พูดคุยไปกับ ‘ปันปัน-แม็ค-นิโคล’ นักแสดงนำจากภาพยนตร์ ‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’

พูดคุยไปกับ ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์, แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ และ นิโคล เทริโอ นักแสดงนำจากภาพยนตร์ ‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’ ภาพยนตร์ไทยแนวดราม่าระทึกขวัญเรื่องล่าสุดจาก Netflix กับการค้นหาคำตอบเบื้องหลัง “รู” ลึกลับที่ปรากฎขึ้นบนผนังบ้านอย่างไร้คำอธิบาย

The Whole Truth ปริศนารูหลอน ภาพยนตร์ไทยแนวดราม่าระทึกขวัญเรื่องล่าสุดจาก Netflix กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่จะชวนมาค้นหาคำตอบเบื้องหลัง “รู” ลึกลับที่ปรากฎขึ้นบนผนังบ้านอย่างไร้คำอธิบาย เมื่อครอบครัวสามแม่ลูกประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับความผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว จนทำให้พวกเขาต้องเข้าไปพัวพันกับปัญหาและความลับสุดซับซ้อนที่ถูกซุกซ่อนมาอย่างยาวนาน รวมทั้งสิ่งลี้ลับและบรรยากาศความหลอนที่ไม่มีใครล่วงรู้ที่มาที่ไปภายใน “รู” บนผนังบ้านของคนที่เรียกตัวเองว่า “คุณตา” กับ “คุณยาย” ความพยายามหาคำตอบอาจนำไปสู่ความจริงที่ไม่มีใครต้องการ มาร่วมคลี่คลายปริศนาและค้นหาความจริงท่ามกลางความหลอนพร้อมกัน

ซึ่ง workpointTODAY PLAY ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ 3 นักแสดงนำอย่าง ปันปัน-สุทัตตา, แม็ค-ณัฐพัชร์ และ นิโคล เทริโอ จาก ‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’  ภาพยนตร์ไทยแนวดราม่าระทึกขวัญเรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่จะมาเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังของความลับและความหลอนของ รู ปริศนา ที่ถูกซ่อนไว้ในครอบครัว ก่อนไปชมกันเต็มๆ วันนี้ (2 ธ.ค. 2564)

สวัสดีค่ะ/ครับ workpointTODAY PLAY

แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ รับบทเป็น พัท ครับ

ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ รับบทเป็น พิม

นิโคล เทริโอ รับบทคุณแม่ของทั้ง 2 คนนี้นะคะ ชื่อ ใหม่ ค่ะ

เรื่องราวของ ‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’

นิโคล เทริโอ : The Whole Truth ปริศนารูหลอน ก็จะมีปมเยอะแยะมากมาย ใหม่จะมีลูก 2 คน ก็เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วก็เป็น Working Woman แต่ว่าในการทำงานของใหม่ก็จะไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูกๆ ลูกๆก็จะต้องดูแลตัวเอง เพราะใหม่กำลังจะสร้างชีวิต แล้วก็เป็น Perfectionist มันก็จะมีเหตุเกิดขึ้นที่มันทำให้ทุกอย่างกลายมาเป็น The Whole Truth ค่ะ แล้วปมมันจะคลายไปเรื่อยๆ ซึ่ง 2 คนนี้จะเจอมากที่สุด จนสุดท้ายก็นั้นแหละ คลายปม (หัวเราะ) ไม่กล้าเล่า เดี๋ยวสปอย

ปันปัน-สุทัตตา: จริงๆ พี่นิโคลก็เล่าไปประมาณนึงแล้ว มันก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กพี่น้องสองคนที่แม่ประสบอุบัติเหตุทำให้เราจะต้องย้ายไปอยู่กับคุณตากับคุณยายของเรา แล้วก็ย้ายไปอยู่ในบ้านหลังที่เราไม่เคยไป แต่ว่าบังเอิญในบ้านหลังนั้น ดันมีปริศนาลึกลับ ดันมี รู นั้นโผล่ขึ้นมา มันก็จะเกิดปมเรื่องราวขึ้น เหมือนที่เราต้องไขกันไป

