SHARE

คัดลอกแล้ว

The Last Dance ซีรี่ส์ที่เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) เข็นมาออกอากาศไวกว่ากำหนดเดิม เพื่อเยียวยาความรู้สึกของคนในช่วงโควิด-19 กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในทุกสัปดาห์ ไม่ใช่เฉพาะแฟนกีฬาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการตลาด การเมือง และคนที่ได้มีโอกาสเป็นสักขีพยานความยิ่งใหญ่ของยอดทีมแห่งยุค

The Last Dance เป็นเรื่องราวของทีมชิคาโก บูลส์ (Chicago Bulls) ในปี 1997-98 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ทีมดังคว้าแชมป์ ก่อนที่แกนหลักของทีมจะแยกย้ายออกไป ซึ่งไมเคิล จอร์แดน แกนหลักของทีมและซีรี่ส์เรื่องนี้ อนุญาตให้ช่างภาพบันทึกช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่ผู้จัดการทีม เจอรี่ เคราส์ ออกมาประกาศชัดเจนว่าจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายก่อนจะแยกทางกับหัวหน้าโค้ช ฟิล แจ็คสัน และผู้เล่นหลายคนที่อายุมากแล้ว

ทีมชิคาโก บูลส์ในปี 1997-98 เต็มไปด้วยสตาร์ดัง นอกจากจอร์แดนแล้ว ยังรวมถึง สก็อตตี้ พิพเพ่น และ เดนนิส ร็อดแมน แต่กลายเป็นผู้จัดการทีมร่างอ้วนท้วมอย่างเคราส์ที่กลายเป็นคนขับเคลื่อนเรื่องราวให้มาถึงจุดที่แต่ละปมถูกมัดรวมกัน และมาคลายในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการบันทึกเทปนี้เอาไว้

ผู้เล่น องค์กร และผู้จัดการทีมที่ชื่อเคร้าส์

เจอรี่ เคร้าส์ ผู้จัดการทั่วไปของชิคาโก บูลส์ ในยุครุ่งเรืองของทีม กับปมปัญหากับสตาร์ดังในทีม

สิ่งที่สะท้อนผ่านสารคดีเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจน คือเคราส์พยายามให้ความสำคัญ “องค์กร” ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูง มาจนถึงพนักงานรายวัน และรวมถึงเขาด้วย มากกว่า “ทีม” ซึ่งหมายถึงเหล่าผู้เล่นที่ลงสนาม คว้าแชมป์ 6 สมัยในช่วง 8 ปีมาสำเร็จ ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่จอร์แดนมอง โดยจอร์แดนพูดไว้ว่า “องค์กรเป็นเรื่องสำคัญ แต่สุดท้าย คนที่ลงไปเสียเหงื่อ บาดเจ็บ ลงเล่นแม้เป็นไข้ ก็คือผู้เล่น ไม่ใช่องค์กร”

เจอรี่ เคร้าส์ เป็นคนที่ปลุกปั้นบูลส์ในช่วงปลายปี 80 ด้วยการรวบรวมผู้เล่นเก่งๆ ทั้งจอร์แดนและพิพเพ่นเข้าสู่ทีม เขายังเป็นคนเลือกแจ็คสันมาเป็นหัวหน้าโค้ช ก่อนที่ทีมสร้างตำนาน 3 แชมป์ – แน่นอนเขารู้สึกว่าเขาคู่ควรที่จะได้รับความเคารพและความสำคัญ

แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ทั่วโลกกลับสนใจอยู่ที่จอร์แดน ไม่ใช่แค่นักบาสเก็ตบอลอันดับหนึ่งของโลก แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการตลาดให้กับไนกี้ ผู้เล่นที่ยกระดับเอ็นบีเอ (NBA) ให้สูงขึ้นไปอีก สปอตไลท์จับจ้องมาที่จอร์แดน และแสงสว่างเหล่านั้นก็ถูกส่งต่อมาที่พิพแพ่น ร็อดแมน สตีฟ เคอร์ โทนี่ คูโคช และเหล่าผู้เล่นคนดัง แต่น้อยนักที่คนจะให้เครดิตเคร้าส์

ปมเล็กๆ ตรงนี้ ที่ เจสัน เฮอีร์ ผู้กำกับสารคดีบอกว่าเปรียบได้กับบรรยากาศในไฮสคูล ที่เคร้าส์เปรียบเหมือนคนที่อยากเข้าร่วมกลุ่มเพื่อนสุดเจ๋งของโรงเรียน ซึ่งแม้บางครั้ง เขาจะได้รับเชิญไปปาร์ตี้บ้าง แต่ก็ไม่วันได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับกลุ่มได้เลย ปมนี้นำไปสู่จุดจบของทีมบูลส์ที่หลายคนมองว่าไวเกินไป ทั้งๆ ที่ทีมยังทำผลงานได้อย่างสุดยอด แต่ก็ต้องจบลงเพราะผู้จัดการทีมต้องการภาพใหม่ๆ ให้กับทีม

เฮอีร์สรุปปมตรงนี้ไว้ว่า “เคร้าส์สมควรได้รับเครดิตมากกว่าที่เขาได้ แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็คาดหวังเครดิตมากเกินกว่าที่เขาสมควรจะได้รับ”

ไมเคิล จอร์แดน ในการแถลงข่าวก่อนพบกับ ยูท่าห์ แจ๊ซซ์ ในรอบชิงชนะเลิศ NBA Finals

The Last Dance สุดยอดสารคดีกีฬา

ฟุตเตจที่ตามถ่ายจอร์แดนตลอดฤดูกาล ถูกบันทึกเก็บไว้ และรอเวลานานเกือบ 20 ปี จนกว่าจอร์แดนจะอนุญาตให้นำออกมาเผยแพร่ได้ ทีมงานใช้เวลาอีก 3 ปีในการตระเวนสัมภาษณ์ทุกตัวละครที่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาสำคัญของทีมรวม 116 คน ตัดต่อจนพร้อมออกอากาศ

นอกจากปมหลักของเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจอร์แดน เคร้าส์ และ เดวิด สเติร์น (อดีตประธาน NBA) แล้ว The Last Dance ยังฉายเรื่องราวของ พิพเพ่น ร็อดแม่น  ไนกี้ การเมืองในชิคาโก และที่สำคัญที่ทุกเฝ้ารอดูคือช่วงเวลาที่จอร์แดนรีไทร์จากบาสเก็ตบอล เพื่อไปเบสบอลปีครึ่ง ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งต้องติดตามในตอนที่ 7-8 ของสารคดีเรื่องนี้

บทความโดยนภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ บรรณาธิการ Workpoint News

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า