SHARE

คัดลอกแล้ว

อดีตนักเรียนกวดวิชาทหารแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ที่น้องชายแดน วัย 15 ปี ได้รับบาดเจ็บขณะพักอยู่ภายในสถาบันกวดวิชา จนเสียชีวิต แฉ สถาบันแห่งนี้มีกฎระเบียบเข้มงวดกึ่งทหาร และลงโทษรุนแรงเกินเหตุ

อดีตนักเรียนกวดวิชาทหาร จ.นครสวรรค์

จากกรณี ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน หรือ น้องชายแดน อายุ 15 ปี ชาว จ.ตาก เสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บสาหัส หัวแตกแขนหัก ตั้งแต่แผ่นหลังไปจนถึงขามีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งหลายแห่ง และอวัยวะภายในได้รับความบอบช้ำ โดยเฉพาะตับอ่อนฉีกขาด และเสียชีวิตลงเมื่อเวลา 00.45 วันที่ 14 มิ.ย.62

นายพิษณุ บิดาของ ด.ช.ฐปกร ที่สงสัยสาเหตุการเสียชีวิตว่าน่าจะมาจากการถูกรุมทำร้าย ขณะพักอาศัยและเก็บตัวเรียนอยู่ที่สถาบันกวดวิชาเตรียมทหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงขอให้ตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในการดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด

โดยล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อเพื่อขอข้อมูลกับอดีตนักเรียนในสถานบันกวดวิชาแห่งนี้ ที่ปัจจุบันลาออกแล้ว เล่าว่า รู้สึกหดหู่ใจและเสียใจ ที่เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเพื่อน ซึ่งตอนที่น้องชายแดนได้รับบาดเจ็บเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่สามารถระบุได้ว่าใครคือผู้กระทำ แต่เชื่อว่าเป็นการถูกรุมทำร้ายอย่างแน่นอน

อดีตนักเรียนรายนี้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เขาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงไปสมัครเรียนกับกับสถาบันกวดวิชาเตรียมทหารแห่งนี้ เพื่อเก็บตัวและศึกษาวิชาในการสอบเข้าเตรียมทหาร โดยได้สมัครเข้าอยู่แบบกินนอนศึกษาควบคู่ไปกับเรียน กศน. โดยมีค่าใช้จ่ายปีละ 280,000 บาท ซึ่งการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น จะมีการใช้กฎระเบียบกึ่งทหาร ในตอนแรกที่ตนเข้ามารู้สึกว่าน่าอยู่ การทำโทษสำหรับคนที่ไม่ทำตามกฎระเบียน ให้ยืนกระโดดตบเต็มที่ก็แค่ 500 ที แต่พออยู่นานๆ ไป ตนกลับรู้สึกว่าอยู่ไม่ได้แล้ว เนื่องจากการทำโทษหลายๆ ครั้ง มักจะรุนแรงเรื่อยๆ โดยมีการใช้ไม้ ตั้งแต่ไม้หวาย จนถึงไม้เบสบอลตี ด้วยความรุนแรงจนทำให้รู้สึกปวดระบมอยู่หลายครั้ง และเคยถูกต่อยตนจนปากแตกเลือดกลบ เพราะไม่พอใจที่ตนมีความผิดไปขโมยหยิบขนมในตู้เย็นกิน แต่มันรุนแรงเกินไป จนตนต้องตัดสินใจขอลาออก

เมื่อถามถึงพฤติกรรมส่วนตัวของเจ้าของสถาบันกวดวิชาทหาร อดีตนักเรียน ระบุว่า ครูมักจะอวดอ้างว่าตัวเองมีองค์ของพ่อปู่ หากใครที่มาเรียนและพักอาศัยอยู่ที่นี่ แสดงพฤติกรรมหรือพูดจาไม่ดี จะรู้เห็นหมด รวมถึงยังอ้างตัวว่ารู้จักกับนายทหารทุกระดับชั้น จนทำให้เด็กเกือบทุกคนที่มาเรียนเกิดความเกรงกลัว โดยกำชับกับเด็กๆ ว่าเรื่องราวในระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในสถาบันนี้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องรุนแรงอะไร ห้ามนำไปเผยแพร่กับบุคคลภายนอกเด็ดขาด และตนก็ทำแบบนั้นในระหว่างที่ไปอยู่กับสถาบันดังกล่าว มีเรื่องอะไรก็ต้องเก็บไว้ แม้แต่แม่ก็จะไม่เคยบอกให้รู้

อดีตนักเรียนรายนี้ กล่าวด้วยว่า สถาบันแห่งนี้มีผู้มาเก็บตัวเพื่อศึกษาอยู่รวมกันกว่า 10 คน ซึ่งก็จะทยอยสับเปลี่ยนไปตลอด ยอมรับว่ามีการเขม่นไม่ชอบกันระหว่างเพื่อนที่เรียนจนถึงขั้นมีการชกต่อยกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นยกพวกรุมตีกัน ยกเว้นจะมีนักเรียนหัวโจก 3 คน ที่สนิทสนมกับเจ้าของสถาบัน และชอบใช้ความรุนแรงก่อเหตุรุมชกต่อยกับเพื่อนด้วยกัน ซึ่งหลายๆ ครั้ง หากไม่ชอบหน้าใครก็จะไปขออนุญาตกับเจ้าของสถาบันเพื่อไปหาเรื่องรุมทำร้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะเจ้าของสถาบันอนุญาตให้ทำได้ แต่ทำแค่หอมปากหอมคอ ไม่ให้ทำร้ายหนักจึงทำให้รับไม่ได้กับเรื่องนี้

“ตอนที่ชายแดนยังมีชีวิตอยู่ ผมได้เดินทางเข้าไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ในสถาบัน พบว่าชายแดนได้รับบาดเจ็บหนัก นอนพักอยู่ที่เตียงนอน แต่งชายแดนก็ไม่กล้าบอกอะไร จนกระทั่งเสียชีวิต ยังรู้สึกตกใจว่า ตอนนั้นที่เห็นบาดแผลตามร่างกายของเขา ยังคิดว่าน่าจะไม่ใช้เรื่องเล็กๆ แล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้ตัดสินใจนำเรื่องภายในสถาบันมาเปิดเผย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ที่สำหรับคนที่คิดจะเข้าไปสมัครเรียน และเชื่อว่าการที่ชายแดนเสียชีวิตเป็นการถูกรุมทำร้ายอย่างแน่นอน” อดีตนักเรียนกล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีนักเรียนที่เคยเข้าไปเรียนอยู่ที่สถาบันแห่งนี้อีกหลายราย พร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องราวความรุนแรงภายในสถาบัน และหนึ่งในจำนวนนี้มีผู้ที่รู้เรื่องราวโดยสามารถระบุได้ว่า มีผู้สั่งการและรุมทำร้ายด้วย ทั้งนี้ต้องรอหาหลักฐานอย่างละเอียด ขณะที่ตำรวจเจ้าของคดีได้เดินทางไปสอบปากคำกับเจ้าของสถาบันกวดวิชาเตรียมทหารรายนี้แล้ว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า