Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ราคาที่อยู่อาศัยแพง ค่าครองชีพสูงทะลุเพดาน และคนเลือกใช้ชีวิตอยู่เป็นโสดเพิ่มขึ้น

“แพง สูง โสด” สามสิ่งนี้ทำให้เกิดเป็น “วัฒนธรรมเช่าบ้าน” ในคนกลุ่มมิลเลนเนียล หรือ คนเจน Y (เกิดระหว่าง พ.ศ.2527-2539) มากขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ

พอเป็นแบบนี้ทำให้เทรนด์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบ Build-to-Rent หรือ BTR กลายมาเป็นกระแสโดยเฉพาะในต่างประเทศ

Build-to-Rent คือการพัฒนาโครงการอสังหาฯขึ้นมาเป็น “ชุมชน” หรือ Community และในชุมชนก็จะสร้างบ้านหลายหลังเพื่อปล่อยให้เช่าอย่างเดียวเท่านั้น (ไม่ปล่อยขาย) ส่วนผู้พักอาศัยจะต้องทำสัญญาเช่าระยะยาวในราคาค่าเช่าที่ไม่แพงมาก

ธุรกิจนี้แก้ Pain Point ของราคาบ้านที่สูงมากจนซื้อไม่ไหว โดยโครงการแบบ BTR มักจะออกแบบให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกและมีลักษณะของความเป็นชุมชนที่ผู้เช่าจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน แตกต่างจากรูปแบบการเช่าบ้านแบบดั้งเดิม

อสังหาฯแนวนี้เลยตอบโจทย์คนเจน Y ในต่างประเทศอย่างมาก เพราะลูกค้ากลุ่มนี้โดยมากเป็นกลุ่มคนโสดที่ต้องการได้ที่พักระยะยาว ราคาไม่แพง แต่ยังได้สภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ดี

กระแสนี้กำลังเป็นเทรนด์ในจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา

อ้างอิงจากรายงาน Trend 2024 : REMADE ANEW โดย TCDC ระบุว่า ประโยคคำค้นที่ว่า “Finding happiness in a rented home.” หรือ “การพบความสุขในบ้านเช่า” เป็นประโยคคำค้นมาแรงบนแพลตฟอร์ม Xiaohongshu (เสี่ยว ฮง ซู) โซเชียลคอมเมิร์ซและแพลทฟอร์มไลฟ์สไตล์ยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ในจีน

คำค้นนี้สะท้อนให้เห็นถึง “วัฒนธรรมเช่าบ้าน” ที่เพิ่มขึ้นในจีนและยังรวมถึงอีกหลายประเทศในเอเชีย โดยผู้เช่าส่วนมากเป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล หรือ เจนY ที่ยังโสด และต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีในราคาเอื้อมถึง ทำให้ธุรกิจประเภท BTR เจาะจงสร้างบ้านให้คนโสดโดยเฉพาะมาเช่าอยู่เริ่มเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น

ในต่างประเทศตอนนี้เลยมีเทรนด์คนโสดมาเช่าบ้านใน Community เดียวกัน หรือบ้างก็เป็นลักษณะการแชร์บ้านหลังเดียวกันกับคน(โสด)แปลกหน้า มีแม้กระทั่งรวมเงินในกลุ่มเพื่อนคนโสดมาเช่าที่อยู่แบบ BTR

“วัฒนธรรมการเช่า” กำลังก่อตัวขึ้นในกลุ่มคนเจน Y หลายประเทศ

ทั่วโลกมีประชากรเจน Y 1.8 พันล้านคน และกระจุกตัวในเอเชียสูงสุดประมาณ 1.1 พันล้านคน คนวัยนี้กำลังเป็นวัยสร้างรากฐาน และความมั่นคงทางครอบครัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนกลุ่มนี้ต้องเผชิญความเสี่ยงทั้งเรื่องรายได้ที่ไม่มั่นคง และค่าครองชีพที่สูงเกินเพดาน ทำให้ปริมาณคนโสดเพิ่มขึ้น ที่อยู่อาศัยแบบ BTR จึงนิยมมากขึ้นตาม ส่วนกลุ่มคนเจน Y ที่ยังคงอาศัยอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่มีอยู่ราว 36%

แม้ BTR จะได้กลุ่มลูกค้าเป็นคนวัยทำงานและเป็นโสด แต่ในบางประเทศอย่างในสหรัฐอเมริกา ได้ขยายตลาดไปเจาะกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ผู้สูงวัยที่ผ่านการหย่าร้างหรือคู่ชีวิตเสียชีวิตและต้องอยู่ลำพัง ไม่ต้องการมีภาระดูแลซ่อมบำรุงบ้านของตัวเองอีกต่อไปจึงขายบ้านทิ้งและย้ายมาอยู่ในโครงการชุมชนบ้านเช่าคนโสดแบบ BTR

นอกจากนี้ยังมีผู้เช่าที่เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้และกำลังซื้อสูงเลือกอยู่แบบ BTR ด้วย โดยให้เหตุผลที่จะอยู่แบบชุมชนบ้านเช่า เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวและยังมีความปลอดภัยนั่นเอง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า