ในฐานะคนทำงาน เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ถือเป็นหนึ่งในคนที่บาลานซ์ 3 ความพอดีในการทำงานได้อย่างลงตัว
3 ความพอดีที่ว่าคือ
- ได้ผลิตงานแบบที่ตัวเองพอใจ
- มีคนติดตาม มีตลาดของตัวเองที่ชัดเจน
- ตอบสนองทุน-ผู้สนับสนุน เพื่อยืนระยะการทำงานได้
หนึ่งคืนก่อน Fast and Feel Love ออกฉาย ผู้เขียนได้ไปคุยกับเต๋อ-นวพล
เต๋อบอกว่าเขาสบายใจมากๆ คืนนี้เขาจะนอนหลับเต็มอิ่ม ไม่ต้องอยู่กับภาวะกังวลกับยอดขายของหนังเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ในวงการหนัง จะเป็นอันรู้กันว่า คืนก่อนฉาย จะเป็นคืนที่ต้องลุ้นกับยอดขาย ผู้กำกับ-ผู้สร้างหลายคน ถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ
ที่เขาไม่กังวล ไม่ใช่เพราะมั่นใจว่าจะทำเงินได้มหาศาล
แต่เต๋อได้ค้นพบสัจธรรมเรื่อง “อวสานความเป็นส่วนกลาง” จากตอนทำหนัง “ฮาวทูทิ้ง”
“ฮาวทูทิ้ง” ทำรายได้ไป 57 ล้านบาท ซึ่งถือว่าใช้ได้
กระแสตอบรับมีทั้งชอบและไม่ชอบ
แต่ที่สร้างความประหลาดใจและประทับใจให้กับเต๋อ
คือการที่หนังประสบความสำเร็จที่อย่างมากที่โอซาก้า ได้รางวัลหนังยอดเยี่ยมจากเทศกาล Osaka Asian Film Festival และหนังเป็นขวัญใจของคนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง มีคนญี่ปุ่นที่อินกับหนังเรื่องนี้อย่างมาก
สิ่งนี้คือเรื่อง “อวสานความเป็นส่วนกลาง”
คือมันไม่เหลือแล้วซึ่งค่านิยมหลักที่ใช้ตัดสินว่างานชิ้นไหนจะดัง ประสบความสำเร็จ
ในเวลาเดียวกัน งานที่ผลิตออกมา ถ้าคุณภาพดีพอ สุดท้ายมันก็จะมีคนที่ชอบ มีตลาดที่รองรับอยู่เสมอ
เรียกว่ามันคือการ Decentralization ทางรสนิยมและแนวทางการทำงานก็ว่าได้
พอเข้าใจถึงเรื่อง “อวสานความเป็นส่วนกลาง”
ก็มาสู่บทเรียนที่ 2 ของเต๋อ คือการทำงานโดยเน้น “เอาที่สบายใจ”
เต๋อบอกว่าแต่ก่อนพอพูดคำนี้ จะรู้สึกว่าเป็นการทำงานแบบที่เอาแต่ใจตัวเองหรือเปล่า
แต่หลังจากผ่านการทำงานมา 10 ปี ทำให้เขารู้ว่าเราสามารถทำงานแบบที่สบายใจได้จริงๆ
เพราะโลกมันเชื่อมต่อกันมากขึ้น เราสามารถหาคนที่คิดเหมือนกัน หรือว่ามีปรัชญาในการทำงานที่คล้ายกัน แล้วทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อไปได้
โดยที่ ‘สิ่งที่เชื่อ’ มันไม่ต้องตรงกับส่วนกลางก็ได้
10 ปีที่ผ่านมา เต๋อ-นวพล ทำหนังมาแล้ว 7 เรื่อง
เต๋อบอกว่าขวบปีที่ผ่านมา หลังจบจากฮาวทูทิ้ง เขาก็เจอกับมิดไลฟ์ไครสิส มีการตั้งคำถามถึงการทำงานของตัวเอง
หลังจากเขาที่จัดเต็ม ตั้งใจทำงานแบบทุ่มสุดตัวมาตลอด
พอเข้าปีที่ 10 ก็ทำให้เกิดอาการของหมด
สิ่งที่กลับมาจุดไฟการทำงานให้กับเต๋อใหม่ คือความรู้สึกว่าคนเราเริ่มใหม่ได้ เรากลับไปเป็นตัวเล็กอีกรอบได้
ไม่ต้องรู้สึกตัวใหญ่ตลอดเวลา การลดขนาดตัวเองกลับมาจุดเดิม ทำให้กลับมารู้สึกว่าเราก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เราหมดได้
เรากลับไปเป็นคนธรรมดาได้
เรากลับไปเป็น new filmmaker ได้
ความสบายใจ
อวสานส่วนกลาง
และการเริ่มต้นใหม่
จึงกลายเป็น 3 คีย์เวิร์ดสำคัญสำหรับการทำงานของ เต๋อ-นวพล ในทุกวันนี้