SHARE

คัดลอกแล้ว

ธุรกิจ The Coffee Club เชนร้านกาแฟสัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเคยขาดทุนสะสมอย่างหนักถึง 100 ล้านบาทในปี 2564 และในปี 2565 ยังมียอดขาดทุนอยู่บ้างราวๆ 30 ล้านบาท แต่ถือว่าการขาดทุนลดลงไวมากภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี

ปี 2566 ธุรกิจกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรก และปีนี้จะเป็นปีที่ 2 ที่ The Coffee Club ได้กำไรจากร้านทั้งหมด 42 สาขาในประเทศไทย จากที่ ‘นงชนก สถานานนท์’ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.67) ว่าในภาพรวมธุรกิจมีการเติบโตขึ้นกว่า 9% สิ้นสุดปลายปีนี้

[ 3 โมเดลที่ The Coffee Club ใช้กอบกู้ธุรกิจ ]

ปัจจุบัน The Coffee Club เหลือทั้งหมด 42 สาขา ส่วนใหญ่เป็นโมเดลร้านแบบ dine-in คือร้านที่มีที่นั่งมีบริการทั้งเครื่องดื่ม, ขนมหวาน และอาหารคาว ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับโลเคชั่นที่เลือกอีกทีว่าจะมีหรือไม่มีเมนูแบบไหน

ส่วนโมเดลที่ 2 เป็นสไตล์ Grab & Go ไม่มีที่นั่ง เน้นซื้อกลับบ้าน แต่ก็มีเมนูทั้งเครื่องดื่มและอาหารที่ซื้อกลับบ้านง่ายๆ เช่น แซนด์วิช หรือ ครัวซองต์ เป็นต้น

และ 3 โมเดลที่เน้นเดลิเวอรี่ รวมๆ คือจะเป็นร้านสาขาเหมือนที่อื่นๆ เพียงแต่จะเป็นสาขาที่จะชูความสะดวกและตั้งเป้า ‘ออนไลน์ออเดอร์’ มากขึ้นให้ได้ 20% (ยอดรวม) จากที่ปัจจุบันออนไลน์อเดอร์ยังไม่ถึง 10% โดยต้องขึ้นอยู่กับโลเคชั่นที่เหมาะสมอีกที 

แพลนในปีหน้าสำหรับ The Coffee Club จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4-5 แห่ง โดยในไตรมาส 1/2568 หนึ่งในนั้นคาดว่าจะเป็นร้านสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นโมเดลที่กำลังมาแรงของร้าน หลังจากที่เพิ่งเปิดสาขาที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่สาขา MDCU ณ อาคารหอสมุด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

[ ร้านสไตล์ learning cafe เปิด 24 ชั่วโมง ]

นงชนก ได้แชร์ข้อมูลเบื้องต้นว่า The Coffee Club สาขา MDCU พื้นที่ 140 ตารางเมตร รองรับที่นั่งได้ประมาณ 60 ที่นั่ง ถือว่าเป็นสาขาสเกลใหญ่ และตั้งอยู่มในโรงพยาบาลรัฐที่แรกด้วย

สาขานี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 12 ธันวาคม แล้วจะเริ่มให้บริการ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมเป็นต้นไป

เธอยังพูดถึงคอนเซ็ปต์ใหม่ของร้าน และจะเป็นคอนเซ็ปต์นี้ในการขยายสาขาต่อๆ ไปในปีหน้าด้วย ก็คือการเน้นใช้วัสดุที่รักษ์โลก, โทนสีที่ดูเฟรนด์ลี่โดยเฉพาะสีส้มกับสีเขียวสบายตา, เลี่ยงการใช้สีขาว-ดำ และพยายามใช้วัสดุรีไซเคิลในหลายๆ ส่วนของร้าน

นอกจากนี้ เมนูเครื่องดื่มที่ขายในร้านจะไม่ใช่แค่กาแฟ แต่จะมีเมนูเฮลตี้ผลไม้สดที่จะบอกปริมาณแคลอรี่ทุกเมนูด้วย ส่วนราคาสำหรับสาขานี้จะถูกกว่าสาขาที่อยู่ข้างนอก เช่น กาแฟเริ่มต้นที่ 60 บาท (สำหรับคนทั่วไป) ส่วนบุคคลากรการแพทย์จะได้รับส่วนลดเพิ่มอีกต่อเมนู

“โมเดลร้านแบบ 24 ชั่วโมงเป็นโมเดลที่น่าสนใจ แต่สำหรับ The Coffee Club เราอาจจะไม่ได้มีเป้าว่าจะเปิดร้านที่เป็น 24 ชั่วโมงอีกกี่แห่งเพราะขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้ในโลเคชั่นนั้นๆ แต่เราอยากจะเน้นการขยายเวลาเปิดร้านมากกว่า เปิดให้บริการให้นานขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้”

“The Coffee Club ใช้งบในการลงทุนหรือปรับปรุงในแต่ละสาขา โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ราวๆ 8 ล้านบาท”

“แต่สำหรับปีหน้าเราคาดว่างบลงทุน รวมทั้งปรับปรุงร้านสาขาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 ล้านบาท”

นงชนก ได้กล่าวอีกว่า The Coffee Club อยู่ในตลาดไทยมานานเกือบ 10 ปี มีการทำการตลาดที่หลากหลาย มีโมเดลธุรกิจหลายแบบ เธอมองว่าธุรกิจในไทยจะเริ่มดีขึ้น เฮลตี้ขึ้น หลังจากที่เริ่มมีกำไรแล้วบ้างเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา

ในปีหน้าคาดว่า กลยุทธ์การตลาดที่จะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ การขยายสาขา ‘อย่างค่อยเป็นค่อยไป’, การปรับปรุงคอนเซ็ปต์ร้านที่ใมห้บรรยากาศและประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า, การขยายกลุ่มลูกค้า ซึ่งขณะนี้สัดส่วนยังเป็น ‘คนต่างชาติ’ มากกว่าคนไทย ส่วนหนึ่งเพราะว่าเป็นเชนร้านจากต่างประเทศ และสาขาก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เปิดในย่านนักท่องเที่ยวและต่างจังหวัด

“ลูกค้าคนไทยจะมาช่วยลดแก็บในช่วงโลว์ซีซั่นได้ เพราะการตลาดของ The Coffee Club อาจจะไม่เหมือนกับธุรกิจเครื่องดื่มอื่น ตรงที่ช่วงที่ขายดีที่สุดจะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวในเมืองไทย อย่างไตรมาส 1 กับ 4”

มองว่าโมเดลร้านเครื่องดื่มที่ให้บริการนานขึ้น หรือ 24 ชั่วโมง ก็น่าจะแข่งขันกันมากขึ้น จากที่ The Coffee Club เข้าไปเล่นในตลาดนี้มากขึ้นในปีหน้า รวมไปถึงการสร้างแบรนด์ดิ้งที่เข้าถึงคนไทยมากขึ้น ไม่ใช่แค่ชาวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวอย่างเดิม

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า