SHARE

คัดลอกแล้ว

เปิดใจ ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว และ โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ สส.ก้าวไกล ผู้ต้องหาคดี ม.112 ในวันที่ ม.112 เขย่าพรรคก้าวไกล ทั้งคู่ยืนยัน ย้อนเวลากลับไปยังตัดสินใจทำม็อบ และเสนอข้อเรียกร้องการเมืองเช่นเดิม ไม่หวั่นหลุด สส.เชื่อ สังคมไทยมาไกลกว่าเดิม

น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.ปทุมธานี และ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ในรายการ TODAY LIVE สำนักข่าวTODAY วันที่ 14 ธ.ค. 66 ต่อมุมมองการดำเนินคดี น.ส. รักชนก ศรีนอก หรือไอซ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล และการใช้ มาตรา 112 (ม.112)

โดยทั้งสองคน ระบุว่า ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี ม.112 ควรได้รับสิทธิ์การประกันตัวสู้คดี เมื่อถามว่าหากทั้งสองคนต้องหลุดออกจากตแหน่ง สส.ในคดี ม.112 เสียใจหรือไม่ ทั้งคู่ยืนยัน “ไม่เสียใจ”

นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตนถูกดำเนินคดีทั้งหมด 14 คดี เป็นคดี ม.112 จำนวน 3 คดี ส่วน น.ส.ชลธิชา ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 28 คดี เป็นคดี ม.112 จำนวน 3 คดี

“ผมไม่กดดัน วันที่เราออกมาต่อสู้เรียกร้องตั้งแต่ปี 2557 จนถึงการชุมนุมเรียกร้องปฎิรูปสถาบันฯ วันนั้นผมไม่รู้เลยว่าจะเป็น สส. ผมไม่โทษเพื่อนที่ออกมาชวนให้มาชุมนุม ไม่โทษแกนนำ เพราะผมประเมินตัวเองว่า ผมรับได้ และ ม.112 ทั้ง 3 คดี ผมไม่มีเจตนากล่าวพาดพิงสถาบันฯ แต่เกิดจากกลุ่มคนที่มีคนรวมตัวและไล่แจ้งความ เช่นการตั้งคำถามถึงรัฐบาลและถูกตีความถึงสถาบัน ผมไม่กังวลพร้อมรับ”

“แต่ที่ผมกังวล คือ ถ้าผมพ้นจากความเป็น สส. ต้องเลือกตั้งใหม่ ประชาชนต้องเสียเวลามาเลือกตั้ง กกต. ต้องเสียงบประมาณให้การจัดการเลือกตั้งใหม่ มันน่ากังวลกว่านั้น ถ้าผลการเลือกตั้งพรรคก้าวไกลชนะ มันหมายความว่าอย่างไร และจะถูกตีความว่าอย่างไร คุณถูก ม.112 ทำให้หลุด สส. แล้วคนยังเลือกพรรคเดิมกลับมา มันอาจจะหมายความว่า เป็นการปะทะกันระหว่างอำนาจกระบวนการหนึ่ง กับอำนาจประชาชน ความเดือนร้อนไม่ตกที่พรรคก้าวไกล นี่คือความกังวลของผม ผมอยากให้ระมัดระวัง”

ด้าน น.ส.ชลธิชา ระบุว่า ตนทำใจไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าการดำเนินคดี หรือ ความปลอดภัย ทั้ง 28 คดีทางการเมืองตั้งปี 2557 และคดี ม.112 อีก 3คดี ไม่ใช่สิ่งที่กังวล ทุกครั้งที่จัดการชุมนุม รู้ความเสี่ยง แต่จะเสี่ยงมากกว่าถ้าไม่ลุกขึ้นสู้

“สารภาพเลยว่า ลูกเกดเป็นคนที่อยากมีลูก อยากให้เติบในสังคมไทย แต่สังคมไทยที่อยากให้เติมโตมา ไม่ใช่สังคมแบบนี้ ไม่อยากให้ลูกอยู่ในสังคมนี้ ที่ไม่เชื่อมั่นกับผู้พิพากษา ย้อนเวลากลับไป จะชุมนุมเหมือนเดิม หรือเข้มข้นกว่าเดิม ส่วนตัวไม่เคยคิดมาลงการเมือง ตัดสินใจมาลง เพราะ เหตุผล 2 ข้อ 1.ทำงานสิทธิมนุษยชน จึงอยากมาผลักดัน 2.การที่ประชาชนชุมนุมมีความหมายมาก และน่าเศร้าถ้าประเด็นเหล่านั้น ไม่ถูกหยิบยก ขึ้นมาพูดในสภาฯ หากวันข้างหน้าหลุดออกจาก สส.เพราะ คดีม.112 ไม่เสียดาย แต่ผิดหวังกระบวนการยุติธรรม” น.ส.ชลธิชา กล่าว

ข้อเสนอการปฎิรูปสถาบันฯ ซึ่งเคยเป็นข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม มีความเห็นอย่างไร
น.ส.ชลธิชา ระบุว่า มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องการปฎิรูปสถาบัน เราในฐานะ สส.มีหน้าที่เปิดพื้นที่ เป้าหมายที่ลูกเกดทำตอนนี้คือเปิดพื้นที่ปลอดดภัย สร้างสรรค์ในการพูดคุย

ขณะที่ นายปิยรัฐ ระบุว่า วันที่มีการเรียกร้องปฎิรูปสถาบัน ตนทำหน้าที่เดียว คือ สนับสนุน เป็นคนหนึ่งที่บอกได้ว่าไม่ใช่ผู้เสนอ แต่ยืนยันเป็นสิ่งที่ชอบธรรมและทำได้ เมื่อมาอยู่ในสภา ตั้งใจวาวงตัวเป็นกลางเปิดพื้นที่ให้ทุกคน

“รังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ.ความมั่นคง ตั้งผมเป็นหัวหน้าคณะทำงานศึกษาพิจารณาแนวทางการบังคับใช้กฎหมายในคดีการเมือง และสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกลุ่ม ศปปส.ยื่นหนังสือ ผมเป็นคนรับหนังสือ และตั้งใจเป็นกลางอย่างถึงที่สุด เพราะผมเป็น สส. เมื่อมาอยู่ตรงนี้แม้ไม่เห็นด้วย ต้องฟังและให้พื้นที่แสดงความเห็น เป็นเรื่องที่ยากแต่ต้องทำ เพราะเราคือผู้แทนของประชาชนทุกคน ต้องถอดหัวโขนออกไปแล้วทเพื่อประชาชน” นายปิยรัฐ กล่าว

เมื่อถามถึงมุมมองต่อ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล ที่เสนอให้นิรโทษกรรมคดีการเมืองตั้งแต่ 11 ก.พ.2549 จนถึง การชุมนุมของกลุ่มราษฎร

นายปิยรัฐ ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อยู่ในช่วงรับฟังความคิดเห็น คาดใช้เวลา 1-2 เดือน จากนั้นเป็นอำนาจประธานสภาฯ บรรจุเป็นวาระและพิจารณา ส่วนนอกสภาฯ หัวหน้าพรรคก้าวไกลจะเดินสายทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน ซึ่งต้องยอมรับว่า ม.112 โดนทุกฝ่าย ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ได้นิรโทษแค่ ม.112 และส่วนใหญ่ที่ได้ประโยชน์คือ นักการเมืองพรรคอื่น พรรคก้าวไกลไม่ได้หวังประโยชน์เพื่อตัวเอง ตนอยากให้โชว์ตัวเลขผู้ต้องโทษคดีการเมือง จะเห็นว่าพรรคก้าวไกลมีน้อยที่สุด

ส่วน น.ส.ชลธิชา ระบุทิ้งท้ายว่า มีเยาวชนอย่างน้อย 20 คนถูก ม.112 ดำเนินคดี มี 2 คน ที่ศาลเยาวชนมีคำสั่งและถูกควบคุม เราควรเห็นตรงกันว่าไม่ควรส่งต่อสังคมแบบนี้ กฎหมายที่ผลักดันไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของพรรคก้าวไกล เพราะมีคนหลักพันที่ถูกคดีการเมือง และการนิรโทษกรรมไม่ใช่ข้อเสนอใหม่ สังคมไทยจะไม่มีทางสามัคคี ถ้ายังมีคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า