สั่งเด้งผู้การอุบลฯ เหตุไม่ให้ความร่วมมือด่านคัดกรองโควิด

ผู้บัญชาการตำรวจภาค 3 เซ็นคำสั่งย้ายผู้การตำรวจอุบลราชธานีกรณีมีข่าวใช้อารมณ์ที่สนามบินอุบลราชธานีและไม่ให้ความร่วมมือในในการตรวจคัดกรองโควิด-19  พร้อมตั้งรอง ผบช.ภ.3 สอบข้อเท็จจริง ยันไม่ปกป้องให้ความเป็นธรรม

วันที่ 28 เม.ย.2563 จากกรณีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 และใช้วาจาไม่สุภาพที่สนามบินจังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดวานนี้ พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ยอมรับว่ามีเหตุเกิดขึ้นที่ จ.อุบลราชธานี จริง และได้มีคำสั่งเรียกตัวมาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 3 ( ศปก.ตร.ภ.3 ) เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยคำสั่งให้มารายงานตัวในวันที่ 27 เม.ย. พร้อมสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ต.ภาณุ บูรณศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบ จ.อุบลราชธานี กับ จ.อำนาจเจริญ และรับผิดชอบงานจเรของ ตร.ภ. 3 ให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อที่จะได้สะดวกแก่ผู้ตรวจสอบและผู้ที่จะให้ปากคำต่างๆ ก็ได้ให้ผู้การตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีมาช่วยราชการก่อน และมอบให้ พล.ต.ต.ธเนศ เทพสุด ผู้บังคับการประจำ ตร.ภ.3 ไปรักษาการในตำแหน่งไปก่อน ส่วนหลักฐานต่างๆ ยังไม่ชัดเจน คิดว่ามันก็เป็นข่าวก็ต้องให้ผู้ที่มีหน้าที่ไปทำการตรวจสอบ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนเรื่องที่ว่าจะปกป้องช่วยเหลือนั้นก็คิดว่าต้องว่าไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงอะไรต่างๆ ซึ่งไม่ได้ไปด้วยตัวเองก็มอบให้ พล.ต.ต.ภาณุ ไปทำหน้าที่

พล.ต.ท.พูนทรัพย์ กล่าวว่า หากเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากผิดก็ต้องลงโทษ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ให้ระวังตัวเองและครอบครัวให้ดี ทำงานด้วยความเข้มแข็งอดทนอดกลั้น เพราะสถานการณ์อย่างนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก ตำรวจก็จะต้องทำงานให้หนักขึ้น 2-3 เท่าตัว โดยเฉพาะการตั้งด่าน หรือการคัดกรอง ซึ่งเรื่องการตั้งด่านเราก็บอกแล้วว่าเราบังคับใช้กฎหมายเราก็ต้องพิจารณาด้วย และเป้าหมายตั้งด่านเรื่องอะไรเรื่องการจับกุมผู้กระทำผิดที่ฝ่าฝืน เช่น ออกจากบ้านมาไปเที่ยว ไปโน้นไปนี่ ไปดื่มสุราอย่างนี้ตำรวจจะเด็ดขาด แต่เจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆจะไม่ดำเนินการอะไรและขอให้ตำรวจทุกนายใช้ความสุภาพกับประชาชน