SHARE

คัดลอกแล้ว

เปิดบทสัมภาษณ์ ‘นักแสดง-ผู้กำกับ’ จาก ‘The Glory’ ซีรีส์มหากาพย์การล้างแค้นที่สะท้อนปัญหาความรุนแรงในโรงเรียน

‘The Glory’ ซีรีส์มหากาพย์ล้างแค้นเรื่องใหม่ ‘The Glory’ ที่ได้นักเขียนบทมากความสามารถอย่าง ‘คิมอึนซุก’ ที่โด่งดังจากการเขียนบทซีรีส์ฮิตเป็นจำนวนมาก มาร่วมการเขียนเรื่องราวมหากาพย์การล้างแค้นของหญิงสาวที่จำต้องล้มเลิกความฝันเพราะโดนรังแกในโรงเรียน ซึ่งนี้ถือเป็นครั้งแรกของคิมอึนซุกกับการเขียนบทซีรีส์ล้างแค้นเลยทีเดียว โดยงานนี้ก็ได้คว้าตัว 2 นักแสดงนำสุดฮอตอย่าง ซงฮเยคโย และ อีโดฮยอน มาประกบคู่กันเป็นครั้งแรกอีกด้วย

และแน่นอนว่างานนี้ TODAY PLAY ก็ไม่พลาดที่จะหยิบบทสัมภาษณ์จากงานแถลงข่าวของ ทีมนักแสดง ยูซงฮเยคโย, อีโดฮยอ, อิมจียอน, ยอมฮเยรัน, พัคซองฮุน, จองซองอิล พร้อมด้วยนักเขียนบทคิมอึนซุก และผู้กำกับอันกิลโฮ ที่จะมาพูดคุยเล่าถึงเบื้องหลังการทำงาน การเตรียมตัวสำหรับบทบาท และเคมีระหว่างนักแสดง ก่อนไปชมภาพยนตร์แบบเต็มๆ ได้ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ทาง Netflix

The Glory เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

นักเขียนบทคิมอึนซุก: The Glory เรื่องราวการล้างแค้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนเมื่อสมัยเด็ก

ทราบมาว่า The Glory แบ่งเป็น 2 ภาค ช่วยเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบหน่อยได้ไหม

ผู้กำกับอันกิลโฮ: The Glory ภาค 1 จะพรีเมียร์ในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ส่วนภาค 2 นั้นมีกำหนดพรีเมียร์ในเดือนมีนาคมปี 2023 ครับ ฝากติดตามชมด้วยนะครับ

แรงบันดาลใจหรือเหตุผลที่ทำให้คุณเขียนบทซีรีส์เรื่องนี้คืออะไร

นักเขียนบทคิมอึนซุก: ฉันเป็นแม่ซึ่งมีลูกสาวที่กำลังอยู่ในวัยเรียน และจะขึ้นมัธยมปลายปีที่ 2 ในปีหน้า การใช้ความรุนแรงในโรงเรียนเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่สำหรับฉัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยเช่นกันค่ะ เพราะในขณะที่เรากำลังคุยเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่ ฉันก็เกิดกังวลขึ้นมาว่าลูกสาวฉันจะถูกวิจารณ์ที่โรงเรียนเพราะฉันหรือเปล่า แต่ลูกสาวตอบกลับมาว่า ไม่หรอก “แม่ไม่ได้ดังขนาดนั้นนะ” นั่นเป็นเรื่องแรกที่ทำให้ฉันช็อก แล้วลูกก็ถามฉันต่อว่า “แม่จะรู้สึกแย่กับอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการที่หนูเป็นคนกลั่นแกล้งรังแกคนอื่น หรือการที่หนูโดนรังแกเสียเอง” นั่นเป็นอีกเรื่องที่ทำให้ฉันตกใจมากๆ ค่ะ และในขณะเดียวกันนั้น ความคิดมากมายก็พรั่งพรูเข้ามาในหัว จนตัดสินใจเปิดแล็ปท็อปแล้วเริ่มเขียนบทเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ ฉันครุ่นคิดอยู่นานว่าจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดี จึงได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเหยื่อหลายๆ คนที่เป็นเหยื่อความรุนแรงในโรงเรียน และมาทราบทีหลังว่าเหยื่อส่วนใหญ่ไม่เคยต้องการคำขอโทษเป็นเงินทองหรือสิ่งของใดๆ หากแต่ต้องการคำขอโทษจากใจจริงมากกว่า ฉันจึงสงสัยว่าคำขอโทษที่จริงใจเหล่านั้นจะทำให้ได้อะไรดีขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้อยากได้คำขอโทษ แต่มันเหมือนเป็นการทวงคืนสิ่งที่พวกเขาได้สูญเสียไปอย่างเช่น เกียรติและศักดิ์ศรี ในขณะที่โดนทารุณมากกว่า คำขอโทษที่ออกมาจากใจจะนำพวกเขากลับไปยังช่วงเวลาก่อนที่พวกเขาจะโดนทำร้าย เพราะเหตุนั้นฉันจึงตัดสินใจตั้งชื่อเรื่องว่า The Glory ด้วยความหวังที่อยากจะให้ตัวละครอย่าง ดงอึน ฮยอนนัม และยอจอง ได้กลับไปสดใสและมีเกียรติเหมือนตอนก่อนที่พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงค่ะ

