SHARE

คัดลอกแล้ว

เปิดบทสัมภาษณ์ เต้-ดาวิชญ์’, ‘ตี๋–ธนพล’, ‘ต้นน้ำ–เปี่ยมชลและ หมอโอ๊บ–ธนดล’ 4 นักแสดงนำจาก ทริอาช ซีรีส์แนวเมดิคัลดราม่าสุดเข้มข้น ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ 

ทริอาช ซีรีส์แนวเมดิคัลดราม่า ( Medical Drama)  ผสมกลิ่นอายแฟนตาซีที่เน้นเรื่องราวของนาทีเป็นนาทีตายในห้องฉุกเฉิน ดึงผู้กำกับฝีมือคุณภาพ ‘มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล’ กำกับการแสดง และขั้นตอนการถ่ายทำ พร้อมส่งคู่จิ้นในตำนาน Boys’ Love อย่าง ‘เต้-ดาวิชญ์ กรีพลฤกษ์’ และ ‘ตี๋-ธนพล จารุจิตรานนท์’ กลับมาสร้างกระแสจิ้นอีกครั้งในรอบ 5 ปี

ทริอาช เป็น นิยายขายดีที่สุดอีกเรื่องของหมอแซม – อิสรีย์ ภายใต้นามปากกา Sammon_Scene ขึ้นมาทำเป็นซีรีส์ตามคำเรียกร้อง โดยบอกเล่าเรื่องราวของ “ติณห์” แพทย์ประจำบ้านปี 3 ที่ทั้งเก่งและเข้มงวด วันหนึ่งเขาต้องเจอกับเคสนักศึกษาหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พร้อมๆ กับลุงขับซาเล้งคู่กรณีที่อาการสาหัสถือเป็นทริอาชสีแดงทั้งคู่ แต่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตทั้งสองคนเอาไว้ได้ หลังจากลงเวร ติณห์กลับห้องพักแพทย์เพื่อผักพ่อนตามปกติ แต่เมื่อตื่นขึ้นมากลับพบว่า ชีวิตของเขาติดอยู่ในลูปเวลา พบเจอเหตุการณ์ซ้ำเดิม เจอเคสนักศึกษาหนุ่มและซาเล้งคนเดิม หนทางเดียวที่จะช่วยให้เขาหลุดออกจากลูปเวลาคือการช่วยชีวิตนักศึกษาคนนั้นให้รอดจากความตาย  ซึ่งฉายทุกวันจันทร์เวลา 22.00 น. ทาง AIS PLAY

งานนี้ workpointTODAY PLAY ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ 4 นักแสดงนำ ‘เต้-ดาวิชญ์’, ‘ตี๋–ธนพล’, ‘ต้นน้ำ–เปี่ยมชล’ และ ‘หมอโอ๊บ–ธนดล’ ที่จะมาเผยเบื้องลึกเบื้องหลังของซีรีส์สุดเข้มข้น พร้อมแจกโมเมนต์ความจิ้นไปพร้อมๆ กัน

เต้-ตี๋-ต้นน้ำ-โอ๊บ ::  สวัสดี workpointTODAY PLAY

เต้-ดาวิชญ์ :: ผม เต้-ดาวิชญ์ รับบทเป็น หมอติณห์ นะครับ

ตี๋-ธนพล :: ผม ตี๋-ธนพล รับบทเป็น ต้อล นะครับ

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: ผม ต้นน้ำ–เปี่ยมชล รับบทเป็น หมอสิงห์ ครับ

