‘ทีเอ็มบีธนชาต’ รวมกิจการสมบูรณ์ ก.ค.นี้ ลูกค้าธนชาตเตรียมรับจดหมายแจ้งเปลี่ยนเลขที่บัญชี

ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb ประกาศความพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ชื่อใหม่ 5 ก.ค.นี้ หลังรวมกิจการใกล้สมบูรณ์ ลุยดูแลลูกค้าเก่า เพิ่มศักยภาพช่องทางดิจิทัล ด้านลูกค้าธนชาตเตรียมรับจดหมายแจ้งเปลี่ยนเลขที่บัญชี

วันที่ 10 พ.ค. 2564 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) หรือ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากเดินหน้ารวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาตมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะนี้คาดว่าการรวมกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยจนถึงวันที่ 1 พ.ค. ได้รวมบุคลากรกว่า 16,000 คนให้เป็นทีมเดียวกันแล้ว 100% และพร้อมเดินหน้าสานต่อจุดประสงค์เดียวกัน คือ one dream ซึ่งคือการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย

นายปิติ กล่าวอีกว่า โดยแผนในปี 2564 ที่วางไว้ มีดังนี้ 1.มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าเดิมของทั้ง 2 ธนาคารที่มีอยู่เกือบ 10 ล้านคน ให้มาใช้ ttb เป็นธนาคารหลัก ภายใต้โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลในทุกช่วงชีวิต โดยให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล 2.สร้างศักยภาพของช่องทางดิจิทัลบนโมบายแบงกิ้งแพลตฟอร์มที่จะเชื่อมโยงทั้งแอปพลิเคชั่น, ตู้ ATM และระบบแชตที่ต้องใช้คนในการพูดคุยกับลูกค้า และ 3.เสริมศักยภาพบุคลากรเพื่อสนับสนุนทิศทางในการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลของธนาคาร

นอกจากนี้ยังเดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 โดยในปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไปแล้วกว่า 750,000 ราย ผ่านมาตรการต่างๆ เช่น การพักชำระหนี้ ซึ่งหลังจากคลายล็อกดาวน์ ลูกค้าก็สามารถกลับมาชำระได้ตามปกติ ส่วนการระบาดในปีนี้แม้ว่าจะรุนแรงกว่าปีก่อน แต่จากมาตรการต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจยังพอเดินไปได้ เนื่องจากตอนนี้ลูกค้ายังเข้ามาขอความช่วยเหลือน้อยกว่าปีก่อน

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต

“อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าคงมีโครงการช่วยเหลือลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป เพื่อให้ช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างดีขึ้น ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือแผนการฉีดวัคซีนของรัฐบาลที่กำลังทยอยนำเข้าวัคซีนมาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าทุกคนไปช่วยกันฉีดวัคซีนซึ่งจะสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกคนได้ หลังจากนั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาได้” นายปิติ กล่าว

นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) กล่าวว่า สำหรับการรวมกิจการที่มีแผนดำเนินงาน 18 เดือนนั้น ถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้แม้จะมีโควิด-19 ระบาดก็ตาม โดยปัจจุบันได้รวมพนักงานเป็นทีมเดียวกันเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ช่องทางการให้บริการ คือ สาขา, ตู้ ATM และการสื่อสารภายใต้ชื่อแบรนด์ใหม่ จะแล้วเสร็จในสิ้นเดือน มิ.ย. ส่วนงานไอทียังเหลือทดสอบอีก 1 ครั้งในปลายเดือนนี้ ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จด้วยดี โดยในวันที่ 5 ก.ค. จึงจะพร้อมเริ่มดำเนินธุรกิจด้วยชื่อธนาคารใหม่อย่างเป็นทางการ

“ภายหลังควบรวมแล้ว ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เคยมีก็จะถูกรวบเป็นหนึ่งเดียว โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยกับลูกค้าธนชาต ที่ในกลางเดือนนี้เป็นต้นไป จะได้รับจดหมายที่มีคิวอาร์โค้ดที่สแกนแล้วจะแสดงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ซึ่งจะมีการยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล โดยแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชีเงินฝาก สินเชื่อ และบริหารกองทุน ส่วนบัตรเครดิตและสินเชื่อรถยนต์ยังคงเหมือนเดิม” นายประพันธ์ กล่าว