ทราบมาว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุก อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจกำกับผลงานเรื่องนี้ 

ผู้กำกับอันกิลโฮ: ผมว่าซีรีส์เรื่องนี้พูดถึงหลายๆ ประเด็น ตอนแรกที่ได้รับข้อเสนอให้กำกับผลงานเรื่องนี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุก และตัวบทของซีรีส์เองก็น่าสนใจและน่าสนุกทีเดียว อีกทั้งยังจะได้ร่วมงานกับทีมนักแสดงฝีมือดี จึงไม่มีเหตุผลใดให้ผมต้องปฏิเสธไม่ร่วมงานด้วยเลยครับ

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจรับบทในเรื่องนี้

ซงฮเยคโย:  เหตุผลหลักก็เพราะได้ร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุกและผู้กำกับอันกิลโฮค่ะ และซีรีส์แนวนี้เป็นอีกแนวหนึ่งที่ฉันอยากลองมาโดยตลอด รู้สึกเหมือนเป็นการผจญภัยอีกครั้งในฐานะนักแสดงค่ะ ครั้งแรกที่ได้อ่านบท ในหัวฉันขาวโพลนไปหมด บทได้รับการเรียบเรียงอย่างสมบูรณ์แบบในตัวของมันแล้วโดยคุณคิมอึนซุก ขอแค่ฉันสื่อสารออกมาได้ดีก็น่าจะทำให้ออกมาเป็นตัวละครที่ดีค่ะ ที่ผ่านมาฉันรับบทในผลงานนวเมโลดราม่ามาค่อนข้างเยอะ เรื่องนี้ผู้ชมอาจจะได้เห็นการแสดงสีหน้าและอารมณ์ที่แปลกใหม่จากผลงานเรื่องก่อนๆ ของฉัน เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายสำหรับฉัน แต่ก็สนุกมากค่ะ

อีโดฮยอน: เหตุผลแรกเหมือนคุณซงฮเยคโยเลยครับ ผมชื่นชอบนักเขียนบทและผู้กำกับมากครับ ตอนที่ได้บทครั้งแรก ผมอ่านบท 4 ตอนจบในรวดเดียวเลย ผมสงสัยว่าตัวละครจูยอจองจะเป็นคนแบบไหน เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไหร่ สิ่งนี้ทำให้ผมยิ่งอยากรู้จักตัวละครนี้มากขึ้น และหวังว่าผู้ชมจะเข้าใจสิ่งที่ผมสื่อผ่านตัวละครจูยอจองครับ

อิมจียอน: ครั้งแรกที่ฉันได้อ่านบท ฉันอึ้งและอินกับบทมาก สมแล้วที่เป็นผลงานเขียนของนักเขียนบทคิมอึนซุกค่ะ แต่ก็อดเซอร์ไพรส์ไม่ได้ว่านี่ใช่ผลงานของเธอจริงหรือ เพราะมันแตกต่างกับผลงานที่ผ่านมาของเธอและไม่ใช่แนวเมโลดราม่าด้วยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรับบทตัวร้าย ซึ่งเป็นบทที่ฉันอยากลองเล่นมานานแล้ว ฉันจึงอยากลองดูค่ะ

ยอมฮเยรัน: แค่ทราบว่าเป็นเรื่องราวการล้างแค้นโดยนักเขียนบทคิมอึนซุกก็ทำให้ฉันตื่นเต้นแล้วค่ะ ทันทีที่ได้อ่านบท ฉันก็รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะพล็อตเรื่องเป็นการแก้แค้นสไตล์เกาหลีมากทีเดียว มีตัวละครมากมายที่ต้องการจะแก้แค้น รวมถึงแรงจูงใจในการแก้แค้นของแต่ละตัวละครก็โน้มน้าวใจผู้ชมได้ดี ฉันชอบทั้งบทบาทที่ฉันได้รับและตัวเนื้อเรื่องมากค่ะ

พัคซองฮุน: ผมเองก็เป็นแฟนคลับตัวยงของนักเขียนบทคิมอึนซุกครับ อย่างที่ทราบดีว่าเธอเป็นตัวแม่ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ แต่ครั้งนี้เธอได้ลองท้าทายกับผลงานแนวใหม่ ซึ่งผมอยากเป็นส่วนหนึ่งในการท้าทายครั้งใหม่ของเธอด้วยครับ

จองซองอิล: อย่างที่นักแสดงทุกท่านกล่าวก่อนหน้านี้ ผมเชื่อว่าคงไม่มีนักแสดงคนไหนที่ไม่อยากร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุกและผู้กำกับอันกิลโฮหรอกครับ ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาครับ

เชื่อว่าทุกๆ คนกำลังตั้งตารอการท้าทายครั้งใหม่ของคุณ มีสิ่งไหนที่รู้สึกว่าท้าทายเป็นพิเศษในการเขียนบทซีรีส์แนวล้างแค้นครั้งแรกหรือไม่

นักเขียนบทคิมอึนซุก: ผลงานส่วนใหญ่ของฉันเป็นแนวรักโรแมนติกหวานแหวว ทุกคนคงแปลกใจใช่ไหมคะที่ฉันหันมาลองแนวล้างแค้น ฉันใช้ชีวิตร่วมกับลูกสาวที่อยู่มัธยมปลาย เพราะฉะนั้นคงไม่มีเรื่องโรแมนติกเกิดขึ้นทุกวัน ฉันเลยอยากลองเขียนเรื่องแนวนี้ออกมาบ้าง การวาดภาพตัวละครยอจองและดงอึนออกมาเป็นสิ่งที่ยากที่สุดค่ะ เพราะฉันต้องพยายามไม่ให้มีเรื่องราวความรักเข้ามาเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของพวกเขามากเกินไป เพราะตอนแรกที่ส่งฉบับร่างให้ผู้กำกับดู เขาถามฉันว่านี่เราทำซีรีส์แนวล้างแค้นใช่ไหม ไม่ใช่โรแมนซ์ใช่ไหม ฉันจึงสามารถดึงสติกลับมาได้ ต้องขอบคุณผู้กำกับที่ช่วยทำให้ฉันไม่ไขว้เขวค่ะ

ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวละครของคุณให้ฟังหน่อยได้ไหม

