SHARE

คัดลอกแล้ว

สงครามการค้าพุ่งตรงมาที่ชาติอาเซียน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เล่นงาน จีน เม็กซิโก แคนาดา ไปเรียบร้อย ล่าสุด เขาประกาศชัดเจนว่า จะเริ่มมาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศต่างๆ ที่เอาเปรียบสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เม.. ที่จะถึงนี้

คำประกาศนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนออกมาเตือนว่า ภูมิภาคอาเซียนจะเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ มากที่สุด เนื่องจากหลายประเทศในกลุ่มนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนของการค้าโลก

โดยในบรรดาชาติอาเซียน ประเทศที่น่าห่วงที่สุด คือ เวียดนามและไทย ซึ่งมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอันดับต้นๆ สองประเทศนี้ถูกมองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่กำลังถูกเพ่งเล็งให้เป็นเป้าหมายต่อไปที่จะถูกรัฐบาลสหรัฐฯ รีดภาษี และสุดท้ายผลกระทบจะเกิดขึ้นกับทุกประเทศในภูมิภาคนี้

อาเซียนจะรับมือกับสงครามภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ได้อย่างไร มีทางออกไหนบ้างที่เราจะสามารถลดผลกระทบได้น้อยที่สุด เราพาไปหาคำตอบพร้อมกันในโพสต์นี้

ทางเดียวที่จะอยู่รอด คือทุกชาติต้องร่วมมือกัน

แม้เวียดนามกับไทย จะถูกมองว่าเป็น 2 ชาติที่กำลังถูกเพ่งเล็ง เพราะมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มูลค่าสูงมาก โดยเวียดนามเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ และไทยมียอดเกินดุลสหรัฐฯ อยู่กว่า 35,000 ล้าน

แต่ ไบรอัน พี.ไคลน์ นักวิเคราะห์ด้านเศรษศาสตร์และอดีตนักการทูตชาวอเมริกัน ให้ความเห็นถึงผลกระทบที่คาดว่า จะเกิดกับชาติอาเซียน ไว้น่าสนใจว่า ไม่ใช่แค่ไทยกับเวียดนามที่จะเจอผลกระทบจากสงครามภาษี ทุกประเทศอาเซียนก็จะได้รับผลกระทบไปพร้อมๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่สิงคโปร์ ซึ่งขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ อยู่ ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเผชิญกับผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศ

ดังนั้น หากจะบรรเทาผลกระทบให้เกิดกับภูมิภาคน้อยที่สุด ทุกประเทศต้องรวมกันให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยกันขัดขวางนโยบายกีดกันการค้าประธานาธิบดีทรัมป์

ไคลน์อธิบายว่า จุดแข็งที่อาเซียนมีอยู่ ก็คือจำนวนประชากรที่มากกว่า 650 ล้านคนทั้งภูมิภาค แต่ความท้าทายก็คือ เราจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่ว่านี้ได้อย่างไร เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่ต้องร่วมมือร่วมใจกันในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เสริมความแข็งแกร่งกับพันธมิตรนอกภูมิภาค

นอกจากความร่วมมือกันภายในภูมิภาคแล้ว อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือการประสานงานกับพันธมิตรภายนอกภูมิภาค เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการรับมือกับสงครามการค้าของสหรัฐฯ

โดยในมุมมองของไคลน์ เขาระบุว่า หนึ่งในประเทศน่าสนใจที่อาเซียนควรมองเป็นหุ้นส่วนคือ อินเดีย เนื่องจากตอนนี้ อินเดียประเทศที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และถูกมองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเอเชียในเวลาอันใกล้นี้

ดังนั้น ในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับสงครามภาษีอันหนักหน่วงกับสหรัฐฯ อินเดียอาจเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่จะช่วยพยุงภูมิภาคให้รอดพ้นจากผลกระทบรุนแรงจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ได้

จับตาประชุมอาเซียนเดือน พ..

สิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ คือการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จะมีขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย เดือน พ.. นี้ ซึ่งมีการเปิดเผยมาว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้เชิญพันธมิตรนอกภูมิภาคมาร่วมประชุม รวมถึงจีน และประเทศอ่าวอาหรับ

ไม่แน่ว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ อาจจะได้เห็นความร่วมมือใหม่เพื่อต้านทานภัยคุกคามจากสงครามการค้า แม้นายกรัฐมนตรีอันวาร์จะยืนยันว่า ที่เชิญพันธมิตรนอกภูมิภาคอย่าง จีน และประเทศอ่าวอาหรับมาร่วมประชุม ไม่ใช่เพื่อแสดงการเลือกข้าง เพียงแต่ต้องการให้แน่ใจว่าอาเซียนยังมีที่ยืนในเชิงยุทธ์ศาสตร์บนโลกที่ถูกแบ่งเป็นขั้วๆ ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม แม้วิธีการนี้ของนายกรัฐมนตรีอันวาร์จะถูกมองว่าเป็นอีกแนวทางที่อาจช่วยคานอำนาจของสหรัฐฯ แต่ แซม บารอน นักวิชาการด้านเอเชียแปซิฟิกจากสถาบันโยโกสุกะในญี่ปุ่น เตือนว่าทั้งชาติอาเซียน ประเทศอ่าวอาหรับ และจีน ต่างก็มีข้อพิพาท เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อยู่มหาศาล และทรัมป์ก็ไม่ใช่คนที่ลังเลจะใช้นโยบายการค้าเป็นเครื่องมือ ดังนั้น การดำเนินการใดๆ จึงต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า