ย้อนชมบรรยากาศงาน ‘The Rose [HEAL TOGETHER] WORLD TOUR IN BANGKOK’ 7 ปีที่รอคอยกับคอนเสิร์ตแรกในประเทศไทยของ ‘The Rose’
ทำเอาเหล่าแบล็กโรสไทยคอมพลีตกันเป็นแถว หลังจากที่ทาง 411ENT ได้จับมือกับต้นสังกัด วินด์ฟอล (WINDFALL) ประเทศเกาหลีใต้ และ ทรานส์พาเรนท์ อาร์ตส (Transparent Arts) ประเทศสหรัฐอเมริกา พา 4 หนุ่มศิลปินเกาหลีมากฝีมืออนาคตไกล อย่าง คิมอูซอง (KIM WOO SUNG) หรือ แซม นักร้องนำ/กีตาร์/หัวหน้าวง, พัคโดจุน (PARK DO JOON) หรือ ลีโอ ร้องนำ/คีย์บอร์ด/กีตาร์, อีฮาจุน (LEE HA JOON) กลอง และ อีแจฮยอง (LEE JAE HYEONG)เบส แห่งวง ‘The Rose’ ศิลปินดนตรีแนวป็อปอินดี้ดีกรีอินเตอร์ มาพบกับเหล่าแบล็กโรส (ชื่อเรียกแฟนคลับ) ชาวไทยในรอบ 7 ปีนับจากที่ได้เริ่มต้นรู้จัก และตกหลุมรักหนุ่มๆ กลุ่มนี้ ในงาน ‘The Rose [HEAL TOGETHER] WORLD TOUR IN BANGKOK’ คอนเสิร์ตแรกในประเทศไทยของพวก ‘The Rose’
ซึ่งงานนี้ก็ได้กระแสตอบรับจากแฟน ๆ เป็นอย่างดีตั้งแต่วันแรกที่ประกาศ และร้อนแรงขึ้นอีกเมื่อเปิดขายบัตรเพียงไม่กี่นาที บัตรก็ SOLD OUT ทุกที่นั่ง การันตีความคิดถึง และพลังรอคอยของแบล็กโรสชาวไทยเป็นอย่างดี โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม 2566 ณ อัลตร้า อารีน่า ฮอลล์ ชั้น 6 ศูนย์การค้า SHOW DC จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น เริ่มต้นจากกิจกรรม Group Photo สุดใกล้ชิด ซึ่งทำเอาแฟนคลับกรี๊ดนำร่องก่อนดูคอนเสิร์ตไปแล้วหนึ่งสเต็ป
โดยภายในงาน The Rose ได้เปิดฉากคอนเสิร์ตด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย ทักทายแฟนคลับผ่านเสียงดนตรี Intro ของเพลง เปิดโสตสัมผัส ด้วยเสียงธรรมชาติ เป็นสัญญาณเริ่มต้นการเยียวยาทุกสิ่ง จากนั้น อูซอง นักร้องนำ และหัวหน้าวงเป็นผู้เติมความร้อนแรง เพียงท่อนแรกที่เปล่งเสียงในเพลง Definition of ugly is ก็สะกดแบล็กโรสได้อยู่หมัด ต่อเนื่องกันด้วยเพลง 불면증 (Insomnia) และ She’s in the rain เพลงจากมินิอัลบั้มที่ 2 ซึ่งถึงแม้จะปล่อยมาตั้งแต่ปี 2018 แต่เมื่อได้ฟังสดๆ ทำเอาเพลงนี้ตราตรึงใจ ก่อนจะอัปฟีลด้วยเพลง Modern Life แล้วเบรกทักทายแบล็กโรสอย่างเป็นทางการ
“What’s up Thailand? Hello and Hi!” และ “สวัสดีครับ” นี่คือคำทักทายแรกจากหนุ่มๆ The Rose ก่อนจะแนะนำตัวกันทีละคน โดย อูซอง บอกว่านี่คือการเจอแฟนๆ ชาวไทยครั้งแรกเลย เป็นการเจอที่ใกล้ชิด และอบอุ่นมาก อยากขอบคุณทุกคนที่รอคอยพวกเขามาอย่างยาวนานจริงๆ
หลังจากนั้น 4 หนุ่ม The Rose ก็นำพาไปสนุกกันต่อไม่ปล่อยให้ขาดตอนกับเพลง California ที่ชวนแฟนคลับร้องตามดังๆ ในท่อน Young and wild ต่อด้วยเพลง I Don’t Know You หนุ่มๆ ขอฟังเสียงเชียร์จากแฟนๆ ซึ่งก็สมหวังหรรษากันไปอย่างคึกคัก จนทำให้เพลงต่อมาอย่าง Candy ผู้ชมนั่งไม่ติดเก้าอี้กันแล้ว ขอลุกขึ้นยืนโบกแท่งไฟโยกตัวกับเสียงเพลงกันสนุกสนาน ต่อเนื่องจนถึงเพลงที่หลายๆ คนรอคอยคือ RED เพลงตกคนเข้าด้อมอย่างแท้ทรู และด้วยความสนุกของท่วงทำนอง ทุกคนจึงกระโดดไปพร้อมกัน แถมเพลงนี้ อูซอง ยังเผยความน่ารัก ขี้เล่น พร้อมวาดลวดลายท่าเต้นบนเวที ทำเอาแฟนคลับใจละลายไปตามๆ กัน