ซงฮเยคโย: ดงอึนเป็นตัวละครที่มีอดีตอันแสนจะเจ็บปวดเพราะความรุนแรงในโรงเรียนตั้งแต่เด็กๆ ทั้งคุณครูและตำรวจก็ไม่แม้แต่จะยื่นมือมาปกป้องเธอ เธอจึงตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องตาย เพราะพวกคนที่ทำร้ายเธอต่างหากที่ต้องได้รับบทลงโทษ นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล้างแค้นค่ะ นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะสื่ออารมณ์ของดงอึนซึ่งต้องทนทุกข์ทรมานจากอดีตอันแสนโหดร้าย และต้องเผชิญหน้าต่อสู้กับผู้ที่กระทำผิด แต่แทนที่จะแสดงภาพลักษณ์ที่อ่อนแอ ฉันอยากให้ผู้ชมมองเห็นด้านที่เข้มแข็งแทนค่ะ อยากให้เห็นว่าฉันเป็นดงอึนที่แข็งแกร่งมากกว่าดงอึนในวัยเด็ก ฉันจึงโฟกัสจุดนั้นเป็นพิเศษค่ะ

อะไรคือเหตุผลที่ผู้กำกับและนักเขียนเลือกแคสต์นักแสดงซงฮเยคโย

ผู้กำกับอันกิลโฮ: ครั้งแรกที่ได้อ่านบท ดงอึนเป็นตัวละครที่เปราะบางแต่ก็เข้มแข็งมากในเวลาเดียวกัน ดังนั้น การจะตามหานักแสดงที่มีทั้งสองภาพลักษณ์นั้นค่อนข้างยาก และผมก็คิดถึงคุณซงฮเยคโยเป็นคนแรก ผมดีใจที่เธอตอบตกลง และผมว่าเธอใกล้เคียงกับตัวละครมากถึง 120% เลยละครับ

นักเขียนบทคิมอึนซุก: ฉันว่า 121% เลยนะคะ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอสามารถแสดงสีหน้า เดิน หรือพูดได้แบบนั้น เห็นแล้วรู้สึกว่าฉันไม่กล้าคิดจะเป็นศัตรูกับผู้หญิงคนนี้แน่นอน

ในซีรีส์มีการบรรยายเรื่องในรูปแบบเขียนจดหมายจากดงอึนถึงยอนจิน มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษที่ทำให้คุณเลือกบรรยายผ่านจดหมายหรือเปล่า

นักเขียนบทคิมอึนซุก: ฉันคิดว่าซงฮเยคโยน่าจะรู้สึกยากกับการแสดงในจุดนี้ ฉันอยากสื่อภาพความเจ็บปวดของเหยื่อที่แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานเท่าไร แต่บาดแผลของพวกเขากลับไม่ได้รับการเยียวยาเลยแม้แต่น้อย แต่ไม่อยากให้พูดออกมาตรงๆ ว่า “ฉันเจ็บปวดนะ” จึงทำให้ฉันพยายามสื่อสารด้วยฉากที่ดงอึนเขียนจดหมายและอ่านเนื้อความในจดหมายด้วยน้ำเสียงที่สุขุม แต่เนื้อความเหล่านั้นได้สื่อถึงความปวดร้าวของเหยื่อที่ถูกทำร้าย หวังว่าทุกคนจะไม่พลาดฉากนั้นนะคะ

ซงฮเยคโย: ฉันเคยมีโอกาสได้ลองถ่ายทอดบทบาทในลักษณะเดียวกันในผลงานเรื่องอื่นมาบ้างแล้ว แต่ซีรีส์นี้แตกต่างไปอีกแบบค่ะ ฉันเลยไปปรึกษาผู้กำกับว่าฉันอยากเล่าเหมือนกระซิบข้างหูให้ยอนจินฟังชัดๆ และผู้กำกับเองก็เห็นด้วยกับฉันค่ะ

ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวละครของคุณให้ฟังหน่อยได้ไหม

อีโดฮยอน: ยอจองเป็นตัวละครที่ดูภายนอกนั้นสดใสแต่ภายในมีอะไรซ่อนอยู่ อยากให้ไปติดตามดูกันเองในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ครับ

แนวทางในการแสดงบทบาทของตัวละครของคุณในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

อีโดฮยอน: ตอนอยู่ในกองถ่ายผมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้กำกับอยู่เสมอครับ ผมได้ตระหนักว่าการสื่ออารมณ์ของผมนั้นมีผลต่อการเล่าเรื่องในฉากต่อๆ ไปด้วย ต้องขอบคุณผู้กำกับที่ให้โอกาสให้ผมได้ลองถ่ายทอดอารมณ์ในหลากหลายรูปแบบ ผมจึงพยายายามเตรียมตัวและฝึกซ้อมหลายครั้ง เพราะจะได้หาทิศทางที่เหมาะสมในการแสดงมากที่สุดครับ

