สหรัฐฯ เริ่มนับถอยหลัง แบน ‘TikTok’ และ ‘WeChat’ อีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า

รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มนับถอยหลังแบน ‘TikTok’ และ ‘WeChat’ ชี้เป็นแอปฯ จีนที่เป็นภัยความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ แต่ยังให้เวลา ‘TikTok’ ดีลธุรกิจกับบริษัทอเมริกันในหลักเกณฑ์ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องเห็นชอบ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ขีดเส้นตายระงับการใช้งานแอปพลิเคชันสัญชาติจีน ‘TikTok’ และ ‘WeChat’ ในสหรัฐฯ ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้าคือในวันอาทิตย์ (20 ก.ย.) โดยยังยืนยันเหตุผลเดิมว่า แอปฯ สัญชาติจีนดังกล่าวเป็นภัยต่อความมั่นคงสหรัฐฯ

นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า การขีดเส้นตายระงับ 2 แอปฯ จากจีนเป็นผลจากคำสั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศตั้งแต่เดือนที่แล้ว พร้อมชี้ว่า การขีดเส้นตายภายในวันอาทิตย์สะท้อนให้เห็นว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ ที่ถูกคุกคามจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน

(FILES) In this file photo illustration taken on August 03, 2020, the social media application logo, TikTok is displayed on the screen of an iPhone on an US flag as the background in Arlington, Virginia. – US officials on September 18, 2020, ordered a ban on downloads of the popular Chinese-owned mobile applications WeChat and TikTok from September 20, saying they threaten national security. The move comes amid rising US-China tensions over technology and a Trump administration effort to engineer a sale of the video app TikTok to American investors. (Photo by Olivier DOULIERY / AFP)

สำหรับมาตรการในวันอาทิตย์จะมีความแตกต่างกันระหว่าง 2 แอปฯ โดย ‘WeChat’ จะถูกระงับการใช้งานทันทีในวันอาทิตย์ ส่วนแอปฯ ‘TikTok’ ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ จะยังคงใช้ได้อยู่ แต่ไม่สามารถอัพเดทได้ จนกระทั่งวันที่ 12 พฤศจิกายน ‘TikTok’ จะถูกแบนในสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

รัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ไม่ระงับการใช้งาน ‘TikTok’ ทันที เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้เวลา ‘TikTok’ เจรจาข้อตกลงกับบริษัทอเมริกันให้เรียบร้อย ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ‘TikTok’ กำลังเจรจากับบริษัท ‘Oracle’ ของสหรัฐฯ แต่ข้อตกลงระหว่างสองบริษัทยังไม่ได้รับการเห็นชอบจากประธานาธิบดีทรัมป์

ขณะที่ ‘TikTok’ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า มาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมา ‘TikTok’ ได้ยื่นข้อเสนอที่จะเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลผู้ใช้ให้สูงกว่าแอปฯ อื่นๆ ไปแล้ว ซึ่งปัจจุบัน ‘TikTok’ มีผู้ใช้ในสหรัฐฯ กว่า 100 ล้านราย ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกอยู่ที่ราว 700 ล้านราย