รวมแบรนด์ดังหลากกลุ่มธุรกิจ ที่ร่วมบอยคอตลงโฆษณาในเฟซบุ๊ก

ช่วงสัปดาห์ที่แล้วบรรดาบริษัทชั้นนำหลายบริษัทอาทิ โคคา-โคล่า, The North Face, Verizon, Ben & Jerry’s, สตาร์บัคส์ และยูนิลีเวอร์ ล้วนแต่ออกมาประกาศเข้าร่วมแคมเปญ The Stop Hate for Profit เกิดจากการรณรงค์ของกลุ่มกลุ่มสิทธิพลเมืองในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มตั้งแคมเปญดังกล่าวตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์

โดยบรรดาแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เลือกใช้วิธีคว่ำบาตรระงับการซื้อโฆษณาบนเฟซบุ๊กชั่วคราว เพื่อประท้วงเฟซบุ๊กที่ไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาโพสต์ข้อความที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังได้ดีพอ โดยล่าสุดมีบริษัทต่างๆ ทยอยเข้าร่วมแคมเปญดังกล่าวมากกว่า 100 บริษัทด้วยกัน และโดยเฉพาะโคคา-โคล่า ทีประกาศว่าจะระงับการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทางชั่วคราว

ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยว่า จากการบอยคอตครั้งนี้ทำให้ราคาหุ้นของเฟซบุ๊ก ในวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ร่วงไป 8.3% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทำให้มูลค่าตลาดของเฟซบุ๊กหายไป 56,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทำให้ความมั่งคั่งของนายซัคเคอร์เบิร์กลดลงไปอยู่ที่ 82,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายโฆษณาบนเฟซบุ๊กจะขยายตัวเพียง 1% ในไตรมาสสอง และเพิ่มขึ้น 7% ในไตรมาสสามของปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ที่เฟซบุ๊กเปิดขายหุ้น

โดยทางเฟซบุ๊กนั้นเผยว่า ทางบริษัทจะเริ่มติดแถบ “Harmful” เตือนโพสต์ที่ก่อให้เกิดความโกรธเคืองในสังคม ขณะที่ทางนางแคโรลิน เอฟเวอร์สัน (carolyn everson) รองประธานฝ่ายโซลูชั่นธุรกิจของเฟซบุ๊กได้ส่งหนังสือชี้แจงกับแบรนด์ต่างๆ ว่า “ฉันหวังว่าตอนนี้พวกคุณคงรู้แล้วว่าเราจะยังไม่เปลี่ยนนโยบายจากแรงกดดันด้านรายได้ เพราะเรากำหนดนโยบายของเราตามหลักการมากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจ”