รวมดาว TikTok รายได้ดีกว่าผู้บริหารระดับสูง บางคนรายได้เยอะกว่าซีอีโอ Starbucks

วงการเนตไอดอลนับวันยิ่งล่ำซำ โดยเฉพาะดาว TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลกำลังมาแรง มีฐานผู้ใช้งานทั่วโลก และฮิตในกลุ่มคนอายุน้อย 

ล่าสุด Wall Street Journal เปิดเผยรายได้ของดาว TikTok ชื่อดัง Charli D’Amelio  ซึ่งมีรายได้มากกว่าซีอีโอ Starbucks หรือซีอีโอบริษัทมหาชนหลายแห่งเสียอีก 

Charli D’Amelio ผู้เข้าวงการและเริ่มโพสต์ TikTok มาตั้งแต่ปี 2019 ทำเงินได้ 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้วตามข้อมูลของ Forbes 

ซึ่งรายได้ของ Charli D’Amelio นั้นมากกว่าซีอีโอใบริษัทมหาชนหลายราย รวมถึง Darren Woods แห่ง Exxon Mobil Corp. (15.6 ล้านเหรียญในปี 2020), Kevin Johnson แห่ง Starbucks Corp. (14.7 ล้านเหรียญ), Ed Bastian แห่ง Delta Air Lines Inc. (13.1 ล้านเหรียญ) และ Chris Kempczinski ของ McDonald’s Corp. (10.8 ล้านเหรียญ) 

Dixie D’Amelio พี่สาวของ Charli ก็เป็นดาว TikTok เช่นกัน มีผู้ติดตามราวครึ่งหนึ่งของ Charli แต่ก็ร่ำรวยไม่แพ้กัน มีรายได้ 10 ล้านเหรียญ

ดาว TikTok อีกคนหนึ่ง Addison Rae เธอทำเงินได้ 8.5 ล้านเหรียญในปีที่แล้วตามรายงานของ Forbes ซึ่งมากกว่า W. Craig Jelinek ซีอีโอของเครือข่ายคลังสินค้า Costco Wholesale Corp. เธอยังแสดงหนัง He’s All That ใน Netflix ด้วย 

อินฟลูเอนเซอร์ใน TikTok มีโมเดลทำเงินเช่นเดียวกันกับบนแพลตฟอร์มอื่นๆ คือรับรีวิว โปรโมทสินค้า หรือแม้กระทั่งทำคอนเทนต์จนมีแฟนคลับติดตามและสนับสนุนในช่องทางอื่นๆ 

ด้วยความนิยมในตัว TikTok ส่งผลให้ TikTok กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดทรงพลัง เข้าถึงคนมหาศาล เป็นโอกาสของแบรนด์สินค้าที่จะทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ 

ข้อมูลจาก Forbes เผยให้เห็นว่า ผู้ทำรายได้สูงสุดของ TikTok 7 ราย สามารถทำเงินรวมกันได้ 55.5 ล้านเหรียญในปี 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้น 200% จากปีก่อนหน้า

ตัวแอป TikTok เองก็มียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ Apptopia บริษัทวิจัยและรวบรวมข้อมูลด้านแอปมือถือ วัดจำนวนการดาวน์โหลดมากที่สุดของปี 2021 

อันดับ 1 เป็นของ TikTok มียอดดาวน์โหลด 656 ล้านครั้ง (ไม่รวมในจีน) ด้าน ByteDance เจ้าของแพลตฟอร์ม TikTok มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 3.5 แสนล้านเหรียญ 

และแม้ TikTok จะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ก็โดนเพ่งเล็งจากฝ่ายกฎหมายและรัฐบาลไม่แพ้ Facebook และ Google โดยเฉพาะเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล, ผลกระทบต่อสภาพจิต การเสพติด ไปจนถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะกับเยาวชน 

ที่มา : WSJ, Blognone 1, 2