บทบาทและคาแรกเตอร์ของแต่ละคน

นิโคล เทริโอ : ใหม่ ก็เป็นคนที่ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ เป็นคนที่มีระเบียบ ชีวิตต้องสมบูรณ์แบบ ทั้งการแต่งตัวทุกอย่าง แล้วก็ส่งไปให้ลูกต้องเป็นอย่างนั้นด้วย คือชีวิตทุกอย่างต้องควบคุมได้หมด แล้วก็ถูกเลี้ยงมาแบบนั้นด้วย พ่อเป็นตำรวจ แม่แบบว่าเน้นต้องสวย คือแม่ก้อยนะคะ ต้องสวยต้องแบบนั้น ต้องแบบนี้ เพราะฉะนั้นจะค่อนข้างอยู่ในกรอบ ที่แบบดิ้นออกไม่ได้เลย แต่เขาจะมีอะไรบางอย่าง เหมือนกับว่าเขาจะมีเรื่องราวในอดีตที่มันแบบ ที่มันเป็นความลับ ซึ่งมันก็จะเป็นอะไรที่แบบว่า จะมาเจอกันในปัจจุบันและมันก็จะรุนแรงมากค่ะ

ปันปัน-สุทัตตา : ในส่วนของพิมนะคะ พิมก็จะเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสู้เหมือนกัน แล้วก็จะมีความเป็นพี่สาวที่หวงน้องชายมากๆ เช่นกัน เป็นพี่สาวที่สนิทกับน้องชายมากๆ แล้วที่โรงเรียนพิมก็จะเป็นเด็กผู้หญิงที่เหมือนกับว่า อยากจะดูดีอยากจะเก่ง อยากจะเด่น อยากจะสมบูรณ์แบบเหมือนกับแม่เขา

แม็ค-ณัฐพัชร์ : ของพัทนะครับ พัทก็จะเป็นเด็กที่มีปัญหาทางร่างกาย เพราะว่าพัทป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็เลยมีปัญหาที่ขา พัทจะมีบุคลิกเป็น Introvert จะเป็นเด็กที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร จะโดนบูลลี่เรื่องขา แล้วก็ไม่ค่อยมีเพื่อนครับ แต่ว่าพัทจะชอบวาดรูป

ความยากและความท้าทายของตัวละคร

แม็ค-ณัฐพัชร์ : ก็ของแม็คนะครับ ได้รับบทเป็นพัท อย่างที่บอกไปว่าเป็นเด็ก Introvert แล้วก็จะเป็นเด็กเงียบๆ แต่ว่าก่อนหน้านี้ที่แม็คได้รับบทมาจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างน่าสงสาร มีฉากร้องไห้เยอะๆ แล้วก็จะเป็นเด็กช่างพูด แต่ว่าตัวของพัท ด้วยความที่เขาไม่พูด มันก็เลยจะเป็นความยากตรงนี้แหละครับ ที่แม็คจะต้องแสดงออกทางสีหน้าหรือว่าท่าทาง เพื่อที่จะแสดงออกถึงอารมณ์ ณ ตอนนั้นให้ได้

ปันปัน-สุทัตตา : อย่างของพิมนะคะ ความยากก็คือ ด้วยความที่ปันเนี่ยเป็นลูกคนเล็กของในบ้านเราจะไม่ได้มีเซ้นส์ของความเป็นพี่สาว หรือความที่ต้องดูแลใคร เราจะไม่รู้ถึงจุดหนึ่งว่า พี่จะแคร์น้องชายได้ขนาดไหน เพราะว่าพี่สาวเราแล้วก็พี่ชายเราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่จะแบบพิมกับพัทอยู่ด้วยกันสนิทกันแบบในบท อันนี้ก็ต้องมีการไปเวิร์คช็อปกับครูร่มค่ะ เพราะว่าเซ้นส์ของความเป็นพี่สาวจะเป็นยังไง

