โตโยต้าทุ่มงบกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท ปักหมุด “อินโดนีเซีย” พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของโตโยต้า

โตโยต้าเตรียมลงทุน 2 พันล้านดอลล่าร์ ในระยะเวลา 4 ปี เพื่อพัฒนารถไฟฟ้าในอินโดนีเซีย โดยเริ่มจากรถยนต์ไฮบริดเป็นอันดับแรก หลังจากไม่สบความสำเร็จกับการพัฒนายานยนต์ไฮบริดในประเทศไทย

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป แถลงการณ์เมื่อวันที่  27 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า โตโยต้า ยังคงทำตามแผนเพิ่มยอดขายรถยนต์ โดยจะเพิ่มการลงทุนระหว่างปี 2019 – 2023 เป็น 28.3 ล้านล้านรูเปียห์ (2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ (ราว 61,300 ล้านบาท) เพื่อพัฒนายานยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ในประเทศอินโดนีเซีย

โตโยต้า ตั้งเป้าว่า การพัฒนาในอินโดนีเซียจะช่วยให้มียอดขายทั่วโลกในเดือนนี้ให้มีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของยอดทั้งหมด ภายในปี 2025 โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดมาจาก ซึ่งเป็นเวลาก่อนกำหนด 5 ปี และจะแตะผู้ผลิตแบตเตอรี่ของจีน

ข้อตกลงการลงทุนดังกล่าว มีขึ้นระหว่างการประชุมที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย และโตโยต้า

“เนื่องจากรัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้วโตโยต้าจึงมองว่าอินโดนีเซียเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุน EV ที่สำคัญ” โตโยดะ กล่าวในแถลงการณ์

ทั้งนี้ โตโยต้า จะทำตามแผนลงทุนด้าน EV ของรัฐบาล โดยจะลงทุนเป็นระยะ ๆ เริ่มจากการพัฒนารถยนต์ไฮบริด ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่

เหตุผลที่โตโยต้าพิจารณาให้อินโดนีเซียเป็นจุดลงทุนหลักด้าน EV เนื่องจากรัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว และยังมีนโยบายลดภาษีให้กับผู้ผลิตภายในประเทศ ทั้งแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV รวมไปถึงบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า EV และประเทศที่มีตลาด EV ขนาดใหญ่ด้วย

นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินโดนีเซียยังมี nickel laterite ore เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของแบตเตอรี่ (lithium-ion) ที่ใช้ในการขับเคลื่อน EV ซึ่งดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์ต่างประเทศ สนใจลงทุนในประเทศนี้

เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ผู้ผลิตรถยนต์ของเกาหลี ฮุนไดมอเตอร์ จำกัด วางแผนที่จะเริ่มผลิต EV ในอินโดนีเซียแล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนรถยนต์ในประเทศประมาณ 880 ล้านดอลลาร์

และยังมีมิตซูบิชิของญี่ปุ่น ที่อยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องนี้ ได้ร่วมกับรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อการวิจัยโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับ EV เห็นทีในอนาคตเราต้องจับตาดูประเทศนี้ให้ดีนอกจากจะเป็นฮับแบตเตอรี่แล้ว ต้องดูว่าความทะเยอทะยานของ EV ในอินโดนีเซียทำได้เร็วเพียงใด เนื่องจากโครงการแบตเตอรี่ลิเธียมบางโครงการ ต้องการเทคโนโลยีการหลอมนิกเกิลที่ซับซ้อน