โอ๊บ–ธนดล :: โอ๊บ–ธนดล รับบทเป็น หมอแก๊ป ครับ

คาแรกเตอร์ที่ได้รับในซีรีส์ ทริอาช

เต้-ดาวิชญ์ :: หมอติณห์ นะครับ ก็จะเป็นคุณหมอห้องฉุกเฉินที่วันวันหนึ่งก็จะรักษาเคสคนไข้ห้องฉุกเฉินที่ถูกเข็นเข้ามา แล้วเป็นแพทย์เรสซิเด้นปี 3 ก็จะมีความเป็นพี่ใหญ่ที่อยู่ในห้องก็คือประสบการณ์เรียนมา 6 ปี ใช้ทุน 2 ปี แล้วก็เรียนต่อเฉพาะทางปีที่ 3 แล้ว ปีสุดท้ายแล้ว ก็จะมีความชำนาญมากๆ แล้วก็เหมือนเป็นหัวหน้า หรือว่าเป็นชีฟ ที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน มีอะไรก็หมอติณห์ก็เหมือนต้องคอยรับผิดชอบ หรือว่าคอยเป็นที่ปรึกษา บุคลิกก็จะมีความคล้ายคอมเมนเด้อนิดนึง มีความมั่นใจ แล้วก็จะต้องมีการตัดดสินใจที่เฉียบขาด แล้วก็ส่วนในพาร์ทที่ชีวิตประจำวันที่ไม่ได้อยู่ในห้องฉุกเฉิน ก็จะเป็นคนเขิน ไม่ได้แต่งตัว ไม่ได้มีฟอร์มอะไรมากจะเข้าหาใครไม่ค่อยเป็น

ตี๋-ธนพล :: ต้อลก็จะเป็นคุณหนูใจร้อนชอบเกรียวกราด เกรียวกราดบ้าง แต่จริงๆ แล้วเป็นคนที่รักเพื่อนนะครับ แต่ว่าเป็นคนหยิ่งๆ หน่อย ในเรื่องก็จะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เป็นคนที่หนุ่มหล่อเพอร์เฟคเลย มีแฟนสวยเป็นถึงดาวมหาลัย แล้วก็วันหนึ่งประสบอุบัติเหตุ โดนรถชนแล้วก็เสียชีวิต ก็ได้พี่หมอติณห์มาช่วยชีวิตไว้

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: คาแรกเตอร์หมอสิงห์ก็จะเป็นแพทย์เรสซิเด้นปี 3 ประจำแผนก ER หรือ แผนกฉุกเฉินนั้นเอง จะเป็นเพื่อนของหมอติณห์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนเลยครับ ก็จะมีความสนิทสนมกันระดับนึง ซึ่งหมอสิงห์จะเป็นคนที่ค่อนข้างดุ ค่อนข้างเนี๊ยบ จะยึดความถูกต้องเป็นหลัก ถ้าในห้องฉุกเฉินมีใครมาก่อความวุ่นวายหรือป่วน จะโดนหมอสิงห์กินแน่นอน

โอ๊บ–ธนดล :: ของโอ๊บรับบทเป็นหมอแก๊ปครับ หมอแก๊ปเป็นแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 1 คือเป็นรุ่นน้องของพี่สิงห์กับพี่ติณห์อีกที บุคลิกลักษณะหมอแก็ปก็จะ เป็นคนร่าเริงเป็นเด็ก เหมือนมีอะไรก็จะปรึกษารุ่นพี่อยู่เสมอ คาแรกเตอร์หมอแก็ปต่อพี่ติณห์ก็คือ พี่ติณห์เขาเป็นเหมือนกับพี่ชาย ที่เราสบายใจที่จะไปหาเขาก็จะไปปรึกษาเขา ส่วนคาแรกเตอร์หมอแก็ปต่อพี่สิงห์ก็คือ รู้สึกว่าเรากลัวเขา เพราะเขาดุมาก เราก็ไม่อยากไปคุยกับเขาว่าอะไร แต่ว่าอาจจะมีเรื่องราวบางอย่างที่ให้เราแบบว่า มีเส้นเรื่องบางอย่างที่ทำให้ต้อง

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: อยู่ด้วยกัน ช่วยกันแก้ปัญหา ก็เลยก่อให้เกิดเรื่องราวขึ้น

การโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 5 ปี ของ เต้ และ ตี๋

ตี๋-ธนพล :: 5 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างครับ

เต้-ดาวิชญ์ :: ก็มีเขินๆ นิดนึง แล้วก็รู้สึกแบบคือ มันก็แปลกดีที่จริงๆ เรารู้จักกันมานาน แต่เราต้องไปรับบทเป็นคนที่

ตี๋-ธนพล :: แปลกหน้า

เต้-ดาวิชญ์ :: เหมือนต้อล เหมือนเพิ่งเจอกันครั้งแรก แล้วทุกครั้งที่ย้อนเวลาเขาจะจำอะไรไม่ได้เลย ทุกครั้งที่กลับมาเขาต้องแบบนับหนึ่งใหม่ทุกครั้งเป็นความสัมพันธ์ที่แบบ เริ่มจากหนึ่งใหม่เดี๋ยวลูปกลับมาลืมอีกแล้ว แต่เราจดจำทุกอย่างได้ตั้งแต่หนึ่งถึงร้อย มันก็เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกใหม่มากๆ รวมถึงเส้นเรื่องการรับบทที่ยากขึ้นของพวกเรา รู้สึกเราสองคนโตขึ้นมากๆ ครับ

ตี๋-ธนพล :: ตี๋ก็รู้สึกดีใจครับที่ได้กลับมาร่วมงานกับพี่เต้อีกครั้งหนึ่งในรอบ 5 ปี คือที่ผ่านมา ก็จะเป็นการทำงานเหมือนแบบว่าตามงาน ออกอีเว้นท์อะไรแบบนี้ครับ แต่ว่าเรายังไม่เคยมีซีรีส์คู่กันเลย เรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องแรกที่เราได้เล่นซีรีส์ด้วยกันแบบเต็มตัว แบบทั้งเรื่องเลยครับ

ซีรีส์เรื่องแรกของ หมอโอ๊บ–ธนดล

โอ๊บ–ธนดล :: ก็เรื่องแรกก็ต้องตื่นเต้นนะครับ แล้วก็กดดัน ช่วงแรกก็เครียดมากว่าเราจะทำได้ดีไหม หรือว่าเราจะทำให้คนอื่นเขาแบบว่า เหมือนเราจะเป็นตัวถ่วงไหม ก็แก้ปัญหาด้วยการว่า ก็พยายามฝึก พยายามเรียนรู้ พยายามผ่านการเวิร์คช้อปทางการแสดง บวกกับว่าไปอยู่ที่เซ็ทหรือว่าไปอยู่ที่ซีนก็ได้ครู ได้ต้นน้ำ ได้พี่เต้ ได้ทุกคนที่เขาเป็นนักแสดงรุ่นก่อนหน้านี้ คอยช่วยสอน คอนชี้แนะ ก็เลยผ่านมาได้

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: รุ่นก่อนเลยหรอ (หัวเราะ)

โอ๊บ–ธนดล :: (หัวเราะ) รุ่นก่อน หมายถึงที่ผ่านประสบการณ์มาก่อน

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: ดูแก่เลย (หัวเราะ)

การมารับบทคู่กันครั้งแรกของ  ต้นน้ำ และ หมอโอ๊บ

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: รู้สึกโชคดีมากครับผม ที่ได้เล่นคู่กับพี่โอ๊บ เพราะว่าไม่งั้น ไม่รู้ว่าทุกวันนี้จะรอดหรือเปล่า พอดีว่าพี่โอ๊บเป็นหมอในชีวิตจริงแล้วด้วย ในช่วงที่ถ่ายทำ ได้ไปอยู่ที่เชียงใหม่ด้วยกันสองคน นอนห้องเดียวกันเลยประมาณเกือบๆ 2 เดือน ทำให้เราเวลามีปัญหาเกี่ยวกับซีนหมอ เราก็จะถามพี่โอ๊บได้ก่อนนอนทุกคืน ทั้งวิธีการใช้ หรือว่าชื่อเรียกอุปกรณ์ ก็จะแบบพี่โอ๊บช่วยผมหน่อย ยาตัวนี้ชื่ออะไร เครื่องมือนี้อ่านว่าอะไร เพราะว่าในบทเขียนเป็นภาษาอังกฤษครับ ผมอ่านไม่ค่อยออก ได้พี่โอ๊บนี่แหละช่วย

โอ๊บ–ธนดล :: ของโอ๊บก็ถือว่าโชคดีมากเหมือนกันครับ เพราะว่าต้นน้ำก็คือ เขาผ่านการแสดงมาเยอะ เสมือนจะเป็นครูแอคติ้งแล้วนะครับ เพราะงั้นทุกวันที่โอ๊บมีปัญหาหรือว่ามีบทอะไรที่มีปัญหาก็ได้ต้นน้ำเนี่ยแหละครับ ทุกคืนทุกวันเราก็ถามก่อนว่าบทนี้ ตัวละครนี้ ต้องอารมณ์อย่างไร ต้นน้ำก็เปรียบเสมือนครูอีกคนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้การแสดงเราพัฒนาขึ้น ก็คิดว่าต่างคนต่างช่วยกัน เติมเต็มกันอะไรแบบนี้ ก็ถือว่าโชคดีมาก