นิโคล เทริโอ : ของนิโคลนะคะ ก็ท้าทายหมดเลยค่ะ แต่ว่าเราก็เข้าเวิร์คช็อปกับครูร่ม นิโคลมีลูกชายใช่ไหมคะ ไม่มีลูกสาว ก็จะต้องเข้าเวิร์คช็อปกับปันปัน แบบว่าเป็นแม่ลูกกัน แล้วเหมือนกับปันปันจะเป็นเหมือนกับแม่ ใหม่ก็จะเลี้ยงพิมให้เหมือนกันเลย มันจะต้องมีความผูกพันที่เหนียวแน่นมากๆ เวลาเจออะไรมันจะได้แบบ มันอยู่ในพื้นฐานของความรัก เวลาที่มันมาจากความรัก เวลามันเจ็บ เวลามันเจออะไร มันจะแรงและจริง มันจะท้าทายมากๆ แต่ก็พอเข้าฉากด้วยกันคือดีมากเลยค่ะ ทุกองค์ประกอบทุกอย่าง แล้วทุกคนคือรับส่งกันได้ดีมากๆเลยค่ะ

การพลิกบทบาทครั้งแรกของ แม็ค-ณัฐพัชร์

แม็ค-ณัฐพัชร์ : ใช่ครับ ไม่เคยได้รับบทที่เป็นเด็กแนวนี้มาก่อน ก็มีการอ่านบทก่อน แล้วก็ได้ไปเวิร์คช็อปกับพี่ปันปันและพี่นิโคลด้วย แล้วก็จะมีครูร่มครับที่คอยอธิบายบุคลิกหรือว่านิสัยของตัวพัทแล้วก็แนะนำในการเข้าถึงซีนยากๆ ครับ แล้วก็แม็คก็ต้องกลับไปทำการบ้านด้วย ก็คือไปดูหนังที่แบบมีตัวละครหรือคาแรกเตอร์คล้ายๆ พัทครับ ว่าบุคลิกของเด็ก Introvert เขาเป็นอย่างไร แล้วก็กลับไปดูว่าเด็กที่เขาเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง เขามีท่าทางการเดินอย่างไร หรือว่าใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร

บทบาทที่ตรงข้ามกับชีวิตจริงในเรื่องการเป็นพี่สาวของ ปันปัน-สุทัตตา

ปันปัน-สุทัตตา : ก็อย่างแรกเลยก็คือเราก็ต้องไปเวิร์คช็อปค่ะ เวิร์คช็อปดูแล้วก็ต้องไปนั่งคุยกันว่าเออจริงๆ แล้วตัวเราเป็นคนอย่างไร แล้วถ้าเกิดว่าเรามีน้องเราจะดูแลเขาอย่างไร และเราถูกพี่ดูแลอย่างไร คือเราอยากโดนดูแลอย่างไร คือมันต้องเวิร์คให้ลึกค่ะ ไม่งั้นถ้าตอนไปเล่นจริงๆ มันก็จะเป็นแค่แบบว่า น้องชาย พี่สาว มันจะไม่ได้ บอนที่แบบ เหมือนเราเห็นเขาเจ็บ หรือว่าเราเห็นเขาโดนแกล้ง แล้วเราแบบ เรารู้สึกแทนเขา มันจะเป็นความแบบเป็นพี่น้องที่รักกัน แต่ว่าภายนอกบ้านก็จะไม่ได้สนิทกัน มันมีความลึกซึ้ง  ความสัมพันธ์ของพิมกับพัท แต่ว่าตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า โอเคถ้าเรามีแบบนี้เราเข้าใจแล้ว แต่ว่าแรกๆ เราไม่เก็ท มันก็ต้องไปลองเวิร์คดู

บทบาทที่ท้าทายของ นิโคล เทริโอ

นิโคล เทริโอ : ยากพอสมควรค่ะ เพราะว่าฉากที่มันมีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้มันไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ว่าใหม่เป็นคนอย่างไร เพราะว่าเวลาเราเจออะไร เวลามนุษย์เจออะไร ค่อนข้างที่จะรีแอคคล้ายๆ กัน สมมติว่าถ้ามันเศร้าก็คือเศร้า แต่ฉากที่มันไม่มีอะไร คาแรกเตอร์ต้องชัดเจนซึ่งใหม่เป็นคนที่เจ้าระเบียบ แล้วก็ในหัวมีทุกอย่างเป็นตารางหมดเลย เป็น schedule อันนี้ต้องทำนี้ เขาจะต้องควบคุมทุกอย่าง ชีวิตจริง นิโคล ไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเลย นิโคลจะไม่รู้เลยว่าวันวันหนึ่งต้องทำอะไรบ้าง ต้องมีคนบอก ต้องมีอะไรแบบนี้ มันแตกต่างจากคาแรกเตอร์ตัวเอง เพราะฉะนั้นมันจะมีฉากที่แบบไม่มีอะไรเลย จัดแจง แบบตอนเช้า ทานข้าวเช้าแล้วต้องส่งลูกไปเรียน แล้วเราก็จะต้องเตรียมตัวไปทำงาน อะไรแบบนี้ ซึ่งฉากนั้นคือยากมาก เพราะว่ากี้ต้องทำให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ก็คือทุกอย่างคือไม่ต้องคิด แต่มันไม่ใช่ตัวเรา มันก็เลยท้าทายมากๆ