ได้ข่าวว่าคุณฝึกซ้อมบทกับคาอึล สุนัขของคุณ โดยจินตนาการว่ามันเป็นดงอึนใช่ไหม

อีโดฮยอน: ใช่ครับ มีบ้างครับ ขอโทษครับพี่ฮเยคโย เพราะผมอยู่คนเดียวเลยไม่มีใครช่วยต่อบทให้ ผมเลยต้องซ้อมกับคาอึลครับ

ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวละครของคุณให้ฟังหน่อยได้ไหม

อิมจียอน: ยอนจินเป็นคนที่รังแกดงอึนในสมัยเรียนและเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เธอแค้นฝังใจ ยอนจินเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจ และทุกคนก็เข้าข้างเธอ เธอได้แต่งงานและมีครอบครัวที่ดี จนกระทั่งวันนึงเธอได้ทราบว่าดงอึนเป็นครูประจำชั้นของลูกสาวเธอ เธอเคยเจิดจรัสมาตลอดและอยากมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบและหรูหราไปตลอดชีวิต จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้ มันยากสำหรับฉันมากในตอนแรก ฉันพยายามหาคำตอบว่าทำไมยอนจินถึงทำอะไรที่ชั่วร้ายแบบนั้นได้ ทั้งที่เธอเองก็ไม่เคยมีปมด้อยอะไร แต่แล้วคำตอบที่ฉันค้นพบก็คือ เพราะความรู้ไม่เท่าถึงการณ์ เธอไม่รู้ว่าการทำร้ายผู้อื่นเป็นเรื่องที่ผิด ไม่เข้าใจว่าทำไมการที่ใจร้ายกับคนถึงเป็นเรื่องไม่ควร เพราะเธอเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่เธอสามารถครอบครองทุกอย่างที่เธอต้องการ ไม่ต้องไขว่คว้าดิ้นรน และไม่ต้องแบกความรับผิดชอบ เลยทำให้เธอไม่รู้สึกผิด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรับบทเป็นตัวร้าย ตอนแรกก็กังวลเหมือนกันแต่ก็ตั้งใจแสดงเป็นยอนจินในแบบรูปของฉันออกมาค่ะ

เชื่อว่าหนึ่งในฉากที่น่าประทับใจคือฉากที่ยอนจินปะทะกับดงอึนที่โรงยิมของโรงเรียน ช่วยเล่าถึงฉากนั้นให้ฟังได้ไหม

อิมจียอน: โดยส่วนตัวแล้วฉากนั้นเป็นหนึ่งในฉากที่ยากที่สุดสำหรับฉันเลยค่ะ พอจินตนาการว่าต้องมาปะทะกับเพื่อนที่ฉันเคยทำร้ายในสถานที่เดิมแล้วรู้สึกว่ายากมากค่ะ จำได้ว่าผู้กำกับบอกว่าให้ถ่ายแบบ one take ไปเลย วันนั้นหน้าของฉันกับรุ่นพี่ซงฮเยคโยแดงและบวมมากเลยค่ะ

ซงฮเยคโย: ฉันอยู่ในวงการแสดงมาหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่หน้าแดงเพราะถูกตบ ทั้งอึ้งและชาไปหมดจนต่อบทไม่ถูกเลย จำได้ว่าฉันต้องนั่งประคบน้ำแข็งอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะถ่ายทำฉากต่อไปค่ะ

ช่วยเล่าเกี่ยวกับตัวละครของคุณให้ฟังหน่อยได้ไหม

พัคจองฮุน: จอนแจจุนเป็นตัวละครที่โดดเด่นในทุกๆ ที่ที่เขาไป เขาเป็นผู้ชายที่ชอบปาร์ตี้ ชอบผู้หญิงสวยๆ และชอบใช้ความรุนแรง รวมถึงติดการพนันด้วย จนอยู่มาวันหนึ่งเขาได้ติดกับดักที่ดงอึนวางเอาไว้ ถ้าอยากรู้ต่อ ไปติดตามกันได้ในวันที่ 30 ธันวาคมที่จะถึงนี้นะครับ