เบื้องหลังการทำงาน  

เต้-ดาวิชญ์ :: ก็ไปเวิร์คช็อปมาเยอะมากๆ ตั้งแต่พาไปโรงพยาบาลที่กรุงเทพไปดูว่าห้องฉุกเฉินเป็นอย่างไร ศัพท์ต่างๆ คืออะไร ทริอาชคืออะไร แล้วพอเราเรียนรู้พื้นฐาน ก็ตอนที่เราไปเชียงใหม่ก็ไปเวิร์คช้อปกับคุณหมอห้อง ER ห้องฉุกเฉินจริงๆ แล้วก็มีไปดูโรงพยาบาลอีกทีหนึ่ง ก็ทำการบ้านกันทั้งทีมงานแล้วก็ตัวเต้ค่อนข้างหนักมากๆ แล้วก็จะมีวันหนึ่งที่เรามาอ่านบททั้งหมดรวมกัน เหมือนมาเวิร์คช้อปร่วมกัน เต้ก็เห็นแล้วว่า เราจะแค่ท่องไม่ได้แล้ว เพราะว่าการแสดงต้องเข้าใจมากๆ เลยลองไปทำการบ้านดู ลองท่องดู รู้สึกว่ามันไม่ได้ ทำยังไงก็รู้ว่าไม่เข้าใจ เพราะว่าตั้งแต่ทำการบ้านมา ไม่เคยอ่านศัพท์เทคนิคต่างๆ ไม่เข้าใจว่าคืออะไร หลังจากนั้นก็เลยแบบไม่ได้แล้ว ไปค้นหาทุกคำเลยว่าแต่ละคำคืออะไร บางทีไปดูโรค หัตการต่างๆ ไปนั่งค้นหาเป็นสิบๆ หน้าว่าจริงๆ แล้วโรคนี้สาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไร เกิดจากกรรมพันธุ์ หรือเกิดจากอุบัติเหตุ คือการที่เราทำการบ้านแบบนี้ กลายเป็นว่าทำให้เราซึมซับจนรู้สึกว่าก็โรคนี้ฉันรักษาเป็น ฉันรู้วิธีอะไรแบบนี้ครับ มันเริ่มซึมจนเชื่อว่าตัวเองรักษาได้ อันนี้คือโพรเซสที่เราทำการบ้านกัน ที่พูดมานี้คือแต่ละวันทั้งทีมงานทั้งตัวเต้นี่คือ ทั้งวันทั้งคืน กว่าที่จะทำออกมาเป็นซีรีส์เรื่องนี้ครับ

ตี๋-ธนพล :: ก็เรียกได้ว่า ทุกคนหนักหน่วงมากๆ เลยครับเพราะว่าการถ่ายทำของซีรีส์เรื่องเราจะถ่ายทำ 3 วัน หยุด 1 วัน แล้วก็ 4 วัน หยุด 2 วัน หรือว่าบางที 4 วันก็อาจจะได้หยุดแค่ 1 วัน แล้วก็วันหยุดเหล่านั้นทีมงานก็มีการประชุมงานกันแล้วก็มีการวางแผนในการถ่ายทำในวันถัดไปก็เหมือนไม่ได้หยุดนั้นแหละครับ เหมือนเขาทำงานทุกวัน ซึ่งของตัวนักแสดงเอง ก็มีการเวิร์คช้อปด้วย อย่างวันหยุดพี่เต้ก็ต้องไปฝึกเรื่องหมอ เรื่องอะไรเพิ่มเติม เวิร์กช็อปเพิ่มเติม ก็เลยทำให้เราได้ทำงานหนักจริงๆ ทุกวัน อย่างตี๋ช่วงนั้นก็ทำงานหนักติดกัน 20 วัน แบบที่ไม่ได้พักเลย เราก็ตั้งใจทำผลงาน ชิ้นนี้ออกมาแบบว่าให้ดีมากจริงๆ ทั้งทีมงานทุกๆ คน ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด

เต้-ดาวิชญ์ :: คือด้วยความที่เราต้องยกทีมงานไปอยู่ที่นู้นด้วยหลายๆ อย่างๆ ด้วยบัตเจ็ทเอย ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่างๆ ทำให้เราต้องถ่ายแบบเข้มข้นมากๆ แล้วก็ ไปอยู่ที่นู้นคือการที่เราย้ายกำลังพลไปอยู่ที่นู้นก็เป็นรื่องใหญ่มากๆ ก็ทำให้เราต้องถ่ายกระชั้นชิด อย่างที่ตี๋บอก ถ่าย 3 หยุด 1 ถ่าย 4 หยุด 2 อะไรแบบนี้ ที่จริงก็มีข้อดีทำให้ อย่างตัวเต้ อยู่กับตัวละคร อยู่กับบทได้ดีมากๆ บางทีเราอยู่บ้าน เราทำงานเสร็จเรากลับไปเราอาจจะไปทำนู้นทำนี่ อาจจะลืมไป เป็นเรื่องแรกที่ได้อยู่กับตัวละคร 100% จนแบบมีวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมา ฉันไม่ได้ไปเพื่อ ไปทำหน้าที่เป็นนักแสดง คือกำลังเดินไปเพื่อเข้าเวรแล้ว การที่ใส่ชุดเหมือนแบบ ใส่ชุดทำงาน มาเดี๋ยววันนี้มีเคสไหนเข้ามา

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: ก็ได้มีการไปเวิร์คช้อปที่โรงพยาบาลเหมือนกันกับพี่เต้ พี่เต้ก็ไปด้วยกัน ตั้งแต่วันแรกเลยก็ไปดูห้อง ER จริงๆ ก่อนว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร ในโรงพยาบาลบรรยากาศเป็นอย่างไร ซึ่งวันแรกออกมาก็หน้าเหวอแล้ว เราจะทำได้ไหม ที่จริงแล้วมันดูยากมากครับ แต่พอเราได้ทำการเวิร์คช้อปผ่านที่ละเสตป เราเริ่มมีความชำนาญมีความคุ้นชินกับตรงนี้มากขึ้น อย่างที่เราไปก็คือเรามีพี่โอ๊บเป็นเหมือนโค้ชในส่วนของการแพทย์ประจำตัว ทำให้เราได้เปรียบตรงนี้ด้วย เราก็มีเวลาซ้อมอยู่ห้อง พี่โอ๊บก็คอยดูให้ว่าตรงนี้ถูกหรือเปล่า ศัพท์นี้เรียกถูกหรือเปล่า

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: ในกองถ่ายของเรา เรายกไปถ่ายที่เชียงใหม่กันตลอดเลย 100% อยู่ที่เชียงใหม่ ประมาณสองเดือน ซึ่งเราโชคดีที่ได้ไปอยู่ที่เชียงใหม่ตรงที่เราอินอยู่ในคาแรกเตอร์โดยที่ไม่ต้องสลับออกมาไปเล่นเป็นบทอื่น เรามีสมาธิกับงานได้อย่างเต็มที่ พี่ๆ ทีมงานก็เก่งทุกคนเขาตั้งใจเท่าที่เราตั้งใจเลย ทีมงานทุกคนต้องรู้กระบวนการที่เป็นหมอ

โอ๊บ–ธนดล :: ต้องเวิร์คช้อปด้วย ไปทุกคน ก็ไปกันหมดเลย

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: เพราะว่าต้องถ่ายเทคนิค เขาเรียกว่าอะไร เวลาทำหัตถการแพทย์ เมดิคัล ในส่วนหมออะไรแบบนี้ เขาก้ผิดพลาดไม่ได้เหมือนกับเรา เขาต้องเข้าใจเหมือนกับเรา ไม่งั้นจะไม่ซิงค์กันทั้งเบื้องหน้าแล้วก็เบื้องหลัง อย่างโอ๊บมาเล่นเรื่องแรกก็มาเจอพี่มะเดี่ยวเลย

