ยื่นเงื่อนไข “ถอดชนวน ม.112” คำขาดจาก 2 ส.ว. ถ้าทำได้จริงพร้อมโหวตให้ ‘พิธา’ เป็นนายกฯ

ในการโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย ต้องใช้เสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดไว้ว่า ส.ว. มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ 5 ปี ซึ่งในปี 2566 นี้จะเป็นการทำหน้าที่นี้เป็นครั้งสุดท้ายของ ส.ว. 250 คน ที่แต่งตั้งขึ้นมาในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แม้พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมือง ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลลงคะแนนอย่างเป็นทางการแล้วว่า ได้ ส.ส. มากที่สุดเป็นอันดับ 1 และยังสามารถรวมเสียงจากพรรคการเมืองอีก 7 พรรค จัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง พร้อมทำ MOU ร่วมกัน โดยใน MOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 แต่ทางพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า จะผลักดันการแก้ไขกฎหมายมาตรานี้เองผ่านสภาผู้แทนราษฎร

ทำให้ เสียง ส.ว. จำนวนหนึ่งยืนกราน นี่คือเงื่อนไขสำคัญ ที่จะตัดสินเลือก ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ หรือไม่ TODAY LIVE ในคืนวันที่ 2 มิ.ย. 66 ได้พูดคุยกับ ‘2 ส.ว.’ คือ ‘สมชาย แสวงการ’ และ ‘เสรี สุวรรณภานนท์’ เพื่อล้วงถึงจุดยืนในการโหวตนายกฯ ของทั้ง 2 คน รวมถึงความกดดันที่มีต่อ ส.ว. จากหลายภาคส่วนของสังคม ที่ไม่เว้นแม้แต่คนใกล้ตัว

เริ่มที่ ส.ว.สมชาย โดยสรุปได้เปิดเผยเกณฑ์องค์ประกอบเพื่อใช้วัดแคนดิเดตนายกฯ  ของตนเอง โดยมี 5 ข้อ คือ 1. ความซื่อสัตย์ 2. วิสัยทัศน์ 3. สร้างแรงบันดาลใจในทางบวก 4. รอบรู้ 5. ภาวะแวดล้อม ทีมคณะรัฐมนตรี แต่ที่สำคัญคือ จะต้องเป็นบุคคลที่พาประเทศไปสู่ความมั่นคง สงบสุข ไม่เกิดความขัดแย้งได้ ดังนั้นการตัดสินใจคือทั้งหมดจะมาวางในวันที่ได้ตัดสินใจเลือก เชื่อว่า ครั้งนี้มองยังไม่มีความแน่นอน เหมือนในอดีตที่แม้จะมีการทำสัตยาบัน มองตอนนี้สังคมกำลังหลงกับความเร็วที่ถูกปั่น เลือกตั้งปี 2562 หลังเลือกตั้ง กกต. ใช้เวลา 45 วัน จึงรับรอง ส.ส. ตนคิดว่า วันโหวตนายกฯ จะเป็นช่วงปลายเดือนกรกฎาคม

“…ตรงไปตรงมาขณะนี้สังคมยังไม่ใช่ 112 ไม่ต้องไปแก้ เดินตามกระบวนการตามปกติ …ใช้กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษทางนี้ทำได้อยู่” ส.ว.สมชาย กล่าวตอนหนึ่ง

ขณะที่ ส.ว.เสรี บอกว่า ยังไม่มีคนไหนในใจที่จะโหวตให้ เพราะว่าเราก็ต้องดูตามเหตุผล สถานการณ์ เพราะตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะมีใครมาให้โหวต มีแต่การแสดงตัวตน พรรคที่มีคะแนนอันดับ 1 แต่ก็ไม่ใช่คะแนนส่วนใหญ่ของคนที่ลงคะแนน ตนไม่ได้ดูที่ชื่อคน แต่มีเงื่อนไขเรื่องหนึ่งก็คือ ต้องยอมรับและมีทิศทางที่จะต้องทำงานเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ถ้ายังวนเวียนที่เรื่องมาตรา 112 คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย อย่าว่าแต่เป็นนายกรัฐมนตรีเลย อยู่ประเทศไทยยังไม่ควรอยู่เลย เพราะฉะนั้นถ้ายังมีแนวคิดแนวทางอย่างนี้ในทางการเมือง ตนก็ไม่เลือกไม่ว่าอยู่พรรคไหนก็ตาม และไม่ว่าพรรคไหนก็ตามที่ไม่ไปแตะ ตนก็เปิดให้กับทุกพรรคที่ไม่ไปยุ่งกับเรื่องเหล่านี้

“ถ้าถอนจริง ไม่ได้ถอนหลอก ที่ทำ MOU นี่เป็นละครหลอก มันเป็นเรื่องการแสดงออกเพื่อตัดปัญหาของการอยู่ร่วมกัน แต่พอทำ MOU เสร็จ… หมึกยังไม่ทันแห้ง มาแถลงแล้วว่าจะแก้ 112” นายเสรี กล่าวตอนหนึ่ง

[แรงกดดันที่ ส.ว. เจอกับการโหวตนายกฯ] 

ส.ว.สมชาย บอกว่า ส.ว.วันชัย สอนศิริ เป็นคนที่โดนหนักกว่าเพื่อน มีทั้งเอาบ้านเลขที่ ป้ายทะเบียนรถ ซึ่ง ส.ว. ทุกคนถูกขึ้นในโซเชียลมีเดีย มีการคุกคาม ทัวร์ลง ในทุกช่องทาง ที่เล่าให้ฟัง 2 คน คนหนึ่งบ้านอยู่ที่ต่างจังหวัด หลังเลือกตั้งไม่กี่วัน มาเป็นขบวน ต้องการคำตอบว่า จะเลือกตามฉันทามติของประชาชนหรือไม่ ซึ่งท่านก็ตอบว่า จะตอบตามเสียงข้างมาก แล้วถูกเอาชื่อไปขึ้นว่า เลือกคุณพิธา ซึ่งเชื่อว่า คุณพิธาไม่รู้เรื่อง นอกจากนี้ ยังมีตะโกนด่าเวลาเดินตลาดด้วย เช่นคำว่า “ไอ้ ส.ว. สวะ” แต่ก็มีคนหนึ่งเดินมาบอกด้วยว่า “อย่าเลือกนะครับ” ก็มีทั้งสองแบบ

ด้าน ส.ว.เสรี บอกว่า ตนไม่เคยมีใครมากดดันในลักษณะที่ ส.ว.สมชายเล่า เพราะตนเป็นทนายความ จะไม่ทนกับคนที่มาด่า พร้อมดำเนินคดีไม่ต้องไปจ้างทนาย เพราะตนเป็นทนายเอง

ทั้งนี้ ส.ว.สมชาย ย้ำว่า อย่าทำแบบนี้เลย ทุกคนมีวุฒิภาวะ บางคนอาจเลือกให้ก็ได้ แล้วบางคนก็อาจจะไม่เลือกเพราะถูกกดดัน พร้อมเชื่อว่า จะไม่เกิดสุญญากาศทางการเมือง เพราะมีรัฐบาลรักษาการ โดยการเลือกต่อจากนี้ คือ การทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญจะไม่ตามกระแส แม้จะเป็นเสียงข้างน้อยก็จะเป็นเสียงข้างน้อย ดีกว่ารีบๆ แล้วไปตกเหวข้างหน้า

“ทุกคนทำให้วิกฤติทั้งนั้นแหละ อย่ามาโทษ ส.ว. เลย ผมพูดตรงๆ เลย ผมยื่นเงื่อนไขตรงๆ บอกน้องเค้าตรงๆ เลย ถอดชนวนนี้ซะ ง่ายมาก ไม่เห็นมีอะไรเลย”

“ผมเอาว่ามีลูกหลาน และมีเพื่อนผมอาจจะรุ่นเดียวกับผมด้วยนะไปเลือกก้าวไกล เยอะมากเหมือนกันนะ เลือกตามลูกก็มี โทรมาวันที่ 15 อันนี้รุ่นเดียวกันเนอะ ให้เชียร์ก้าวไกล ถัดมาอีกอาทิตย์ให้ชะลอไว้ก่อน ฟังแล้วตกใจบางเรื่องนโยบายการคลัง นโยบายบางเรื่อง… ขอให้ไตร่ตรอง” ส.ว.สมชาย กล่าว

ส.ว.สมชาย ยังยืนยันว่า องค์กรไหนถ้าไม่ปรับอาจสูญหาย และได้เล่าว่า เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ตนก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แม้วันนี้ก็ยังมีพลังอยู่ “เลือกพรรคสังคมนิยม” ตนฟังวิทยุคลื่นสั้นตลอดเวลา เลือกพรรคคอมมิวนิสต์สมัยก่อน แต่วันนี้ไม่มี และถึงยังมีก็ไม่เลือก เพราะว่า “มันไม่ใช่”

[เลือกเพลงที่เหมาะกับสถานการณ์การเมือง]

ช่วงท้ายของการพูดคุย 2 ส.ว. ยังได้เลือกเพลงที่ชอบและคิดว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้

โดย ส.ว.เสรี ได้เลือกเพลง ‘บ้านเรา’ ต้นฉบับผู้ขับร้องโดย ศิลปินแห่งชาติ ‘สุเทพ วงศ์กำแหง’ เนื้อหาของเพลงก็บอกว่า บ้านเราแสนสุขใจ ถึงจะอยู่ที่ไหน… ก็คิดถึงบ้านตลอด

ส่วน ส.ว.สมชาย เลือก 2 เพลง เพลงแรก ‘คนดีไม่มีวันตาย’ ผู็ขับร้อง ‘ธีร์ ไชยเดช’ ซึ่งเพลงคนดีไม่มีวันตาย เป็นเพลงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยบอกว่าชื่นชอบเช่นเดียว ส่วนอีกเพลงที่ ส.ว.สมชาย เลือกคือเพลง ‘แสงดาวแห่งศรัทธา’ ของ ‘จิตร ภูมิศักดิ์’

ติดตามทั้งหมดในคลิปสัมภาษณ์เต็ม ได้ที่นี่ : 

My Country Talks ร่วมกับสำนักข่าว TODAY ขอเชิญผู้ที่มีความสนใจ เข้าร่วมกิจกรรม World Talks ที่จะชวนคนจากหลากหลายพื้นที่ของโลกมาแลกเปลี่ยนไอเดีย เรื่องราว มุมมอง ผ่านการสนทนาแบบ 1:1

ผู้เข้าร่วมจะได้รับโอกาสพูดคุยกับผู้ที่มาจากต่างวัฒนธรรม ต่างบริบท ต่างแนวคิด โดยคัดจากการตอบคำถามในแง่มุมต่างๆ

หากท่านสนใจเข้าร่วม สามารถเริ่มต้นจากการตอบคำถามด้านล่างนี้ หรือเข้าไปที่ https://www.theworldtalks.org/invite

*คำถามและบทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