การกลับมารับบทภาพยนตร์แนวระทึกขวัญอีกครั้งของ นิโคล เทริโอ และ ปันปัน-สุทัตตา

ปันปัน-สุทัตตา: ก็ของปันผ่านไปประมาณ 10 ปีนะคะ ที่เล่นเรื่องที่แล้วมา แล้วก็เหมือนกับว่า เอาจริงๆ ก็เหมือนทิ้งห่างไปกับภาพยนตร์แบบนี้เหมือนกัน หลังจากนั้นเราก็ไปเล่นซีรีส์ ไปเล่นอะไรแบบนี้ แต่ว่าพอได้กลับมาเล่นเรื่องนี้เหมือนกับต้องจูนใหม่ เช่นเรื่องการใช้กล้อง กล้องเดียว หรือว่าการถ่ายหนังที่แบบถ่ายหลายคัท ถ่ายหลายมุม ถ่ายละเอียดมากๆ  คือเราก็ต้องเหมือนกลับไปจูน ก็ใช้เวลาก็วัน สองวัน อยู่นะ ตอนที่ไปกอง วันแรกไปก็ยังช็อกๆ อยู่ สักพักหนึ่งก็เก็ท แล้วก็ทำได้ค่ะ

นิโคล เทริโอ : คือเวลาถ่ายหนัง กับ ถ่ายซีรีส์ ถ่ายละคร ไม่เหมือนกัน มันคือถ่ายหลายเทค หลายครั้ง หลายมุม หลายคัท แล้วก็มันคืออันเดียวกัน ฟิล์มเดียวกัน เพราะฉะนั้น พอมันมีซีนอารมณ์มันก็คือจะอยู่แบบนั้นทั้งวันค่ะ ทั้งวันทั้งคืน ก็ค่อนข้างที่จะแบบ ท้าทายที่ว่า เราต้องไปให้สุดตลอดเวลา ก็มันสนุกดีในฐานะนักแสดงบทอย่างนี้จะชอบมาก เพราว่าปกติแล้วเราจะไม่ได้ไปถึงจุดจุดนั้น แต่พอเราเล่นบทนี้แล้ว มันได้ไปถึงจุดๆ นั้น แล้วก็มีครูร่มที่แนะนำ เทคนิคในการ ที่ให้อยู่ในตรงนั้นเร็วๆ ซึ่งเราก็เอาไปใช้ในการแสดงชิ้นอื่นๆได้ด้วยค่ะ ก็สนุกมากท้าทายมากค่ะ

ภาพยนตร์กับการสะท้อนมุมมองในเรื่องครอบครัว

ปันปัน-สุทัตตา : น่าจะเป็นเรื่องของครอบครัว เป็นเรื่องของครอบครัว ครอบครัวคนไทย ครอบครัวในสังคมนี้ที่ลูกอยู่กับแม่ แล้วแม่ก็อยู่กับคุณยาย เหมือนกับว่าถ้าเป็นเมืองนอก พอ 18 ลูกไปมหาลัยลูกก็จะแยกออกไปใช่ไหมคะ แต่ว่าเรื่องนี้โชว์ให้เห็นว่าคนไทยมีชีวิตอยู่กันแบบนี้นะ ความลับในครอบครัวเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะว่าบ้านควรจะเป็นที่ที่ทุกคน แฮปปี้ แล้วก็อยากกลับมาแล้วก็มีความสุข อยู่แล้วสบายใจ ก็น่าจะสะท้อนเรื่องของครอบครัวมากที่สุดค่ะ

