SHARE

คัดลอกแล้ว
The Economist Intelligence Unit ประเมินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่า ประเทศร่ำรวยอาจเร่งฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงประชากรส่วนใหญ่ จนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ภายในปลายปีนี้ แตกต่างจากประเทศยากจนที่โครงการฉีดวัคซีนให้คนจำนวนมาก อาจล่าช้าไปถึงปี 2566
รายงานฉบับนี้  The Economist Intelligence Unit ยังประเมินว่าประเทศไทยน่าจะสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนส่วนใหญ่ได้ภายในปลายปี 2565
รายงานของ The Economist Intelligence Unit มีรายละเอียดอย่างไร วันนี้ workpointTODAY จะสรุปมาให้อ่านกัน
1.) The Economist Intelligence Unit ออกรายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา คาดการณ์ระยะเวลาที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก จะสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ จนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคือ
⚫️ กลุ่มที่ 1 ประเทศที่จะฉีดวัคซีนทั่วถึงภายในปลายปี 2564
เช่น สหรัฐฯ และชาติส่วนใหญ่ในยุโรป
⚫️ กลุ่มที่ 2 ประเทศที่จะฉีดวัคซีนทั่วถึงภายในกลางปี 2565
เช่น รัสเซีย ออสเตรเลีย และบางชาติในอเมริกาใต้
⚫️ กลุ่มที่ 3 ประเทศที่จะฉีดวัคซีนทั่วถึงภายในปลายปี 2565
เช่น จีน อินเดีย และไทย
⚫️ กลุ่มที่ 4 ประเทศที่จะฉีดวัคซีนทั่วถึงหลังจากปี 2566 เป็นต้นไป
เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมา และหลายชาติในแอฟริกา
2.) The Economist Intelligence Unit ประเมินโดยอาศัยหลายปัจจัย โดยปัจจัยแรกซึ่งอาจถือได้ว่าสำคัญที่สุด คือสถานะการจองวัคซีนโควิด-19 ซึ่งบางประเทศมีการสั่งจองล่วงหน้า ทำให้สามารถเริ่มฉีดวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยงได้ก่อน เช่นกรณีของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร  และหลายชาติในยุโรป
โดยกรณีของชาติเหล่านี้ The Economist Intelligence Unit คาดว่า จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงเสร็จเร็วที่สุดภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยอาจมีบางชาติที่ล่าช้าไปถึงปลายเดือนนมิถุนายน ทำให้ The Economist Intelligence Unit  ประเมินว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเหล่านี้น่าจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ แต่น่าจะยังไม่ถึงขั้นที่เศรษฐกิจจะกลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนเกิดโรคระบาด
3.) ส่วนประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ส่วนใหญ่จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 2 คือคาดว่าจะฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึงภายในกลางปี 2565 โดยข้อสังเกตของกลุ่มนี้คือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่แรก เช่นรัสเซีย หรือเป็นประเทศที่อยู่ในกลุ่มทดลองวัคซีนโควิด-19 เช่น บราซิลและหลายชาติในอเมริกาใต้ ซึ่งได้สิทธิ์เข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ก่อน
4.) สำหรับประเทศไทย The Economist Intelligence Unit  จัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 3 คือคาดว่า น่าจะฉีดวัคซีนกับประชากร 60-70% ได้ภายในปลายปี 2565 ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกับประเทศที่มีรายได้ปานกลางส่วนใหญ่
โดยในกลุ่มนี้ยังรวมจีนและอินเดียไว้ด้วย เนื่องจากว่าแม้ทั้งสองประเทศจะมีศักยภาพผลิตวัคซีนในประเทศได้เอง แต่ด้วยจำนวนประชากรที่มาก ทำให้ใช้เวลาฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ทั่วถึงนานกว่าประเทศอื่นๆ
5.) ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือประเทศที่น่าจะฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึงหลังจากปี 2566 ไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นประเทศยากจน ที่มีทางเลือกเดียวคือการรอรับวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งมีแผนจัดส่งวัคซีนชุดแรก 2,000 ล้านโดสภายในปี 2564 แต่อาจประสบปัญหาได้รับวัคซีนล่าช้า เพราะการผลิตและจัดส่งวัคซีนโควิด-19 ให้กับประเทศร่ำรวยช้ากว่ากำหนด
6.) The Economist Intelligence Unit ชี้ว่า การประเมินนี้ทำให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว อาจมีประเทศยากจนกว่า 85 ประเทศ ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ก่อนปี 2566 สอดคล้องกับข้อกังวลก่อนหน้านี้ของ People’s Vaccine ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาคประชาสังคมระดับโลกที่ทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมและสุขภาพ ที่เชื่อว่า ประชากรในเกือบ 70 ประเทศที่มีรายได้ต่ำ อาจมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 เพียง 10% ของทั้งหมด
ผู้เชี่ยวชาญยังระบุด้วยว่า ปัญหาการเข้าถึงวัคซีนในประเทศยากจน มีมาตั้งแต่ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว โดยที่ผ่านมาบรรดาประเทศยากจนเข้าไม่ถึงวัคซีน เช่น วัณโรคและโปลิโอ ซึ่งเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนานมานับสิบปี
7.) ผู้เชี่ยวชาญยังจับตานโยบายของหลายประเทศ เช่น จีนและรัสเซีย ที่ดำเนินนโยบาย ‘การทูตวัคซีน’ ซึ่งถูกมองว่าใช้โอกาสในภาวะโรคระบาด เสนอให้วัคซีนโควิด-19 โดยอาจมีเงื่อนไขแอบแฝงหวังผลประโยชน์ตอบแทนในระยะยาว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า