แชร์บทความ คัดลอกแล้ว

SHARE

คัดลอกแล้ว

ไทยเตรียมเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสูงสุด อีกไม่ถึง 20 ปี เสี่ยงพบผู้สูงอายุ คุณภาพชีวิตแย่เพิ่มขึ้น “ออมเวลา” สำคัญ เท่า “ออมเงิน”

วันที่ 29 ก.ย. 2565 นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า แนวคิดธนาคารเวลา (Time Bank) มีจุดเริ่มต้นจากญี่ปุ่น ที่พบสัดส่วนผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก ทำให้หลายประเทศรวมถึงไทย ต้องคิดวิธีรับมือแก้ปัญหาสังคมสูงวัยให้เหมาะสมกับบริบทต่างๆ ปัจจุบันไทยมีผู้สูงอายุกว่า 13 ล้านคน คิดเป็นเกือบ 20% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่จำนวนผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยอีกไม่ถึง 20 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีคนอายุ 60 ปีขึ้นไป สูงถึง 30% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจะเข้าสู่ “สังคมสูงวัยระดับสูงสุด” (Super – aged society) ทำให้ สสส. ร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย พัฒนาแนวคิดธนาคารเวลาเพื่อรองรับสูงวัย เพื่อเป็นนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ส่งเสริมให้ชุมชนช่วยกันดูแลกัน และช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุที่มีความต้องการ ด้วยวิธีที่เหมาะสมตามบริบทพื้นที่ โดยสมาชิกธนาคารเวลาจะได้รับการตอบแทนในรูปแบบเวลาที่สะสมไว้

นางปิติพร จันทรทัต ณ อยุธยา ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนและพัฒนารูปแบบการดำเนินงานธนาคารเวลาชุมชนรองรับสังคมสูงวัย กล่าวว่า โครงสร้างประชากรในไทยเปลี่ยนไป เพราะเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ แนวคิดธนาคารเวลาเป็นนวัตกรรมเชิงระบบ เริ่มตั้งแต่ปี 2561 มีเป้าหมายทำให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยแต่ละชุมชนจะพัฒนารูปแบบให้สอดคล้องกับพื้นที่ แบ่งกลุ่มย่อยดูแลผู้สูงอายุตามความถนัด เช่น ขับรถพาไปโรงพยาบาล-ซื้อของ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซ่อมประปา ตัดต้นไม้ ทำความสะอาดบ้าน ดูแลสัตว์เลี้ยง ตัดผม แม้กระทั่งตัดเล็บ เพราะมีผู้สูงอายุบางคนที่ตัดเล็บเท้าตัวเองไม่ได้ โดยมีค่าตอบแทนเป็นเวลาแบบ “เพื่อนช่วยเพื่อน” ช่วยป้องกันการพลัดตก หกล้ม มีเป้าหมายทำให้สังคมตระหนักว่า การ “ออมเวลา” สำคัญไม่น้อยไปกว่าการ “ออมเงิน” เพราะจะทำให้ทุกคนรู้จักคุณค่า ทักษะ และความสามารถของตัวเอง

ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการสถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า สังคมสูงวัยในไทย กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ 5 ข้อ ที่ต้องเตรียมรับมือกับสิ่งต่างๆ ในปัจจุบันและอนาคต 1.คนไทยจะมีอายุยืนมากขึ้น 2.คนไทยที่อายุยืนมีเงินไม่พร้อมในวัยเกษียณ 3.สังคมไทยจะเปลี่ยวเหงามากขึ้น เพราะค่านิยมไม่แต่งงาน ไม่มีลูกหรือมีลูกน้อย และคู่แต่งงานผู้ชายจะเสียชีวิตก่อนผู้หญิง 4.สังคมต้องการความหลากหลาย ผู้สูงอายุในวัยเกษียณยังต้องการทำงานระยะยาว และไปเที่ยวตามความต้องการ 5.ระบบทุนนิยม ทำให้การตีค่าคนไม่เท่ากัน เช่น คนฐานะดีจะถูกตีราคาสูง ผู้มีรายได้น้อยถูกตีราคาต่ำ ขณะที่แนวคิดธนาคารเวลาช่วยสร้างสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดี 8 ข้อ 1.สังคมเกิดการรู้จักกัน 2.สามัคคีกัน 3.เกิดการเรียนรู้ในชุมชน 4.มีกิจกรรมร่วมกัน 5.เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน 6.ใส่ใจดูแลกัน 7.ช่วยจัดการปัญหาสังคม 8.พึ่งพากันในยามวิกฤต หากมองวิถีชีวิตคนไทยส่วนใหญ่มีจิตสาธารณะ อยู่กันแบบเครือญาติ จึงเชื่อว่าจะสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับพื้นที่และสถานการณ์ได้ เช่น การตั้งระบบจิตอาสาดูแลผู้สูงอายุ การทำชุมชนช่วยเรื่องโควิด ตั้งชมรมอนุรักษ์ประเพณี เพื่อให้เกิดสังคมสูงวัยที่มีสุขภาวะดี

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า