นิโคล เทริโอ : ได้รับอะไรหรอคะ คือได้สะท้อนเห็นถึงความสำคัญในครอบครัว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในครอบครัวจริงๆ ถ้าความรักอยู่ แล้วก็คุยกัน มีอะไรเคลียร์กัน ไม่ปิดหรือมีความลับใส่กัน ปัญหามันก็จะไม่เกิดในวันข้างหน้า ตอนที่นิโคลเล่นกี้รู้สึกแบบมันเจ็บปวดใจมากๆ เลย เพราะว่าหนึ่งเราก็เป็นแม่ แล้วก็ทุกอย่างที่เราทำไปตกอยู่กับลูก แต่ในเวลาเดียวกัน ทุกอย่างคือมันเป็นทอด ทอดค่ะ ไม่อยากจะพูดเยอะ แต่มันมีสามรุ่น มีตายาย มีพ่อแม่ และก็มีลูกๆ  เพราะฉะนั้นเห็นชัดมากเลยว่าสิ่งที่เราทำมันมีผลกับลูกเรา มันก็จะมีตรงนี้ให้เราคิดด้วย แล้วก็ให้คนดูได้เอากลับไปด้วยตอนดู เพราะว่ามันไม่ใช่แค่แบบระทึกอย่างเดียว มันเป็นดราม่า คนที่ดูจะรู้สึกตาม แล้วก็จะซึ้งตาม แล้วก็จะลุ้นตามตัวละครในเรื่อง

ปันปัน-สุทัตตา: สำหรับปันว่าน่าจะเป็นเรื่องของความรักที่เหมือนกับแม่มีให้ลูกหรือว่าเป็นความรักที่เด็กสองคนมีให้กัน คือความรักที่แม่มีให้ลูกอย่างที่ทุกคนรู้มันอธิบายไม่ได้จริงๆ แต่ในเรื่องนี้พอพี่นิโคลเล่นออกมามันแบบ เหมือนกับที่พี่นิโคลบอกว่าเรื่องที่เขาทำมันมาสะท้อนถึงลูก แล้วความเจ็บปวดที่แม่ต้องรู้สึกแบบนั้น รวมถึงยายด้วยก็คือแม่ก้อย ความเจ็บปวดที่เขาต้องเจอ สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่สะท้อนมาเป็นทอด ทอด ต่อลงมา มันเป็นอะไรที่อินเทรนด์และเข้มข้นมาก (หัวเราะ) ไม่อยากพูดเยอะเนาะ ประมาณนั้นค่ะ

แม็ค-ณัฐพัชร์ : ส่วนตัวแม็ค แม็คคิดเหมือนพี่นิโคลเลยครับ ก็คือครอบครัวเราไม่ควรจะมีความลับต่อกัน เพราะว่าแม็ครู้สึกว่าความลับมันไม่มีบนโลกนี้หรอก ถ้าเกิดว่าเรามีความลับเดี๋ยวอีกสักพักก็เดี๋ยวก็จะมีคนรู้ครับแล้วถ้าเกิดว่ามีคนรู้มันจะมีปัญหาตามมาเพราะฉะนั้นเราควรจะคุยกันทุกเรื่องในครอบครัวไม่ควรมีความลับต่อกัน

การทำงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่ ก้อย-ทาริกา ธิดาทิตย์ เเละ หมู-สมภพ เบญจาทิกุล

ปันปัน-สุทัตตา : ก็จริงๆ แล้วตอนที่เราเวิร์คช็อปเราเวิร์คช็อปกันสามคน เราไม่ได้เจอทั้งอาหมูแล้วก็แม่ก้อย แต่ว่าตอนที่มาที่กองวันแรก พี่วิศิษฏ์ ก็จะไล่เรียงลำดับให้เลยว่าซีนแรกๆที่ได้ร่วมงานด้วยกัน ก็จะเป็นซีนแบบเบาๆ ก่อนเช่นแบบว่า คุยกันเบาๆ ยังไม่ได้เป็นซีนอารมณ์มาก แล้วก็ค่อยๆ ไต่ระดับไป พอเจอก็ต้องทักทายต้องคุยเรียกคุณตานี่เป็นหลานนะคะ นี่เป็นหลานเหมือนกัน พอเริ่มคุยกันนั่งกินข้าวด้วยกัน คุ้นเคยกันก็จะง่ายขึ้น