จองซองอิล: ฮาโดยองมีทั้งเงินและอำนาจ รวมถึงมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ แต่เมื่อเขาได้รับรู้อดีตของภรรยาของเขา เขาจึงรู้สึกว่าชีวิตตัวเองเกิดจุดด่างพร้อย และกลายเป็นประเด็นที่นำพาเขาไปสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญครับ

คุณได้ร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุกเป็นครั้งที่สอง และเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับอันกิลโฮ รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาใน The Glory

ซงฮเยคโย: ฉันเคยได้มีโอกาสร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุกในผลงานก่อนหน้านี้ ต้องขอบคุณนักเขียนบทที่เชื่อใจและมอบบทตัวละครใน The Glory อีกครั้งค่ะ ฉันมีความสุขมากที่ได้เจอกับตัวละครดงอึน ผลงานเรื่องนี้เป็นผลงานที่ทำให้รู้สึกว่าการที่ฉันได้ทำงานกับคนที่รักช่างเป็นเรื่องที่มีความสุขเหลือเกินค่ะ อีกอย่างฉันเป็นแฟนคลับของผู้กำกับอันกิลโฮและอยากร่วมงานกับเขามานานแล้ว แนวของซีรีส์เรื่องนี้และบทของตัวละครดงอึนเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับฉัน แต่เป็นเพราะคำแนะนำของผู้กำกับ ฉันเลยหาแนวทางในการแสดงได้ไวขึ้น ขอบคุณมากๆ ค่ะ

The Glory แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของแนวการเขียนของคุณ  อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแนวแล้ว หรือว่านี่เป็นแนวที่คุณอยากลองเขียนมานานแล้ว

นักเขียนบทคิมอึนซุก: ฉันคิดว่าตัวฉันเองค่อยๆ พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปทีละขั้น ในทุกๆ ตอนของบทและผลงานของฉัน ฉันพยายามเตือนตัวเองตลอดว่าไม่ให้สร้างผลงานที่ดูแล้วซ้ำซากจำเจ และคราวนี้ฉันก็คิดว่าถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแนวได้แล้ว อีกประเด็นคือทาง Netflix น่าจะชื่นชอบและสนับสนุนผลงานเรื่องนี้ ฉันคิดว่าไม่น่าจะเสียหายอะไรที่จะลองเขียนดูสักตั้ง ถ้าครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จก็ลองพยายามใหม่ก็ได้ค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ (+19) เพราะมีเนื้อหาและคำพูดที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง อีกอย่างเรื่องนี้เล่าถึงความแค้นส่วนตัว เป็นการแก้แค้นผ่านปรัชญาและมุมมองของตัวละครดงอึนเท่านั้น ฉันคิดว่ามันเป็นซีรีส์ที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ เพราะพวกเขาสามารถตัดสินได้ว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด

ในการรับบทเป็นดงอึน รู้สึกยากที่ต้องแสดงบทบาททางอารมณ์บ้างไหม

ซงฮเยคโย:  ยากค่ะ มีหลายฉากที่รู้สึกสงสารดงอึน และไม่รู้ว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาอย่างไร แต่ฉันก็พบว่าถ้าถ่ายทอดตามบทบาทที่ได้รับ ยังไงมันต้องออกมาดีแน่นอน เพราะตัวบทนั้นเรียบเรียงขึ้นมาละเอียดมาก และในขณะที่ฉันรับบทเป็นดงอึน บางครั้งฉันเองก็ตกใจกับท่าทางและสีหน้าของตัวเองเหมือนกันค่ะ พอได้เห็นแบบนั้นแล้วฉันก็รู้สึกภูมิใจมากๆ ค่ะ

