SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 8 ธ.ค. นายวัยชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่ พรรคอนาคตใหม่ ขอขยายเวลาส่งเอกสารการกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค 191 ล้านบาท ให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อประกอบการพิจารณาคดี โดยยกประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม ที่คนรวยหรือนักการเมืองมักจะใช้วิธีดึงเกมเป็นสิบๆ ปี เพื่อให้สถานการณ์เปลี่ยน รวมไปถึงการเตรียมช่องทางหากจะหลบหนีคดี

“สถานการณ์ยิ่งเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน พยานหลักฐานบางอย่างก็เปลี่ยน การดึงเกมจึงเป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง อย่างน้อยถ้าจะติดคุกก็นานกว่าจะติด ถ้าจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็นาน ยังลอยหน้าลอยตาเป็นนักการเมืองได้อีกนาน ถ้าจะยุบพรรคก็อีกนานกว่าพรรคจะแตก จึงเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย อย่างน้อยๆ ก็ถอยหลังตั้งหลักไว้ก่อนเผื่อจะได้หาช่องทางธรรมชาติหลบลี้หนีไปได้บ้าง ส่วนคนยากคนจนคงไม่ต้องพูดหรอก แค่คิดยังลำบากเลย”

นายวันชัย ระบุด้วยว่า ดีที่นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ ขอขยายเวลาอีก 4 เดือน แต่ กกต.ไม่ยอม ถือเป็นเทคนิคแบบเดียวกันที่ทำให้คดีช้าที่สุด และการที่ กกต.ไม่ยอมไม่ใช่การกลั่นแกล้งอย่างที่ตีโพยตีพาย แต่เป็นเพราะมีหลักฐานชัดอยู่แล้วทั้งเอกสารหรือคำพูด เพียงให้ส่งเอกสารมาตามขั้นตอนเท่านั้น แม้ไม่ส่งหรือไม่มีเอกสารก็สามารถพิจารณาได้ และสรุปว่า เป็นเรื่องของนักการเมือง มีเงินมีอิทธิพล ถ้าจะเงียบก็จะเสียฟอร์ม แต่เรื่องนี้ถ้าผิดจะดึงเกมอย่างไรก็ไม่รอด

ทั้งนี้ กกต.จะเริ่มพิจารณากรณีที่นายธนาธร ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน 11 ธ.ค. นี้ ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงเหตุที่ต้องขอขยายระยะเวลาส่งเอกสาร เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมากประมาณ 100 แฟ้มและต้องลงชื่อรับรองสำเนา ซึ่งเอกสารที่ กกต.เรียกไม่เกี่ยวกับการกู้เงินโดยตรง เช่น บัญชีรายวัน บัญชีแสดงรายรับรายจ่าย และบัญชีอื่นๆ ในช่วงเวลา 9 เดือน แต่ กกต.ให้เวลาเพียง 2 สัปดาห์และไม่ขยายเวลาให้

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2728230963886541&id=212422832134046

สำหรับคดีนี้เริ่มจากการที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้ตรวจสัญญากู้ยืมเงินระหว่าง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับพรรคอนาคตใหม่

โดยระบุว่า หาก กกต.เห็นว่าการกระทำของนายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 วรรคสองประกอบมาตรา 125 มีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี และให้เงินทรัพย์สินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาทตกเป็นของกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง

พ.ร.ป. พรรคการเมือง มาตรา 66 บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้ และในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคล การบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคเดียวหรือหลายพรรคเกินปีละห้าล้านบาทต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไปหลังจากบริจาคแล้ว

พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้

ขณะที่บทลงโทษการฝ่าฝืนมาตรา 66 กำหนดว่า

มาตรา 124 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี ในกรณีที่ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทําความผิดดังกล่าวเกิดจาก การสั่งการหรือการกระทําของบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคล ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งของบุคคล ซึ่งสั่งการหรือรับผิดชอบในการดําเนินงานของนิติบุคคลนั้นด้วย

มาตรา 125 พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกิน ที่กําหนดไว้ในมาตรา 66 วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกําหนดห้าปี และให้เงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินมูลค่าที่กําหนดไว้ตามมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า