โอ๊บ–ธนดล :: ใช่ก็คือได้ยินชื่อของพี่มะเดี่ยวมาอยู่แล้วนะครับ แล้วก็รู้ว่าเขาเป็นคนเก่งอย่างไร พอได้มาร่วมทำงานก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ การมองหรืออะไรแบบนี้ รู้สึกเป็นเกียรติมากแล้วเขาก็เป็นครูคนแรกๆ ของเราก็รู้สึกดีมาก รู้สึกว่าในกองบรรยากาศทุกอย่าง เป็นกันเอง ทุกคนเริ่มต้นจากว่าทุกคนเราเซ็ทโกเหมือนกัน ตั้งใจที่จะทำให้งานออกมามีคุณภาพ เพราะฉะนั้นบรรยากาศในกองหรือว่าทุกอย่างเราสามารถคุยหรือว่าเราสามรถปรับ ช่วยกันคุยกันได้ ก็เลยไม่รู้สึกถึงความกดดันอะไรเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องแรกแล้วก็สนุกสนานครับ เพราะว่าได้ออกกองต่างจังหวัด

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: แล้วอากาศเย็นด้วย ช่วงนั้นตื่นมาก็ 16-17 องศา ตลอดเลย น้ำไม่อาบสักวันครับตอนเช้า (หัวเราะ)

โอ๊บ–ธนดล :: หืมม (หัวเราะ) ประสบการณ์การเป็นนักแสดงครั้งแรกเราประทับใจมาก นี่แหละความรู้สึกความสุขที่แบบว่าได้ออกกอง

กระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างไรบ้าง

เต้-ดาวิชญ์ :: ก็รู้สึกเกินคาดมากๆ เลย แล้วก็สิ่งที่คนที่ คืออย่างเต้ ก็อย่างต้นน้ำหรือหลายๆ คนที่แสดงเป็นแพทย์เป็นคุณหมอก็คุยกันเลยแบบว่ากลัวอย่างเดียวกลัวโดนว่า กลัวโดนคุณหมอหรือใครแบบตำหนิมากๆ เราก็เลยพยายามทำอย่างดีที่สุด ให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด อะไรที่สำคัญพยายามไม่ให้หลุดอย่างนี้ครับ ปรากฏว่าวันที่ออนแล้วได้รับคำชม จากคุณหมอหลายๆ ท่านที่เป็นคุณหมอจริงๆ คือเป็นอะไรที่เป็นเกียรติมากๆ แล้วก็รู้สึกว่าเกินคาดมากๆ ไม่คิดว่าแพทย์จะมาประทับตราว่าโอเคนะ ฉันให้ผ่านนะ บรรยากาศมันใกล้เคียงกับบรรยากาศห้องฉุกเฉินมากๆ เลยนะ หรือบางทีมีแพทย์ ซีนที่มีคนเมา คุณหมอบอกคือชีวิตจริงมากๆ เลย เป็นอุปสรรคกับการรักษา เต้รู้สึกแบบเราคอมพลีทมากๆ เลยนะ ที่ซีรีส์เราได้ให้อะไรบางอย่างกับคนดูด้วย

ตี๋-ธนพล :: ตอนนั้นก็เหมือนอินคาแร็กเตอร์จัดเลยครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ถ่ายกลางๆ เรื่องแล้วครับ ตอนนั้นตี๋ก็อยู่กับตัวละครได้ดีมากๆ เป็นซีนที่เราได้เจอกับหมอติณห์ครั้งแรก เขาก็มาทักว่าเรากำลังจะตายนะ ด้วยความที่ ถ้าเป็นตัวเราเองจริงๆ เราก็แบบ ‘อิหยังวะ’ แบบ ‘อะไรวะ’ อะไรแบบนี้ แต่ด้วยความเป็นตัวต้อลเขาจะมีความว่า หยิ่งๆ หน่อยๆ นึงก็จะแบบ ‘เธอเป็นอะไร’ ‘เธอมาบอกว่าฉันจะตายหรอ แบบนี้’ แล้วเราก็มีการสวมบทบาท ของตัวต้อลได้แบบหยิ่งแล้วก็คูลที่สุด ก็ออกมาแล้วทุกคนชื่นชมแล้วก็รู้สึกดีใจครับ ที่ชื่นชมกับความหยิ่งของเราใน ณ โมเมนต์นั้น

