SHARE

คัดลอกแล้ว

ในที่สุด หลังจากการต่อสู้ในชั้นศาล ทวิตเตอร์ ก็เป็นของ อีลอน มัสก์ อย่างเป็นทางการ (สักที) ด้วยดีลจำนวนเท่าเดิมคือ 44,000 ล้านดอลลาร์หรือราว 1.7 ล้านล้านบาท

ถือเป็นมูลค่าที่สูงมากๆ ในบรรดาการซื้อแพลตฟอร์มดิจิทัล

ซึ่งยังไม่มีโซเชียลมีเดียรายไหนทำแบบนี้มาก่อน และทวิตเตอร์กำลังทำให้เราเห็นเป็นครั้งแรก

และการที่มัสก์ เดินเข้าออฟฟิศทวิตเตอร์พร้อมอ่างล้าง ก็ดูเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างว่าทวิตเตอร์ต้องล้าง ทำความสะอาด ขจัดอะไรบางอย่างออกไปรึเปล่า ซึ่งก็มีการถกเถียงไปต่างๆ นานา ว่า อนาคตของทวิตเตอร์จะเป็นอย่างไร ถ้าอยู่ในมือ อีลอน มัสก์ 

ในบทความนี้ TODAY Bizview จะพาไปทำความเข้าใจถึงจุดยืนของมัสก์ ที่มีต่อทวิตเตอร์ รวมถึงความกังวลว่า การที่มีมัสก์เป็นเจ้าของ อาจไม่ส่งผลดีต่อชุมชนทวิตเตอร์ที่มีถึง 200 ล้านราย 

[ ปรับโครงสร้างองค์กร ผู้บริหาร และนโยบายการเข้าออฟฟิศ ]

เพียงแค่วันแรกที่ได้เป็นจ้าของทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการ มัสก์ ก็ exercise power ด้วยการเชิญคณะผู้บริหารทวิตเตอร์ออกหลายราย คือ Parag Agrawal ซึ่งดำรงตำแหน่งซีอีโอคนปัจจุบัน, Ned Segal ผู้ดำรงตำแหน่งซีเอฟโอ, Vijaya Gadde ผู้ดำรงตำแหน่งดูแลนโยบาย, Sean Edgett ที่ปรึกษาทั่วไป, Sarah Personette ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้า

Bloomberg ยังรายงานภายในด้วยว่า มัสก์ มีแผนจะปลดพนักงานทวิตเตอร์ถึง 75% แม้ภายหลังเขาจะออกมาบอกว่าไม่เป็นความจริง แต่ใครจะรู้ เพราะต่อให้การปลดพนักงานไม่เกิดขึ้น แต่ก็อาจมีแรงกดดันหลายอย่างจากความเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้พนักงานลาออกไปหาความมั่นคงในหน้าที่การงานจากบริษัทอื่นมากกว่า

นอกจากนี้ยังมีนโยบายการเข้าออฟฟิศ ซึ่งมัสก์ ค่อนข้างยึดถือกับการเข้าออฟฟิศมาก อย่างออฟฟิศ Tesla เขาประกาศกับพนักงานตรงๆ เลยว่าอยากให้พนักงานเข้างานให้ได้สัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นจุดจบของการ WFH 

ซึ่งถ้า มัสก์ นำนโยบายนี้มาใช้กับทวิตเตอร์ด้วย ก็คาดเดาได้เลยว่าจะมีคนลาออกอีกหลายคน เพราะคนทำงานไอทีสมัยนี้ คุ้นเคยและชอบการ WFH หรือไฮบริดมากกว่า พวกเขาถึงกับยอมลาออกถ้าถูกหัวหน้าบังคับให้เข้าออฟฟิศเลยทีเดียว

[ ผ่อนกฎการเซนเซอร์เนื้อหา Toxic กว่าเดิม ]

ในแถลงการณ์แรกๆ ตั้งแต่ตอนประกาศจะเข้าซื้อใหม่ๆ มัสก์บอกว่า 

“การแสดงความเห็นโดยเสรี (Free Speech) เป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย และทวิตเตอร์ เป็นจัตุรัสกลางเมืองในรูปแบบดิจิทัล ที่มีการโต้เถียงกันเรื่องสำคัญต่ออนาคตของมนุษยชาติ

ฉันยังต้องการทำให้ ทวิตเตอร์ ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ ทำให้อัลกอริทึมเป็นโอเพนซอร์ส เพื่อเพิ่มความไว้วางใจ ปราบปรามสแปม และทำการยืนยันตัวตนให้ถูกต้องสำหรับทุกคน (authenticating all humans)” 

เขายังทวีตบอกด้วยว่า “เขาหวังว่า แม้แต่ความคิดเห็นที่แย่ที่สุดของเขา จะต้องอยู่ได้บนทวิตเตอร์ เพราะนี่คือสิ่งที่ Free Speech เป็น” 

