอกเราทันที การไม่รอคำตอบเราคิดว่าไม่ได้เป็นการขอ อาจมีบางครั้งที่เรายอมจริง แต่ไม่เลย คุณไม่เคยขอ คุณแค่บอก”

“เรามีอะไรกันจริง แต่การที่เราเคยสมยอมไม่ได้แปลว่าครั้งต่อๆมาเราจะ Consent”

13) นอกจากนั้นฝ่ายหญิง ยังเล่าว่าฝ่ายชายบังคับให้เธอใช้ยาเสพติด (กัญชา) อีกด้วย จนมีครั้งหนึ่งเธอขาดสติ หมดแรง ก่อนนอนร้องไห้กับพื้นห้อง จากนั้นฝ่ายชายก็เริ่มมีเซ็กส์กับเธออีกรอบ ที่อยู่ในสภาพขัดขืนไม่ได้แล้ว “สะดวกกว่าเดิมไหม ที่คราวนี้คุณใส่เข้ามาได้เลย โดยไม่ต้องล้วงควักจนกว่าเราจะหมดแรงก่อน?”

ฝ่ายหญิงเล่าต่อว่า เคยเอาเรื่องนี้ไปแจ้งให้ที่พรรค แต่ทางพรรคก็ไม่ได้มี Action อะไรที่จริงจัง

“ทางนั้นตอบมาว่าเป็นเรื่องส่วนตัว พอเราย้ำว่าการข่มขืนและยาเสพติด เป็นเรื่องส่วนตัวจริงเหรอ? ก็ได้คำตอบว่า ‘ตอนนี้ เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไร แต่ถ้ามาคุกคามจะดำเนินการให้”

14) การที่พรรคโดมปฏิวัติ ไม่ได้ Take Action อย่างดีพอ ส่งผลให้สมาชิกหญิงหลายคนในพรรค ตัดสินใจลาออก เนื่องจากผิดหวังกับการกระทำของพรรคตัวเอง

15) 30 กันยายน 2019 นายทักษภณ ยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ข่มขืน แต่ตัดสินใจลาออกจากพรรคโดมปฏิวัติ เพื่อเข้ากระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยคราวนี้ กองกิจการนักศึกษา ของธรรมศาสตร์ ได้ลงมาสืบสวนด้วยตัวเอง โดยพรรคโดมปฏิวัติ ก็ได้ตอบรับคำลาออกของนายทักษภณเรียบร้อยแล้ว

16) พรรคโดมปฏิวัติถูกวิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ว่าสร้างบุคลิกเป็น Political Activist (นักเคลื่อนไหวทางการเมือง) มีการวิพากษ์รัฐบาล และต้องการสร้างความเท่าเทียมในสังคม แต่กลับเพิกเฉย และมองข้าม พฤติกรรมการข่มขืน เมื่อเป็นคนของพรรคตัวเอง

17) อย่างไรก็ตามล่าสุด พรรคโดมปฏิวัติได้ออกหนังสือเปิดเผยว่า การข่มขืนเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ แต่ทางพรรคได้ติดต่อขอผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิสตรี เข้าร่วมกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ทุกอย่างยุติธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด

“การสอบสวนต้องเป็นกลาง โปร่งใส และเป็นธรรม” แถลงการณ์ระบุ

18) สำหรับสถานการณ์ล่าสุด กองกิจการนักศึกษา กำลังเข้ามาสืบสวนในเรื่องนี้ และถ้าหากการข่มขืนมีมูล ก็อาจส่งต่อหลักฐาน และข้อมูลไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการในลำดับต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า