SHARE

คัดลอกแล้ว

กรณีการสั่งไม่ฟ้อง บอส วรยุทธ อยู่วิทยา ยังคงเป็นข้อสงสัยที่ยังถกเถียงกันในสังคม ถึงความผิดปกติของสำนวนคดี ทั้งพยาน 2 ปาก ที่เคยให้ปากคำไปแล้วได้กลับเข้าให้ปากคำใหม่ รวมทั้งการคำนวณความเร็วรถที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากถึง 100 กม./ชม. workpointTODAY รวบรวมไทม์ไลน์วันเวลาจากเอกสารและข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ มาดูกันว่าตั้งแต่หลังเกิดเหตุจนถึงตอนนี้ ในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ของ บอส วรยุทธ เกิดอะไรขึ้นบ้าง

 3 ก.ย. 2555 – บอส วรยุทธ ขับรถชน ด.ต.วิเชียร เสียชีวิต

 8 ก.ย. 2555 – นายจารุชาติ มาดทอง พยานให้การครั้งแรกหลังเกิดเหตุ แต่ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องความเร็วรถ

 ต.ค. 2555 – กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ที่มี พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น เป็นผู้ตรวจสอบความเร็ว ส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวนระบุว่าความเร็วรถของ บอส วรยุทธ คือ 177 กม./ชม. อาจคลาดเคลื่อนมากหรือน้อยประมารณ 17 กม./ชม. (ตามข้อมูลที่ พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อดีตทีมพิสูจน์หลักฐานที่ทำคดี เปิดเผยว่ากองพิสูจน์หลักฐานกลางส่งข้อมูลให้พนักกงานสอบสวนหลังเกิดเหตุ 1 เดือน)

ปี 2556 – พล.อ.ท. จักรราช ให้ปากคำ ในการสอบพยานเพิ่มเติม ในสำนวนคดี ๒ข.เลขที่ ๑๘๒/๒๕๕๖

2 มี.ค. 2559  – พ.ต.ต.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ได้ให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนถึงการคำนวณความเร็วด้วยวิธีใหม่ได้ 79.23 กม./ชม.

10 พ.ค. 2559 – บอส วรยุทธ ร้องขอความเป็นธรรมต่อ กมธ.กฎหมายฯ สนช. และ กมธ.กฎหมายฯ สนช. ได้เชิญ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเร็วได้ 76.175 กม./ชม. โดย กมธ.กฎหมายฯ สนช. ได้ส่งความเห็นต่ออัยการระบุว่าเป็นหลักฐานใหม่ หักล้างข้อพิสูจน์ความเร็วกองพิสูจน์หลักฐานกลางที่คำนวณได้ 177 กม./ชม.

21 ธ.ค. 2559 – กมธ.กฎหมายฯ สนช. แจ้งผลพิจารณาพบว่าข้อเท็จจริงในคดีเปลี่ยนไปจากเดิม และเห็นว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่มีผลต่อการสั่งคดีของอัยการ

23 ม.ค. 2560 – รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ระบุความเร็วรถ 76.175 กม./ชม.

ต่อมา  พ.ต.ท.สมยศ แอบเนียน  และ พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิไชย ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบสภาพรถทั้ง 2 คัน เปรียบเทียบกับคดีอื่น พิจารณาว่าไม่ใช่ความเร็วประมาณ 170 กม./ชม.

14 ก.พ. 2561 – ตามหนังสือแถลงการณ์ นายธานี อ่อนละเอียด อดีตเลขานุการ กมธ.กฎหมายฯ สนช. ระบุว่า อัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งให้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมแล้ว และ กมธ.กฎหมายฯ สนช. ไม่ได้ดำเนินการใดๆ อีก และ บอส วรยุทธ ไม่ได้ติดต่อให้ กมธ.กฎหมายฯ สนช. ดำเนินการอะไรต่อ

7 ต.ค. 2562 – บอส วรยุทธ ส่งหนังสือขอสอบพยานเพิ่มคือ พล.อ.ท.จักรราช ถนอมกุลบุตร (เคยให้การเมื่อปี 2556 ) และ นายจารุชาติ มาดทอง (เคยให้การปี 2555) โดยอ้างว่า มีข้อมูลคำให้การความเร็วใหม่จากผู้เชี่ยวชาญ

29 ต.ค. 2562 – นายพินันท์ ลักษณ์ศิริ อัยการพิเศษฝ่ายคดีร้องขอความเป็นธรรม2 ได้ลงนามในหนังสือตอบกลับคำร้องสอบพยาน โดยให้เหตุผลว่าคำร้องของ บอส วรยุทธ ไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ และระบุว่าพยาน 2 คน เคยให้การไปแล้ว รวมทั้ง กมธ.กฎหมายฯ สนช. ได้เชิญ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ มาให้ข้อมูลความเร็วรถยนต์และจักรยานยนต์แล้ว เห็นว่าพยานปาก รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เคยร้องขอความเป็นธรรมกับพนักงานสอบสวนแล้ว และ นายพงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด ได้เคยวินิจฉัยไปแล้วตามสำนวน ๑ข.เลขที่ ๗๙/๒๕๖๐ แผ่นที่ ๗-๙ ดังนั้นจึงไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงความเห็นและคำสั่งเดิมได้

4 ธ.ค. 2562 – จากการเปิดเผยเอกสาร คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ โดยสำนักข่าวอิศรา พบว่า น.ส.นิภาพร รุจนรงค์ รองอัยการสูงสุด มาตรวจสอบสำนวนคดี หลังมีการร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง และพบว่าขาดข้อมูลเรื่องความเร็วรถ จึงให้พนักงานสอบสวนเพิ่ม ทำให้นายจารุชาติ และ พล.อ.ท.จักรกฤษ เข้าให้ปากคำอีกครั้ง ระบุว่า บอส วรยุทธ ขับรถเร็ว 50-60 กม./ชม. และการชนเป็นการตัดหน้าโดย ด.ต.วิเชียร

20 ม.ค. 2563 – นายเนตร นาคสุข รักษาการรองอัยการสูงสุด ลงนามในใบต่อความเห็นและคำสั่งสำนวนคดี สั่งไม่ฟ้อง บอส วรยุทธ ข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก้ความตาย โดยมีชื่อพล.อ.ท.จักรราช และ นายจารุชาติ เป็นพยานที่ให้น้ำหนักว่า บอส ขับรถไม่เกิน 80 กม./ชม. และเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความประมาทของ ด.ต.วิเชียร เป็นเหตุสุดวิสัย ที่ไม่สามารถเบรกได้ทัน

18 ก.ค. 2563 – ผกก.สน.ทองหล่อ แจ้งเรื่องอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีต่อ บอส วรยุทธ

24 ก.ค. 2563 – สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลง ไม่แย้งอัยการที่สั่งไม่ฟ้อง บอส วรยุทธ

27 ก.ค. 63 – อัยการสูงสุด สั่งตั้งคณะกรรมการสอบ อัยการคดีพิเศษอาญากรุงเทพใต้กรณีสั่งไม่ฟ้อง

30 ก.ค. 63 – นายจารุชาติ มาดทอง 1 ในพยานปากสำคัญ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน

3 ก.ค. 2570 – คดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจะสิ้นอายุความ

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า