การถ่ายทำและการร่วมงานของทั้ง 3 คน

ปันปัน-สุทัตตา : คือจริงๆ อยากเล่ามากเลยว่า จริงๆ แล้ว ก่อนที่จะเกิดโควิด มีซีนหนึ่ง วันหนึ่งที่แบบ ที่เป็นซีนที่ใหญ่มากๆ ที่มีปันด้วยแต่มันโดนคัทออกไปเพราะว่ามันถ่ายไม่ได้ เพราะว่ามันเกิดปัญหาโควิด แล้วก็ยิงยาวมาเป็นเดือนที่กองไม่สามารถทำงานได้ทำให้เราต้องถูกคัทซีนที่แบบ Long take อีกเทคหนึ่งที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินออกไปก็คือเสียดายมากๆ เลย แต่ว่าตอนที่เราถ่ายทำกันก็ประมาณปีกว่า ก่อนล็อกดาวน์ เหลืออีกแค่คิวเดียว แบบเสียดาย เสียดายมาก

นิโคล เทริโอ  : จริงๆ มีคิวนั้นแล้วก็มีเลี้ยงปิดกล้องด้วยนะคะ นัดกันเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ล็อกดาวน์พอดี

ปันปัน-สุทัตตา : ก็คือเป็นคิวหนังฉายพอดี เลี้ยงหนังฉายกันแทน แล้วเสียดายมากอีกคิวเดียวที่แบบซีนดีมากๆ  ซีนใหญ่มากๆที่ควรจะมีก็ถูกตัดออกไปก็เสียดาย

แม็ค-ณัฐพัชร์ : ต้องซีนนั้นเลยครับจะเป็นซีนที่จะคลายปมทุกอย่าง แล้วก็เป็นซีนสำคัญทุกคนจะใส่ ตอนนั้น ใส่อารมณ์กันเต็มมากทุกคนเดือดสุดๆเลยครับ แต่แบบต้องปรบมือเลยจริงๆ

แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกฉายบน Netflix พร้อมกันใน 190 ประเทศทั่วโลก รู้สึกอย่างไร 

นิโคล เทริโอ : นิโคลก็รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่ผลงานเรื่อง The Whole Truth ปริศนารูหลอน จะได้เข้าฉายใน Netflix ส่วนตัวชอบ Netflix มากๆ ไม่มี Netflix คงแย่เลยเพราะมีหนัง-ซีรีส์หลากหลาย จริงๆนิโคลมีผลงานใน Netflix อยู่แล้วและรู้สึกปลื้ม มากๆ ค่ะ สำหรับเรื่องนี้ นิโคลร้องเพลงประกอบด้วยนะคะ ชื่อเพลง “สายสวาทยังไม่สิ้น” เป็นเพลงกล่อมลูกในเรื่องที่นำมา ร้องใหม่ ฟังกันได้ตรงเครดิตท้ายเรื่อง หวังว่าทุกคนจะชอบค่ะ

ปันปัน-สุทัตตา : ตื่นเต้นค่ะ ในฐานะนักแสดงก็อยากเห็นเรื่องนี้ขึ้น Top 10 ใน Netflix อยากให้ผู้ชมได้ลองชมภาพยนตร์ที่มีอะไรใหม่ๆ มานำเสนอ มีความครบรสทั้งดราม่าที่เข้มข้นและกลิ่นอายความหลอน หวังว่าเมื่อผู้ชมดูแล้วจะรู้สึกสนุกไปกับมัน สรุป โดยรวมก็อยากเห็นการตอบรับที่ดีจากผู้ชมค่ะ

แม็ค-ณัฐพัชร์ : ต้องขอขอบคุณทาง Netflix และผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้โอกาส แม็คได้เตรียมตัวอย่างดีเพื่อที่จะไม่ทำให้ทางพี่วิศิษฏ์และ ทีมงานผิดหวัง แม็ครู้สึกโชคดีมากที่ได้รับโอกาสนี้ และเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายไปอีกแบบครับ