วิจัยพบสหรัฐฯติดอันดับหนึ่ง “ผลิตขยะมูลฝอย” มากที่สุดในโลก

งานวิจัยเกี่ยวกับแนวโน้มของขยะทั่วโลกชิ้นใหม่ล่าสุดระบุว่า “สหรัฐฯ” เป็นผู้ผลิตขยะมูลฝอยอันดับหนึ่งของโลก โดยชาวอเมริกันหนึ่งคนผลิตขยะมากกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 3 เท่า

วันที่ 9 ก.ค. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีการผลิตขยะ (Waste Generation Index) ของงานวิจัย ซึ่งกำหนดอัตราการผลิตขยะมูลฝอยชุมชน ขยะพลาสติก เศษอาหาร และขยะอันตรายต่อหัว พบว่าพลเมืองและผู้ประกอบการสหรัฐฯ มีส่วนส่งเสริมการเกิดปัญหาขยะมากที่สุด งานวิจัยระบุว่าสหรัฐฯ ผลิตขยะมูลฝอยชุมชนราวร้อยละ 12 ของขยะประเภทดังกล่าวทั่วโลก โดยประชากรชาวอเมริกันที่แม้ครองสัดส่วนเพียงร้อยละ 4 ของประชากรโลก กลับผลิตขยะ 773 กิโลกรัมต่อคนในหนึ่งปี

ทว่าทางตรงข้ามอย่างจีนและอินเดีย ที่มีประชากรจำนวนมหาศาลจนครองสัดส่วนรวมกันกว่าร้อยละ 36 ของประชากรโลก กลับผลิตขยะมูลฝอยชุมชนรวมกันราวร้อยละ 27 ของขยะมูลฝอยชุมชนทั่วโลกเท่านั้น นอกจากนั้นสหรัฐฯ ยังเป็นหนึ่งในประเทศอุตสาหกรรมที่มีการจัดการขยะเข้าขั้นย่ำแย่ที่สุด โดยงานวิจัยระบุว่า “สหรัฐฯ เป็นประเทศพัฒนาแล้วรายเดียวที่มีการผลิตขยะมากเกินขีดความสามารถในการรีไซเคิล”

งานวิจัยพบว่าสหรัฐฯ รีไซเคิลขยะมูลฝอยชุมชนได้เพียงร้อยละ 35 ซึ่งแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับเยอรมนี ที่เป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพการจัดการขยะดีเยี่ยมที่สุดในโลกและสามารถรีไซเคิลขยะมูลฝอยชุมชนถึงร้อยละ 68  งานวิจัยกล่าวเตือน ว่า“การขาดแคลนวิธีแก้ไขหรือจัดการกับขยะภายในประเทศของสหรัฐฯ อาจกลายเป็นปัญหาดินพอกหางหมู หลังจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากยุติการนำเข้าขยะพลาสติกแล้ว”

ไนออล์ สมิทธ์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านสิ่งแวดล้อมของวีริสก์ เมเปิลครอฟต์ (Verisk Maplecroft) กล่าวว่า “ขณะทั่วโลกมุ่งแก้ไขปัญหาขยะอย่างจริงจัง เราคาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะลงมือทำอะไรสักอย่าง โดยมีผู้ประกอบการร่วมรับผิดชอบด้วย”

งานวิจัยเสริมว่าการลงทุนในมาตรการเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) ไม่เพียงสามารถบรรเทาความเสี่ยง แต่ยังสามารถเปิดกว้างตลาดใหม่ๆ และพัฒนาชื่อเสียงของแบรนด์อีกด้วย การศึกษาซึ่งดำเนินการโดยวีริสก์ เมเปิลครอฟต์ บริษัทการจัดการความเสี่ยง พบว่ามีการผลิตขยะมูลฝอยชุมชนกว่า 2.1 พันล้านตันทั่วโลกในแต่ละปี ปริมาณมากเพียงพอจะถมสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก 822,000 สระ อย่างไรก็ดี มีขยะเพียงร้อยละ 16 ที่ถูกรีไซเคิลในแต่ละปี ส่วนอีกร้อยละ 46 ถูกกำจัดทิ้งอย่างไม่ยั่งยืน

ขอบคุณรูปภาพจาก

China Xinhua News