ศาลไม่รับฟ้องคดี “ต่าย” ยื่นฟ้อง “ทิม” ทำร้ายร่างกาย 

ศาลไม่รับฟ้อง ต่าย ชุติมา  ยื่นฟ้อง ทิม พิธา  ข้อหาทำร้ายร่างกาย เผยเรื่องคดีการดูแลบุตร ศาลพิจารณาแล้วว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ เนื่องจากครั้งนั้นตนไม่ทราบจริงๆว่ามีการฟ้องร้อง จึงไม่ได้ขึ้นศาล ต้องเริ่มพิจารณาคดีใหม่ทั้งหมด 

กลายเป็นปัญหา​ครอบครัว​ที่ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ  จากกรณีที่นักธุรกิจและส.ส.พรรคอนาคตใหม่ “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”  เป็นโจทก์ยื่นฟ้องภรรยา “ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ”  อดีตนักเเสดง ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในคดีฟ้องหย่าขออำนาจปกครองบุตร และชนะคดีเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  โดยศาลแบ่งให้ลูกสาว “น้องพิพิม” วัย3 ขวบ อยู่กับพ่อ 5 วัน จันทร์-ศุกร์ และอยู่กับแม่ 2 วัน เสาร์-อาทิตย์

https://www.instagram.com/p/BtVhdGwg2wY/

ซึ่งดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงด้วยดี  แต่แล้วสาวต่ายก็ได้ร้องต่อศาลว่าตนเองไม่ได้รับหมายศาล คาดมีการส่งหมายเรียกผิดบ้าน อยากขออำนาจดูแลลูกคืน โดยเป็นโจทย์​ยื่นคำร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพ ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง  ซึ่งในวันนี้ 22 พ.ค. เป็นวันไต่สวนคดี  โดยหนุ่มทิม ได้เดินทางมาถึงศาลเวลาประมาณ​ 08.45 น.  พร้อมพูดคุยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าไปภายในศาลว่า “ตนขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ตอนนี้ “น้องพิพิม” ได้เข้าเรียนหนังสืออย่างเป็นระบบแล้วหลังจากที่ต้องเข้าเรียนสองโรงเรียนพร้อมกัน (ต่ายให้เรียนโรงเรียนหนึ่ง ทิมให้เรียนโรงเรียนหนึ่ง) กราบขอโทษที่ครอบครัวของตนเป็นต้นเหตุของข่าวน่าเบื่อ ตนขอน้อมรับทุกคำคอมเมนท์ ตนถือว่าเรื่องทั้งหมดจบแล้ว เพราะลูกสาวได้เรียนหนังสือเรียบร้อย แต่มันก็ยังมีกลุ่มคนที่ไม่อยากให้เรื่องจบอยู่ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องกันได้”

https://www.instagram.com/p/BrNFdZEH1AP/

ทางด้านสาวต่ายที่เป็นโจทก์​นั้น เดินทางมาถึงศาลเวลา10.15   (ศาลนัด 09.00 น.)​ จากนั้นได้เข้าไปห้องพิจารณาคดี​ ใช้เวลายาวนานกว่า 10 ชม. ซึ่งฝ่ายชายได้กลับไปก่อน ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้เปิดใจว่า   “ต้องขออธิบายก่อนว่าคดีของวันนี้ไม่เกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้ เพราะหลายคนจะเอาไปปนกัน วันนี้ไม่เกี่ยวกับเด็กแต่เป็นเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ที่ตนฟ้องฝ่ายชายข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยตอนแรกตนก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเจอมันถูกต้องไหม หรือเป็นสิ่งที่ภรรยาคนหนึ่งจะต้องรับให้ได้ แต่ก็มีผู้ใหญ่แนะนำว่าควรจะดำเนินคดี ซึ่งศาลพิจารณาว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง แต่ไม่ถึงขั้นเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่เรื่องนี้มันทำให้ตนกังวลใจในการอยู่ร่วมกัน ส่วนคดีการดูแลบุตร ศาลพิจารณาแล้วว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ เนื่องจากครั้งนั้นตนไม่ทราบจริงๆว่ามีการฟ้องร้อง จึงไม่ได้ขึ้นศาล ต้องเริ่มพิจารณาคดีใหม่ทั้งหมด ในระหว่างนี้จึงมีการแบ่งวันกันดูแลด้วยตัวเองไปก่อน ซึ่งใจตนก็อยากจะให้ศาลพิจารณาว่าใครเหมาะสมจะเป็นบ้านหลักดูแลน้องพิพิม ที่ผ่านมาตนเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก แต่ตนก็โอเคที่จะเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนเรื่องสินสมรสตนไม่เคยมีปัญหามาตั้งแต่แรก ตนไม่เคยเรียกร้องอะไร แต่จากนี้ก็ต้องมีการคุยว่าใครจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนไหนบ้าง”

https://www.instagram.com/p/Bp_tX_OA5on/

https://www.instagram.com/p/BqM1f5xHjQo/