ผู้ลี้ภัยจีนในไทยรำลึกเหตุการณ์เทียนอันเหมินหน้าสถานทูตจีน

สองผู้ลี้ภัยชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทยแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หน้าสถานทูตจีน เพื่อรำลึกเหตุการณ์กองทัพรัฐบาลจีนปราบปรามการชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปีพ.ศ. 2532 นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกัน ยังมีกลุ่ม “มนุษยชาติไร้พรมแดน” ทำกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ด้วย

นายเค่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการจัดวางลำตัวเป็นเลข 6 ประกอบกับเลข 4 ที่ทำจากกระดาษ

ผู้ลี้ภัยชาวจีนแซ่เค่อ ไม่เปิดเผยชื่อ อายุ 50 ปี แสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยการจัดวางลำตัวเป็นรูปเลข 6 ตามหลังด้วยกระดาษที่วางเป็นรูปเลข 4 หมายถึงวันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันครบรอบการสลายการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ของจีน หน้าสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.นายเค่อ กล่าวว่าตนเคยเรียกร้องประชาธิปไตยที่จีนเมื่อ 20 ปีที่แล้วและถูกจำคุก วันนี้มาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องให้จีนบรรลุความเป็นประชาธิปไตย

ในบริเวณเดียวกัน นายจางเว่ย ผู้ลี้ภัยการเมืองจีนอีกคนหนึ่งก็ได้แสดงสัญลักษณ์มือแทนวันที่ 4 มิถุนายน โดยกล่าวว่าตนลี้ภัยอยู่ไทยมา 4 ปีแล้วเนื่องจากต่อต้านรัฐบาล ในอดีตเคยเป็นพนักงานในโรงงานและเคยร่วมชุมนุมในเหตุการณ์เทียนอันเหมินเมื่อ 30 ปีที่แล้ว

นายจางเว่ย (ซ้าย) และนายเค่อ (ขวา) สองผู้ลี้ภัยชาวจีนทำมือเป็นสัญลักษณ์วันที่ 4 มิถุนายน

นอกจากผู้ลี้ภัยทั้งสองแล้ว วันนี้ในเวลาเดียวกัน กลุ่ม “มนุษยชาติไร้พรมแดน” ประกอบด้วยนักเรียนนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ นำโดยเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาลและสิรินทร์ มุ่งเจริญ ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบเหตุการณ์เทียนอันเหมิน 30 ปีในบริเวณใกล้เคียงกัน มีการชูป้ายแสดงข้อความรำลึกถึงเหตุการณ์ ยืนสงบนิ่งเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต วางดอกไม้สีขาวหน้ารูปรถถัง และเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงต่อชาวชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ และยุติคดีการเมืองต่อนักประชาธิปไตยในฮ่องกง

กิจกรรมรำลึก 30 ปีเหตุการณ์เทียนอันเหมินของกลุ่มมนุษยชนไร้พรมแดน

“พวกเรา องค์กรมนุษยชาติไร้พรมแดน รวมถึงนิสิตนักศึกษา ประชาชน และผู้รักความเป็นธรรมจากทั่วทุกสารทิศรวมตัวกันในวันนี้และบนพื้นที่แห่งนี้เพื่อรำลึกถึงนักศึกษาและประชาชนผู้กล้าหาญ” ตอนหนึ่งของแถลงการณ์กล่าว “และเพื่อแสดงจุดยืนว่า พวกเราเห็นถึงความสำคัญของกระบวนการเคลื่อนไหวของนักศึกษาและประชาชน ซึ่งเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลที่ตรวจสอบได้และประชาธิปไตย” และขอให้จีนแสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต

ณัฐ ไตรภูมิ นักวิชาการ สนใจเรื่องจีนศึกษา-ตะวันออกศึกษา หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวกล่าวว่าตนทราบว่าจะมีกิจกรรมรำลึกจากเฟซบุ๊ก “สนใจเรื่ององเทียนอันเหมินด้วย แล้วก็ทราบว่ามีการประท้วงในลักษณะนี้เกิดขึ้นทั่วทั้งโลกเลย ที่สถานทูตฯจีน ก็เลยตัดสินใจว่าจะมาเข้าร่วมในส่วนของประเทศไทยด้วย”

“เราก็รู้สึกว่าเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อสังคมมันเลือกที่จะวิวัฒนาการไปข้างหน้า กำลังให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปสังคม แต่ก็เกิดการที่รัฐบาลไม่ยอมแล้วออกมาต่อต้านทำลายล้าง” ณัฐกล่าว “เราควรที่จะเรียนรู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศแล้วมาปรับดูในประเทศไทยก็ได้ แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นสัญญะที่เกิดขึ้นทั้งโลกอยู่แล้ว”

นายจางเว่ยกล่าวว่าตนตั้งใจมาแสดงสัญลักษณ์เพียงคนเดียวเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลจีน รู้สึกระหลาดใจที่มาพบกิจกรรมจากทั้งเพื่อนผู้ลี้ภัยและจากกลุ่มชาวไทย กล่าวว่า “เสรีภาพและประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่คนต้องการไม่ว่าอยู่ที่ไหน ขอบคุณคนไทยมากครับที่สนใจเรื่องนี้”