เพียงเท่านี้เราก็ได้อนาคตทวิตเตอร์ลางๆ แล้วว่า จะเซนเซอร์เนื้อหาน้อยลง และเราอาจได้เห็นคนที่เคยถูกแบนไปจากแพลตฟอร์อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์, คานเย่ เวสต์ กลับมา ซึ่งนั่นอาจหมายถึงเนื้อหาสนับสนุนแนวคิดขวาจัด จะเพิ่มขึ้นด้วย 

คำถามคือ ถ้าทวิตเตอร์ผ่อนคลายกฎ ก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ เราจะได้แสดงความเห็นบนทวิตเตอร์ได้อย่างไม่มีอะไรมากั้น และน่าจะมีความสุขกว่าการใช้งาน Facebook และ Instagram ที่มีกฎนั่นนี่เต็มไปหมด 

แต่การที่ทวิตเตอร์หันหลังให้การควบคุมเนื้อหา จะกลายเป็นใบเบิกทาง ให้ปัญหาคลาสสิคของโซเชียลมีเดียอย่าง Cyber Bullying, Hate Speech, เหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ ข่าวปลอม 

ถ้าปัญหาเหล่านี้กลับมา ทวิตเตอร์ก็จะไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานอีกต่อไป รวมถึงไม่เป็นมิตรกับผู้ลงโฆษณา ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลักของแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วย 

การที่อีลอน มัสก์ ซื้อทวิตเตอร์สร้างความกังวลให้แก่นักวิเคราะห์ นักการเมืองโดยเฉพาะนักการเมืองสายเสรีนิยม 

เช่น Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์ Big Tech ทวีตว่า 

“ดีลนี้เป็นอันตรายต่อประชาธิปไตยของเรา มหาเศรษฐีอย่างอีลอน มัสก์ เล่นตามกฎเกณฑ์ที่แตกต่างจากคนอื่นๆ โดยสะสมอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง” 

ส่วนองค์กรสนับสนุน Free Speech อย่าง The National Association for the Advancement of Colored People ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ อีลอน มัสก์ อย่าทำให้ทวิตเตอร์ กลายเป็น จานเพาะเชื้อสร้างความเกลียดชังที่บ่อนทำลายประชาธิปไตย

ในทางตรงกันข้าม นักการเมืองฝ่ายขวา ชื่นชมยินดีกับดีลนี้ และยังบอกด้วยว่า ความคิดเห็นของฝ่ายขวาถูกกดทับมานานแล้ว 

แผนการของมัสก์ อาจทำให้ทวิตเตอร์มีปัญหากับยุโรป จากกกฎหมายใหม่ Digital Services Act กำหนดให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ควบคุมบริการของตนอย่างเข้มงวดมากขึ้นสำหรับคำพูดแสดงความเกลียดชัง ข้อมูลที่ผิด และเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย 

ขึ้นอยู่กับความอดทนของมัสก์ ว่าจะยอมให้ทวิตเตอร์ถูกดำเนินคดี ถูกฟ้อง ถูกปรับไปได้อีกนานแค่ไหน 

[ ประสบการณ์ผู้ใช้งานเปลี่ยนไป ]

ที่ผ่านมา มัสก์ โพสต์ไอเดียของเขาหลายอย่างที่มีต่อทวิตเตอร์ ตั้งแต่การทำปุ่ม edit, การสร้างซูเปอร์แอปตามแนวทาง WeChat ของจีน 

ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไร เพราะมัสก์ ในอีกมุมหนึ่งเขาคิดอะไรก็โพสต์ออกมาทันที ตอบยากเรื่องความเป็นไปได้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้วคือ ทวิตเตอร์พยายามจะลดการพึ่งพาเม็ดเงินโฆษณา เปิดตัว Twitter Blue ฟีเจอร์พรีเมี่ยมแต่ผู้ใช้งานต้องจ่ายเงินรายเดือน เพื่อเข้าถึงฟังก์ชั่นพิเศษ 

เช่น Bookmark Folders เซฟโพสต์ในรูปแบบโฟลเดอร์, Undo Tweet ตั้งเวลายกเลิกส่งข้อความได้, Reader Mode ให้อ่านเนื้อหายาวๆ บนทวิตเตอร์ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องอ่านเป็น thread ยาวๆ เป็นต้น 

ที่มา : 

https://techcrunch.com/…/will-advertisers-flee-a-free…/ 

https://www.theverge.com/…/jack-dorsey-elon-musk… 

https://www.theguardian.com/…/twitter-elon-musk-reaction 

https://www.wired.com/story/elon-musk-right-about-twitter/ 

https://www.businessinsider.com/twitter-ceo-agrawal-no… 

https://www.blognone.com/node/122997 

https://www.nytimes.com/2022/04/28/technology/twitter-musk-content-moderators.html 

https://www.forbes.com/sites/dereksaul/2022/10/27/musk-takes-over-twitter-and-fires-ceo-heres-what-it-could-mean/?sh=787e94582ecd&utm_source=FBPAGE&utm_medium=social&utm_content=8019828014&utm_campaign=sprinklrForbes+Asia

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า