SHARE

คัดลอกแล้ว

หากจะพูดถึง ‘น้ำหวาน’ ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน และคนไทยเราก็เอาน้ำหวานนี้ไปทำหลากหลายเมนู ชื่อแรกที่เรานึกถึงคงหนีไม่พ้น ‘เฮลซ์บลูบอย’ (Hale’s Blue Boy)

เฮลซ์บลูบอยอยู่คู่คนไทยมาราว 64 ปีแล้ว ที่น่าสนใจคือ แม้จะเป็นน้ำหวานที่ภาพลักษณ์ดูบ้านๆ หน้าตาไม่เคยเปลี่ยน แถมไม่ค่อยทำการตลาดอะไรที่หวือหวามากนัก แต่กลับมีกำไรมากกว่าพันล้านบาท

โดยเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจค้า รายงานข้อมูลผลประกอบการของ บริษัท เฮลซ์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำหวานเฮลซ์บลูบอย ไว้ดังนี้

-ปี 2561 รายได้ 2,889 ล้านบาท กำไร 749 ล้านบาท

-ปี 2562 รายได้ 3,769 ล้านบาท กำไร 1,099 ล้านบาท

-ปี 2563 รายได้ 3,320 ล้านบาท กำไร 1,057 ล้านบาท

-ปี 2564 รายได้ 3,563 ล้านบาท กำไร 1,137 ล้านบาท

ถามว่าเฮลซ์บลูบอยทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จแบบนี้ได้ คอลัมน์ Brand Story โดย TODAY Bizview ชวนย้อนอ่านเส้นทางของน้ำหวานแบรนด์นี้ไปด้วยกัน

[ น้ำหวานสูตรของ 4 พี่น้อง ]

จุดเริ่มต้นของน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยอาจต้องย้อนกลับไปในปี 2502 พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนรวม 4 คนแห่งตระกูลพัฒนะเอนก ที่เดิมทำอาชีพเปิดร้านโชห่วย ได้เริ่มปรุงสูตรน้ำหวานเพื่อนำมาวางขายในร้าน

แต่กลายเป็นว่าน้ำหวานของพวกเขาขายดิบขายดีอย่างมาก จนเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจึงคิดสร้างแบรนด์ขึ้นมา เนื่องจากในยุคนั้นที่ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิด ใครคิดหรือทำสินค้าอะไรได้ก่อน ก็มักจะประสบความสำเร็จ

การสร้างแบรนด์ของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นการมองการณ์ไกล เพราะยุคนั้นสินค้าโฮมเมดมักทำขายแบบง่ายๆ ไม่มีการทำโลโก้ ชื่อยี่ห้อ หรือสร้างแบรนด์ให้ยุ่งยาก

การทำโลโก้ของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่มีเอกลักษณ์ เป็นงานฝีมือตั้งแต่ยังไม่มียุคคอมพิมเตอร์ โดยเกิดจากการแกะไม้ให้เป็นตัวหนังสือและรูปเจ้าหนูบลูบอย ซึ่งเมื่อพิมพ์ออกมาก็กลายเป็นฟอนต์และโลโก้ที่สวยงามชนิดที่ลอกเลียนแบบได้ยาก

ที่มาของชื่อเฮลซ์บลูบอยนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด บ้างก็ว่าเจ้าหนูใส่กางเกงสีฟ้า Blue Boy นั้นเป็นตัวแทนของผู้ใช้แรงงาน (Blue Collar) ที่เปรียบเหมือนว่าทำงานมาทั้งวัน ได้มาดื่มน้ำหวานแล้วจะสดชื่นขึ้นมาก

ส่วนคำว่า Hale นั้นน่าจะแปลตรงๆ จากภาษาอังกฤษที่หมายถึง กระปรี้กระเปร่า ความสดชื่น รวมแล้ว Hale’s Blue Boy ก็น่าจะหมายถึงความสดชื่นของเด็กชาย (กางเกงสีฟ้า) นั่นเอง

[ สินค้าขายดี สารพัดเมนูฮิต ]

แม้ไม่ชัดเจนว่าเป็นแบรนด์น้ำหวานรายแรกหรือไม่ แต่น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยนั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไม่เพียงแค่ในระดับครัวเรือน แต่ยังกระแสดีไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่ เพราะสามารถดัดแปลงไปทำเมนูของหวานได้สารพัด

ไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็งไส หวานเย็น ทับทิมกรอบ นมเย็นหรือนมชมพู ไปจนถึงเมนูดับร้อนอย่างแดงมะนาวโซดา เป็นต้น ทั้งยังสามารถจับตลาดได้ทุกกลุ่มตั้งแต่ล่างถึงบน ทุกเพศ ทุกวัย

โดยปัจจุบัน เฮลซ์บลูบอยวางขายอยู่ 9 รวชาติด้วยกัน ได้แก่ สละ, ครีมโซดา, สับปะรด, องุ่น, สตรอเบอร์รี่, แคนตาลูป, ซาสี่, มะลิ และกุหลาบ นอกจากนี้ยังมีโปรดักต์อื่นเพิ่มเติมด้วยนั่นคือ ‘น้ำตาลก้อน’

ไม่เพียงเท่านั้น ภายใต้การบริหารของรุ่นที่ 2 ที่ตลาดในประเทศเริ่มอิ่มตัว เฮลซ์บลูบอยยังถูกส่งออกไปขายในต่างประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา ยุโรป อาเซียน จีน และอินเดีย โดยธงหลักในการนำเสนอสินค้า คือการเป็น Number one syrup in Thailand

[ ไม่เน้นโตหวือหวา แต่แข็งแรง ]

ถ้าจะถามว่าอะไรทำให้น้ำหวานบ้านๆ ที่ไม่ได้ทำการตลาดอะไรหวือหวา หรืออัดงบมหาศาลเพื่อทำแคมเปญโฆษณา สามารถเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแรงมาตลอดระยะเวลากว่า 64 ปี

สาเหตุหลักๆ มาจากการจัดโพสิชั่นสินค้าไว้ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ที่กำไรต่อขวดค่อนข้างต่ำ ยอดขายไม่ได้หวือหวาขนาดนั้น ทำให้ธุรกิจใหญ่ทุนหนาไม่สนใจลงมาเล่นในตลาดนี้ และหันไปเล่นในตลาดเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมแทน

จึงทำให้เรียกได้ว่าเฮลซ์บลูบอยแทบจะไร้คู่แข่งที่ชัดเจน การแข่งขันจึงไม่ได้รุนแรงอะไร และทำให้รักษาสถานภาพเจ้าตลาดไว้ได้

อีกส่วนหนึ่งมาจากการควบคุมคุณภาพให้ดีสม่ำเสมอ โดยเฉพาะคุณภาพของน้ำตาลที่เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งการที่เฮลซ์บลูบอยไม่กระโดดเข้าไปเล่นในตลาดอุตสาหกรรมทั้งที่ได้กำไรมากกว่า ก็เพราะกังวลว่าจะควบคุมคุณภาพได้ลำบากเนื่องจากไม่ใช่ตลาดที่พวกเขาถนัด

และการไปเจาะตลาดอุตสาหกรรมก็ต้องลดต้นทุนแล้วหันไปใช้ขวดพลาสติก ซึ่งนั่นจะทำให้เก็บน้ำหวานได้แค่ 1 ปี ขณะที่ขวดแก้วนั้นเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 2-5 ปี

สาเหตุสุดท้ายที่คงไม่พูดถึงไม่ได้ คือเรื่องของปรัชญาในการทำธุรกิจของตระกูลนี้ โดย ‘ประยุทธ พัฒนะอเนก’ ทายาทรุ่น 2 เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ไว้ว่า ครอบครัวของเขาเป็นคนเชื้อสายจีนที่ยึดหลักอดออม ทำมาหากินแบบเน้นความปลอดภัย ไม่โลดโผน เติบโตปีละเล็กละน้อย รักษาคุณภาพ และค่อยๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

… เติบโตสม่ำเสมอต่อเนื่องและแข็งแรง นั่นเป็นจุดยืนที่พวกเขาพอใจ

ที่มา

https://www.halesblueboy.co.th/th/products/syrup/

https://food.trueid.net/detail/ye3Qwd4GlrYE

https://www.ofm.co.th/blog/%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%A5%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A2/

https://m.mgronline.com/smes/detail/9590000112081

https://www.smethailandclub.com/entrepreneur/5808.html

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า