ด้าน นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล กล่าวว่า สำหรับธุรกิจลูกค้าบุคคล ธนาคารมีเป้าหมายที่จะทำให้ลูกค้าบุคคลมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น โดยยึดความต้องการและเป้าหมายของลูกค้าเป็นที่ตั้ง จึงออกแบบเป็นโซลูชั่นที่สอดคล้องกับความต้องการของ 4 ช่วงวัย ดังนี้

1.กลุ่มเพิ่งเริ่มทำงาน เน้นโซลูชั่นด้านฉลาดออม ฉลาดใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง พร้อมรับสิทธิประโยชน์รอบด้าน รวมถึงประกันอุบัติเหตุฟรี

2.กลุ่มเริ่มสร้างครอบครัว เสนอโซลูชั่นเกี่ยวกับสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ต้องการมีบ้าน มีรถที่ใหญ่ขึ้นสำหรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้คนกลุ่มนี้มีระเบียบวินัยในการผ่อนชำระเพื่อปลอดหนี้ได้เร็วที่สุด รวมถึงมีโซลูชั่นการรวบหนี้ด้วยทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อให้จัดการปลอดหนี้ได้เร็วที่สุด

3.กลุ่มที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เน้นการให้ความรู้ด้านการลงทุน จัดทัพตามความเสี่ยง ต่อยอดความมั่งคั่ง

4.กลุ่มที่มีความมั่งคั่ง เตรียมเข้าวัยเกษียณ ธนาคารพร้อมส่งมอบโซลูชั่นด้านประกันชีวิตและการลงทุน เพื่อรักษาความมั่งคั่ง พร้อมดูแลสุขภาพ และวางแผนส่งต่อมรดกให้กับทายาท

ขณะที่ นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ กล่าวว่า สำหรับปีนี้ ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารภายใต้แบรนด์ ttbDRIVE พร้อมขับเคลื่อนสนับสนุนครอบคลุมทุกภาคส่วนในระบบนิเวศของธุรกิจรถยนต์ผ่านโปรแกรมต่างๆ คือ โปรแกรมรถแลกเงินเคลียร์หนี้, โครงการจ่ายดีมีคืน, แพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์ให้คู่ค้าที่เป็นดีลเลอร์รถยนต์มือสอง และยกระดับศักยภาพทีมงานด้วย DRIVE Academy โรงเรียนสินเชื่อรถยนต์ ttb

ด้าน นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ระบุว่า เป้าหมายของธนาคาร คือ การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงเอสเอ็มอี จึงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้สำเร็จผ่าน 3 โซลูชั่น คือ

1.มอบแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและเพียงพอ โดยเน้นสนับสนุนเอสเอ็มอีที่อยู่ในซัพพลายเชนของธุรกิจขนาดใหญ่ให้ได้รับวงเงินที่เพียงพอบนเงื่อนไขที่เหมาะสมผ่าน ‘สินเชื่อเพื่อเครือข่ายธุรกิจ ทีทีบี (ttb supply chain solutions)’ และช่วยเสริมสภาพคล่องในภาวะวิกฤตด้วยโครงการช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอี (Special Loan) และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้แก่ธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ (Asset warehousing) ที่สอดคล้องนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย

2.มอบโซลูชั่นและบริการที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการบริหารธุรกิจด้วย ‘ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ ทีทีบี บิสซิเนสวัน (ttb business one)’ ให้ลูกค้าธุรกิจสามารถทำธุรกรรมสินเชื่อ รับจ่าย และธุรกรรมต่างประเทศได้ผ่านแพลตฟอร์มนี้

และ 3.มอบชีวิตทางการเงินที่ดีให้แก่พนักงานและคู่ค้า ด้วย ‘บริการการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน ทีทีบี เพย์โรลพลัส (ttb payroll plus)’ รวมไปถึงบริการและผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารความเสี่ยงและด้านประกัน อย่างเช่น ‘ประกันสินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี วันไลฟ์ (ttb one life business insurance)’ เป็นต้น