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: อันนี้คือดีใจมากเลยครับผม เพราะว่าเป็นสิ่งแรกที่กังวลเลย ก่อนที่จะมารับบทนี้ว่าผลงานที่ผ่านมา ถ้าใครมีโอกาสได้ดูจะรู้ว่า เกือบ 90% เป็นงานแนวคอมเมดี้ เป็นทางตลกหมดเลย พอเรื่องนี้รู้ว่าจะต้องพลิกบทบาทเป็นหมอสิงห์ เรามีความกังวลว่า ทำอย่างไรให้คนดูเชื่อว่า เราเป้นหมอสิงห์จริงๆ ไม่ใช่ต้นน้ำที่มาแบบมาเป็นหมอ ตอนที่โปสเตอร์ปล่อยออกไป คนยังบอกอยู่เลยว่าต้นน้ำออกมาต้องเป็นหมอตลกแน่เลย ยิ่งทำให้เรากังวลมากกว่าเดิม แต่พอออนไป กระแสตอบรับมาแบบนี้เหมือนเสริมแรงใจเรา ที่เราพยายามมาไม่ได้สูญเปล่านะ ได้รับผลตอบแทนออกมาทำให้ผมเหมือนฟูฟีล ความฝันของตัวผมด้วยครับ

โอ๊บ–ธนดล :: ก็ตอนได้รับฟีดแบ็กตอนแรก ก็ใจฟูมาก เราไม่เคยแบบเหมือนมีใครมาบอกชอบ หรือซัพพอร์ตผลงานเราขนาดนี้มาก่อน ตอนอ่านก็รู้สึกใจฟู อ่านไปก็แบบน้ำตาซึมไป บวกกับเรื่องของทางการแพทย์ที่เขาชมด้วย ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แล้วก็เป็นกำลังใจให้เรายังอยากพัฒนาตัวเองต่อไปในด้านนี้ ให้แบบไปได้ดีขึ้น

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: เพื่อตอบแทนคนที่ชื่นชมเรา

โอ๊บ–ธนดล :: แล้วเราก็เพิ่งเข้าใจว่าความสุขของการเป็นนักแสดง

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: เพราะว่าตอนแรกที่เราอยู่เชียงใหม่มีโอกาสได้แชร์ประสบการณ์ชีวิตกัน ผมก็บอกพี่โอ๊บว่ามันสนุกอย่างนี้ พี่โอ๊บอาจจะยังไม่เห็นแพรคทิเคิลอะไรคือสิ่งตอบแทนให้กับเราที่ได้เราได้รับจากการที่ผลงานเราออกมาแล้ว พี่โอ๊บน่าจะเข้าใจตรงนี้มากขึ้น

โอ๊บ–ธนดล :: เข้าใจ แบบจอย แบบว่าเป็นความสุขของการเป็นนักแสดงก็คือเรื่องที่เราตั้งใจทำ เห็ฯทุกฝ่ายตั้งใจทำ พอออกมาดี กระแสตอบรับดี อ่านทีไรก็มีกำลังใจ

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: อ่านแล้วยิ้ม อ่านแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว

โอ๊บ–ธนดล :: ใช่ อ่านแล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: ต้นน้ำ เป็นบ้าอะไรหา ยิ้มอยู่คนเดียวทั้งวัน (หัวเราะ)

โอ๊บ–ธนดล :: (หัวเราะ)

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากกลับไปทำอะไรหรือกลับไปสถานที่ใด

เต้-ดาวิชญ์ :: อยากลองทำอะไรที่เสี่ยงชีวิตดู คือตัวเต้เป็นคนขี้กลัว กลัวอะไรที่มันเสี่ยงมากๆ อยากลองทำอะไรอย่างเช่นแบบ สกีบนภูเขาน้ำแข็ง หรือว่าโดดร่มลงมา หรือทำอะไรที่แบบ โอเคเดี๋ยวฉันวนลูปกลับมาใหม่ได้นะ

ตี๋-ธนพล :: ที่แบบเอาเหตุการณ์เสี่ยงตาย แล้วพอใกล้จะตายจริงก็สามารถวนลูปกลับมาได้

เต้-ดาวิชญ์ :: เหมือนเราฝันว่าเรากระโดดจากที่สูง แล้วตื่นมาก็อ้าว แค่ฝันไป

ตี๋-ธนพล :: ของตี๋หรอครับ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็อยากจะย้อน ไปอยู่ในวัยเด็กครับ ที่ทุกคนครบกันพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นวันที่ทุกคนไปเที่ยวกัน ไปเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัว ทุกคนครบกันหมดเลย ก็อยากจะมีบรรยากาศแบบนั้นอีก ก็อยากจะย้อนไปในเวลาวัยเด็กเหล่านั้นที่มีความสุขมากๆ ครับผม