พักหายใจมาพูดคุยกันอีกรอบ อูซอง ชมแบล็กโรสชาวไทยว่าสวยมาก ส่วน โดจุน โชว์สกิลนับเลข 1 2 3 และพูดขอบคุณเป็นภาษาไทย แล้วชื่นชมไทยแบล็กโรสว่าเก่งกันมากๆ ที่แม้พวกเขาจะใช้ภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลีสื่อสารสลับไปมาก็ยังสามารถเข้าใจกันอย่างน่าทึ่ง นาทีนี้แฟนๆ อยากตะโกนกลับไปดังๆ ว่ากำแพงภาษาถูกทลายลงเพราะความรักที่มีให้ต่อ The Rose นั่นเอง
ก่อนเข้าช่วงถัดไป The Rose ได้เล่าถึงอัลบั้มล่าสุดของพวกเขา HEAL ที่มาของชื่อคอนเสิร์ต HEAL TOGETHER ซึ่งว่าด้วยเรื่องการเยียวยาหัวใจ และสิ่งที่ปลอบประโลมพวกเขา โดยมี 1 เพลงในอัลบั้มที่มีความหมายอย่างมากสำหรับแจฮยอง นั่นคือเพลง See-Saw เจ้าตัวเล่าว่าเป็นเพลงที่เขาต้องการความช่วยเหลือในช่วงที่ยากลำบาก แต่ในช่วงเวลานี้เขาได้รับความรักจากแฟนๆ รวมถึงจากสมาชิกในวง จึงอยากจะขอบคุณที่รอคอยพวกเขามาเป็นเวลานาน และอยากถ่ายทอดเรื่องราวในช่วงนั้น จึงเขียนเพลงนี้ขึ้นมา
ช่วงแรกของเพลง See-Saw แจฮยอง วางเบสแล้วจับไมค์ ส่งเสียงร้องทุ้มต่ำ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวผ่านบทเพลง เคล้าไปด้วยเสียงคีย์บอร์ดที่ ฮาจุน พักตีกลองมาร่วมบรรเลงอีกเครื่องดนตรีแทน โชว์สกิลดนตรีอันหลากหลายของหนุ่มๆ วงนี้ได้อย่างชัดเจน ก่อนจะจบเพลงนี้ด้วยเสียง
ประสานของทั้ง 4 หนุ่ม ต่อกันด้วย 3 เพลงปังๆ Childhood, ILY, Shift แล้วจึงเปลี่ยนอารมณ์ให้หนักแน่นขึ้นไปอีกกับเพลง Time ที่หลายๆ คนชื่นชอบ ใส่เต็มไม่หยุดในเพลง Yes ที่หนุ่มๆ ฮาจุน กับ แจฮยอง โชว์เสียงร้อง ส่วนอีก 2 หนุ่มเมนร้องอย่าง อูซอง และ โดจุน สลับไปวิ่งสนุกทั่วเวที แถมโดดลงมาพบปะประชาชนให้ได้เห็นความหล่อระยะประชิดตัวกันไปเลย
และแล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต หนุ่มๆ The Rose ได้เตรียมเพลงซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของวงเมื่อ 7 ปีที่แล้ว คือเพลง Sorry จุดสตาร์ทของทุกสิ่งทุกอย่าง และคือเส้นทางที่ทำให้ได้มาเจอแบล็กโรสทุกคนในวันนี้นั่นเอง แฟนคลับช่วยกันร้องอย่างไม่ต้องสงสัย ไปต่อกันที่ Beauty and the beast และ Cure จังหวะกลองแน่นๆ ทำเอาหัวใจเต้นตาม บวกกับเสียงแฟนคลับที่ช่วยร้องกันกระหึ่มยิ่งทำให้เพลงนี้มีพลังสุดๆ ไปเลย จบโชว์ด้วยเพลงฮิตล่าสุดอย่าง Sour แน่นอนว่าท่อน My heart’s so sour without you ยังคงกึกก้อง พร้อมเปิดสกิลหูทองคำกันแบบไม่มีหยุดพัก
เต็มอิ่มประทับใจกันไปทั้งผู้ชมและศิลปิน ยืนยันด้วยประโยคของ โดจุน ที่ว่า “ผมคิดว่าทุกคนคงมีค่ำคืนที่วิเศษกันนะครับ เพราะตัวผมเองรู้สึกวิเศษมากเลยครับ”และไม่เพียงแค่แฟนๆ ที่อยากให้คอนเสิร์ตดีต่อใจแบบนี้วนกลับมาอีกครั้งเร็วๆ 4 หนุ่ม The Rose เองก็เช่นกัน พวกเขาอยากจะกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง โดยทิ้งท้ายเอาไว้ว่า See you next year!
ยังมีความพิเศษต่อกันอีกนิดในช่วงอังกอร์ที่ The Rose นำมามอบให้เป็นของขวัญตอบแทนการรอคอยอันแสนยาวนานอย่างสุดพิเศษ กับ Black Rose เพลงชื่อเดียวกับชื่อแฟนคลับ ซึ่งทั้ง 4 หนุ่มพร้อมใจกันลงจากเวทีบุกไปหาแบล็กโรสกันถึงที่นั่ง ตั้งแต่แถวหน้าสุดยันท้ายฮอลล์ พร้อมมอบดอกกุหลาบให้เองกับมือ แล้วจึงเก็บภาพความสุขร่วมกัน ซึ่งแบล็กโรสชาวไทยนั้นก็ได้ให้สัญญาผ่านโปรเจ็กต์ข้อความภาษาเกาหลี 여기서 항상 기다릴테니까 꼭 다시 와줘요!! แปลเป็นไทยว่า “จะรออยู่ตรงนี้เสมอ ต้องกลับมาอีกให้ได้นะ” We Rose You!