มีแฟนจากทั่วโลกรอติดตามชมซีรีส์เรื่องนี้อยู่ ผู้ชมหลายประเทศอาจจะไม่ชินกับประเด็นเรื่องการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน อะไรคือแมสเสจที่คุณต้องการสื่อผ่านซีรีส์ The Glory

นักเขียนบทคิมอึนซุก: ฉันเชื่อว่าไม่ใช่แค่ในเกาหลีเท่านั้น แต่มีอีกหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับปัญหาดังกล่าว มีพ่อแม่และเหยื่อที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน ฉันว่าทุกคนสามารถเข้าใจสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้ไม่ยากค่ะ สั้นๆ เลยคือ เอาชนะมันให้ได้ และอย่าทำเรื่องที่ไม่ดีค่ะ

คอนเทนต์เกาหลีได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก และหนึ่งในนั้นก็คือ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game)ที่สร้างมาตรฐานความนิยมเอาไว้ คุณคาดหวังอย่างไรบ้างกับ The Glory

นักเขียนบท คิมอึนซุก: ฉันไม่รู้ผลลัพธ์หรือความนิยมจะต้องตัดสินกันอย่างไรและด้วยวิธีใด แต่ในฐานะคนเกาหลี ฉันเองก็ภูมิใจที่ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) สร้างชื่อเสียงให้เกาหลี และอยากให้ The Glory เป็นเช่นนั้นด้วย ฝากติดตามด้วยนะคะ

ฝากถึงผู้ชม Netflix ทั่วโลกหน่อย

พัคซองฮุน: ผมหวังว่า The Glory จะเป็นผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับนักแสดงทุกคนที่อยู่ในที่นี้รวมถึงนักเขียนและผู้กำกับครับ

อิมจียอน: ทีมงานและทีมนักแสดงทุกคนตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานเรื่องนี้กันมาก คุณผู้ชมจะได้รับชมซีรีส์แนวใหม่ ฝากติดตามชมกันด้วยนะคะ

อีโดฮยอน: ทีมงานและนักแสดงทุกคนทั้งที่มาร่วมกันในวันนี้และไม่ได้อยู่ที่นี่ต่างทุ่มเทกันมาก ซีรีส์ของเราจะพรีเมียร์ในวันที่ 30 ธันวาคมที่จะถึงนี้แล้ว จะชมจากโทรศัพท์มือถือหรือโทรทัศน์ก็ได้ครับ ฝากด้วยนะครับ

ซงฮเยคโย: ซีรีส์เรื่องนี้พวกเราทุกคนและทีมงานในกองถ่ายทั้งหมดตั้งใจร่วมกันสร้างขึ้นมา หวังว่าคุณผู้ชมจะชื่นชอบกันนะคะ

ยอมฮเยรัน: ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาในวันนี้ค่ะ ฉันคิดว่าเนื้อหาในเรื่องนี้สามารถโน้มน้าวใจคุณผู้ชมได้ และเป็นเรื่องราวการแก้แค้นสุดครบรส ฝากติดตามกันเยอะๆ ด้วยค่ะ

จองซองอิล: ทั้งผู้กำกับ นักเขียนบท และพวกเราทีมนักแสดงทุกคน ต่างทุ่มเทกันมาก หวังว่าคุณผู้ชมจะเพลิดเพลินในการรับชมและได้ข้อคิดจากซีรีส์เรื่องนี้นะครับ

ผู้เขียนบท คิมอึนซุก: สำหรับใครที่อายุ 19 ปีขึ้นไป วันที่ 30 ธันวาคมที่จะถึงนี้ อย่าลืมติดตามชมซีรีส์ด้วยนะคะ

ผู้กำกับ อันกิลโฮ: พวกเราตั้งใจเต็มที่และได้นักแสดงและทีมงานมือฉมังมาร่วมงาน ผมรู้สึกขอบคุณมากๆ ครับ หลังจากดูจบรอบหนึ่งแล้ว ผมเชื่อว่าถ้าดูจบรอบที่สองหรือรอบที่สาม คุณก็จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้จากซีรีส์เรื่องนี้ครับ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า