SHARE

คัดลอกแล้ว

The MATTER ออกแถลงการณ์กรณีนักข่าวบาดเจ็บในที่ชุมนุม เรียกร้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากกรณีที่นักข่าวของ The MATTER ถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายด้วยการใช้กระบองฟาด เมื่อล้มลงยังถูกเตะเข้าที่ศีรษะ ทั้งที่ใส่ปลอกแขนและพูดยืนยันตัวว่าเป็นสื่อมวลชนหลายครั้ง ระหว่างลงพื้นที่รายงานข่าวการชุมนุมของกลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ที่บริเวณถนนดินสอ ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เหตุเกิดเวลาประมาณ 12.45 น. ของวันที่ 18 พ.ย.2565

ในเหตุการณ์บริเวณใกล้เคียงกัน ยังมีกรณีนักข่าวพลเมืองของ The Isaan Record ถูกทำร้ายร่างกายและจับกุมตัว รวมถึงช่างภาพ Reuters ถูกของแข็งปามาจากฝั่งเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตา

กรณีดังกล่าวเป็นอีกครั้งที่สร้างเสียงวิจารณ์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้กระทำเกินกว่าเหตุและไม่เป็นไปหลักปฏิบัติสากลในการควบคุมการชุมนุมสาธารณะซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่

นอกจากนี้ ยังขัดกับข้อตกลงซึ่งองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนเคยตกลงไว้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตามที่เคยมีการพูดคุยกันหลายครั้ง ในปี 2564 รวมถึงอาจขัดกับคำสั่งของศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พ3683/2564 หรือคดีกระสุนยาง ที่สั่งให้เจ้าหน้าที่

“..ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมและสลายการชุมนุม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสื่อมวลชน ภายใต้หลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน..”

The MATTER ขอประณามการกระทำดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาบุคคลมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยทางเราขอสงวนสิทธิในการดำเนินการใดๆ เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของคนทำงานในภาคสนาม รวมถึงปกป้องเสรีภาพในการทำงานของสื่อมวลชนไทยต่อไป

https://www.facebook.com/thematterco/photos/a.1735876059961122/3355850491296996/

ฝ่ายสิทธิ์ TJA จี้ตรวจสอบกรณีนักข่าวบาดเจ็บ

ขณะเดียวกัน ฝ่ายสิทธิ์ TJA โดย นายธีรนัย จารุวัสตร์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยระบุว่า อนุกรรมการฝ่ายสิทธิเสรีภาพฯ ได้รับรายงานกรณีมีสื่อมวลชนบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน ขณะปฏิบัติหน้าที่รายงานเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม “ราษฎรหยุด APEC” เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้

กรณีที่หนึ่ง มีคลิปวิดิโอเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ใช้โล่กระแทกผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว The Matter จนล้มลงกับพื้น ขณะกำลังรายงานสดเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม โดยที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวแสดงตนว่าเป็นสื่อมวลชน พร้อมกับสวมปลอกแขนแสดงสัญลักษณ์สื่อมวลชน ต่อมา มีรายงานด้วยว่าผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ใช้กระบองฟาด และเตะเข้าที่ศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

คลิปเหตุการณ์กรณีที่หนึ่ง:

The Matter

https://www.facebook.com/thematterco/videos/1331180424290098/

The Standard

https://www.facebook.com/thestandardth/videos/496985079073121

The Reporter

https://www.facebook.com/TheReportersTH/videos/1230717807506966

เดลินิวส์

https://www.facebook.com/dailynewsonlinefan/videos/525845562743449

กรณีที่สอง มีคลิปวิดิโอแสดงจังหวะที่ช่างภาพจากสำนักข่าว Reuters กำลังบันทึกภาพแนวตำรวจใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และได้มีการเขวี้ยงวัตถุของแข็งเข้าใส่ใบหน้าของช่างภาพคนดังกล่าว จนได้รับบาดเจ็บบริเวณลูกตา

คลิปเหตุการณ์กรณีที่สอง:

ViralPress

https://twitter.com/ViralPress…/status/1593493898562744320

สำหรับกรณีที่หนึ่ง นายธีรนัย กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ทางการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือรัฐบาล เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างครบถ้วนทุกประเด็น เช่น การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคลิปที่ปรากฏเป็นข่าว เหมาะสมหรือไม่ เป็นการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ เป็นไปตามหลักปฏิบัติของหน่วยงานหรือไม่ ฯลฯ และถ้าหากผลการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีบทลงโทษหรือดำเนินการอย่างไร และจะมีการชดใช้ความเสียหายต่อนักข่าวที่ถูกกระทำอย่างไรบ้าง

นายธีรนัย ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ศาลแพ่งเคยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ในคดีหมายเลขดำที่ พ3683/2564 ซึ่งศาลระบุไว้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้อง ‘…ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุมและสลายการชุมนุม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของโจทก์ทั้งสองและสื่อมวลชน ภายใต้หลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชน…’ ดังนั้น ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล และเป็นไปตามคำสั่งศาลแพ่งข้างต้นอีกด้วย

ฝ่ายสิทธิเสรีภาพฯ จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะมีการพิจารณามาตรการในลำดับต่อไป หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกเฉยที่จะตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น” นายธีรนัยกล่าว

สำหรับกรณีที่สอง นายธีรนัย กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเร่งตรวจสอบที่มาที่ไปของเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน โดยเฉพาะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จำนวนมาก และมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการควบคุมดูแลการชุมนุมโดยตรง จึงต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ใครเป็นผู้ขว้างปาวัตถุของแข็งในคลิปวิดิโอ มีเจตนาจงใจทำร้ายสื่อมวลชนหรือไม่ และจะมีการดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับผู้ก่อเหตุหรือไม่ อย่างไร

นายธีรนัย กล่าวด้วยว่า ภาครัฐต้องชี้แจงทั้งสองกรณีกับสังคมอย่างเร่งด่วนและโปร่งใส เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทั้งสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน และสิทธิเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งได้รับการคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่ฝ่ายสิทธิเสรีภาพฯ ได้ย้ำว่ามาตลอดว่า “เสรีภาพสื่อคือเสรีภาพประชาชน”

ทั้งนี้ สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปที่พบเห็นการใช้ความรุนแรง หรือพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อสื่อมวลชนในพื้นที่การชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการกระทำจากฝ่ายใดก็ตาม สามารถติดต่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับฝ่ายสิทธิเสรีภาพฯ ได้ที่อีเมล์ [email protected] (กรุณาเขียนระบุในหัวข้ออีเมลล์ว่า “เรียน ฝ่ายสิทธิเสรีภาพฯ”)

ภาพปกจาก :  The MATTER

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า