ธนาธร ปฏิเสธทุกข้อหาคดีแฟลชม็อบสกายวอล์ค ปลุกเสรีภาพแสดงออก

“ธนาธร” เข้าพบตำรวจ สน.ปทุมวันปฏิเสธทุกข้อหาคดี “แฟลชม็อบสกายวอล์ค” พร้อมปลุกคนไทยยืนยันเสรีภาพการแสดงออก เอาชนะความกลัวเผด็จการ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 10 มกราคม 2563 ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 8 จังหวัดนครปฐม พรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ จากการจัดชุมนุมที่สกายวอล์คสี่แยกปทุมวันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยนายธนาธรได้เดินทางมาพร้อมกับนายไพรัฏฐโชติก์ และนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หัวหน้าทีมทนายความ ท่ามกลางประชาชนที่มารอให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นายธนาธร ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า การมารับทราบข้อกล่าวหาวันนี้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่สิ่งที่ตนต้องการยืนยัน คือสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม และการแสดงออกเป็นสิทธิเสรีภาพของคนไทยทุกคนที่จะทำได้ แต่วันนี้การแสดงออกของประชาชนกำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรง มีการใช้อำนาจกดดันส่งเจ้าหน้าที่ไปคุกคามประชาชนถึงบ้านหลายกรณี รวมถึงการแจ้งข้อหาต่อตนและประชาชนคนอื่นๆในวันนี้ด้วย การแจ้งข้อหาแก่ตน เชื่อได้ว่าเป็นการแจ้งข้อหาที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง ไม่ใช่เป็นการแจ้งข้อหาตามกฎหมายจริงๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการใช้กฎหมายมาเล่นงานทางการเมืองกับผู้เห็นต่าง

เป็นกรณีเดียวกับสิ่งที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ได้แถลงไปเมื่อเช้านี้ กรณีเปิดเอกสารหลุดคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ชี้ให้เห็นถึงการที่ กกต.ตัดสินใจฟ้องพรรคอนาคตใหม่ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานความผิดที่นำไปสู่การยุบพรรคได้ ทั้งๆที่ตอนรับคำร้องไม่มีฐานความผิดนี้ ไม่เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย และเป็นการฟ้องโดยที่คณะกรรมการสืบสวนและสำนักสืบสวนของ กกต.ทั้งสองคณะมีความเห็นไม่สั่งฟ้องไปแล้ว

“ผมไม่มีความกังวลใดๆ ต่อคดีนี้ และพร้อมที่จะยืนยันสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน และขอให้ทุกคนรวมกันเอาชนะความกลัว ที่ผู้สืบทอดอำนาจพยายามทำให้เรากลัวที่จะแสดงออกซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่ถ้าประชาชนทุกคนสามารถร่วมกันเอาชนะความกลัวได้ เราจะเป็นผู้ชนะในที่สุด จงเปลี่ยนความคับแค้นให้เป็นพลัง ผมเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งความกล้าหาญของประชาชน ปีนี้จะเป็นปีแห่งการต่อสู้ของประชาชน ที่เราจะพูดเสียงดังๆว่าจะไม่ยอมให้พวกเขากดหัวพวกเราอีกต่อไปแล้ว” นายธนาธร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดของการแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ นายธนาธรและนายไพรัฏฐโชติก์ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกับประชาชนอีก 3 ราย ประกอบไปด้วย นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ นักกิจกรรมจากสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.), นายธนวัฒน์ วงค์ไชย นักกิจกรรม และผู้จัดงาน “วิ่งไล่ลุง”, และนาวสาวณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง

โดยมี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่อีก 3 คน ที่ถูกแจ้งข้อหาในครั้งนี้ด้วย คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, และนาวสาวพรรณิการ์ วานิช ซึ่งได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.เนื่องจากติดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวาระพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วันนี้ แต่ยืนยันว่าจะมารับทราบข้อกล่าวหาในทันทีเมื่อหมดสมัยประชุม

ทั้งนี้ ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาใน 5 ฐานความผิด ประกอบด้วย

1.ชุมนุมโดยไม่จดแจ้ง

2.ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ขออนุญาต

3.กีดขวางบริการสาธารณะ

4.กีดขวางทางสัญจรเกินกว่าเหตุ

5.การชุมนุมในระยะ 150 เมตรจากเขตพระราชฐาน

นอกจากนี้นายธนาธร ได้กล่าวหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า พวกตนทุกคนได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะขอสู้คดีอย่างเต็มที่ต่อไป อีกทั้งการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวในอนาคตของตน และพรรคอนาคตใหม่