“ธนาธร” ขอโทษพูดพาดพิง “ทักษิณ” ระหว่างให้ปากคำศาลรัฐธรรมนูญ

จากกรณีที่ วันที่ 18 ต.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้ปากคำต่อตุลาการของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องคดีการถือหุ้นสื่อมวลชนขัดกับคุณสมบัติการสมัคร ส.ส. โดยมีการกล่าวตอนหนึ่งว่า ““ผมตั้งใจอย่างจริงจังว่าอยากจะทำงานการเมืองโดยไม่มีข้อผลประโยชน์เหมือนที่คุณทักษิณโดนมาก่อน เพราะผมไม่ได้ตั้งใจมานั่งที่นี่เพื่อทำอย่างนี้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ผมอยากจะผลักดันประเทศชาติให้ไปข้างหน้า ให้หลุดจากความขัดแย้ง ให้กลับมาเป็นประชาธิปไตย ให้มีนิติรัฐ นิติธรรมในประเทศนี้”

https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/698196483917362

วันเดียวกันในเวลา 17.52 น. นายธนาธร ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อกลับมาฟังสิ่งที่พาดพิงถึงคุณทักษิณในระหว่างการไต่สวนในศาลวันนี้ ยอมรับว่าตนเองกระทำไม่เหมาะสมที่กล่าวถึงบุคคลที่สามเช่นนั้น

“ผมเองเจตนาจะบอกว่า ผมตั้งใจที่จะออกจากธุรกิจเมื่อตัดสินใจเข้าสู่การเมือง และทราบดีว่าสังคมจ้องจับตาเรื่องนี้ จึงพยายามสร้างมาตรฐานให้มากกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ด้วยบรรยากาศในศาลทำให้ผมสื่อสารออกมาผิดพลาด ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้”

ก่อนหน้านี้ ร.ท.หญิงสุนิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่าไม่เข้าใจทำไมนายธนาธร ต้องกล่าวพาดพิงอดีตนายกรัฐมนตรีให้ได้รับความเสียหาย ทั้งที่ควรมุ่งเรื่องนำพยานหลักฐานไปแสดงต่อศาล และนายธนาธร ยังอ้างเรื่องจำเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้ แต่กลับรู้ดีว่า อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ คิดหรือทำอะไร

เช่นเดียวกับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายจากกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่โพสต์เฟซบุ๊กว่า ข้อที่ต้องต่อสู้คือ การถือหุ้นบริษัทเอกชนจริงแล้วมีการโอนหุ้นจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงที่เป็นพฤติการณ์การโอนหุ้น เจตนาในการถือหุ้นไว้ก่อนโอนและหลังโอน พยานแวดล้อมนำมาประกอบข้อชี้แจงฟังขึ้นหรือไม่ นี่ต่างหากที่ควรจะพูดกับศาล ไม่ใช่ไปพาดพิงอดีตนายกทักษิณ

“กำลังขอความเห็นใจกลางศาล โดยพาดพิงว่าท่านทักษิณ ถูกกล่าวหาว่ามีประโยชน์ทับซ้อนจริงๆใช่หรือไม่ คุณธนาธรรู้จริงแค่ไหน หรือแค่อยากเอาตัวรอดบนความชั่วร้ายของคนอื่นที่ถูกสร้างขึ้น เหยียบหัวคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดีหรือ? คุณธนาธรคงปฏิเสธว่าที่ถูกกระทำคล้ายกับท่านทักษิณนั้นไม่จริง เพราะตนมีความตั้งใจดีต่อชาติบ้านเมือง อยากให้เป็นประชาธิปไตย แต่อดีตนายกทักษิณฯ มีเจตนาแอบแฝงและมีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่อยากให้มีประชาธิปไตยเป็นรูปอื่นน่ะหรือ?? แบบนี้ไม่สง่างามเลย แทนที่จะแก้เรื่องตัวเองให้ถูกจุดและจริงจังกับการถูกกระทำไปสิ ผมพูดแบบนี้ เพราะผมหวังดีด้วยใจจริง และไม่เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ธนาธร ให้ปากคำศาลรธน.เสร็จสิ้น ยันโอนหุ้นวี-ลัค 8 ม.ค. 62 ไม่เกี่ยวงานบริหาร