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: ผมคงอยากกลับไปกินนมครับผม แล้วก็นอนให้ไวขึ้น แม่บอกให้กินนมเยอะๆ แล้วก็ให้นอนเร็วๆ ให้นอนก่อน 4 ทุ่ม เราก็ไม่เชื่อไง ก็นอนหลังเที่ยงคืนตลอด นมก็ไม่กินแอบเอาไปเททิ้งเลยเตี้ยอยู่ตอนนี้ ไม่สูงเท่าไหร่อยากกลับไปแก้ไขตรงนี้มากกว่า พี่โอ๊บละ (หัวเราะ)

โอ๊บ–ธนดล :: : ของผมคือ อย่างที่เราบอกว่าซีรีส์มีเรื่องของบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟค ก็คือถ้าเรากลับไปย้อนแก้จะไปกระทบกับคนอื่น เพราะงั้นตอนนี้ก็คิดว่า ไม่ได้อยากไปกลับไปแก้ตรงไหนครับ เพราะว่ากลัวถ้ากลับไปแก้ในโมเมนต์ไหน เราจะสูญเสียคนสำคัญคนอื่นไป เพราะฉะนั้นก็คิดว่าทุกวันก็ทำให้มันดีที่สุดก็พอ

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: แล้วไม่อยากกลับไปกินนมหรอ

โอ๊บ–ธนดล :: : ก็อยากอยู่นะ (หัวเราะ)

ต้นน้ำ–เปี่ยมชล :: (หัวเราะ)

ฝากผลงาน

เต้-ดาวิชญ์ :: ก็ฝาก ทริอาช เดอะซีรีส์ ของพวกเราด้วยนะครับ เป็นอีกหนึ่งชินที่พวกเราทั้งทีมงาน เบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำการบ้านกันหนักมากๆ เลย เป็นเมดิคัลดราม่าซีรีส์ ที่มีเรื่องของลูปเวลา เรื่องของบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟค เรื่องของโอกาสครั้งที่สอง ที่จะกลับไปแก้ไขอะไรหลายๆ อย่าง เต้ว่าก็เป็นสิ่งที่ให้ข้อคิดแล้วก็เต้ว่ามันแปลกใหม่มากๆ เลย อยากให้ติดตามว่าเราจะสามารถ เอาเรื่องของเมดิคัล เรื่องของแฟนตาซีมาเกลาเป็นทริอาชได้อย่างไร

ตี๋-ธนพล :: นอกจากซีรีส์ทริอาชที่มีความน่าสนใจทางด้านวงการการแพทย์แล้ว อีกมุมหนึ่งก็เรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละคร ซึ่งคนหนึ่งที่จำเรื่องราวทุกอย่างได้ในทุกๆ วัน แต่อีกคนหนึ่งคือต้องลืมแล้วต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ที่คนหนึ่งลืมตลอดเลย อีกคนหนึ่งจำได้ ความสัมพันธ์เขาจะรักกันอย่างไร ก็อยากให้ทุกคนมาลุ้นและก็ติดตามเชียร์กันใน ทริอาช เดอะซีรีส์ กันนะครับ นอกจากความรัก ความสัมพันธ์ของคู่นี้แล้ว ก็ยังมีคู่ของหมอสิงห์ และ หมอแก๊ป อีกที่จะต้องให้ทุกคนตามลุ้นตามเชียร์กัน แล้วก็นอกจากความรักแล้ว ก็ซีรีส์ของเราก็จะสื่อถึงโอกาสครั้งที่สอง ก็คือการที่เราได้กลับมาวนลูปอีกครั้ง การได้กลับมาแก้ไขอดีตอีกครั้งหนึ่งซึ่งชีวิตจริงเราไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นซีรีส์เรื่องนี้ก็อยากจะบอกกับทุกคนว่าใช้ชีวิตทุกๆ วันให้เต็มที่เพราะว่าในชีวิตเราไม่สามารถมีโอกาสได้กลับมาแก้ไขอดีตได้อีกแล้วเพราะฉะนั้นทำทุกวันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับผม

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า