น้ำท่วมอุบลเริ่มทรงตัว จนท.เร่งติดเครื่องผลักดันน้ำเพิ่ม 90 ตัว ดันน้ำสู่แม่น้ำโขง

เร่งดันน้

จนท.ระดมกำลังเข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 90 ตัว เพื่อดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขง บรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านอุบลราชธานี ล่าสุดระดับน้ำเริ่มทรงตัว 

วันที่ 14 ก.ย.2562 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่มเครื่องผลักดันน้ำออกจากแม่น้ำมูลเพิ่มอีก 90 เครื่อง และเพิ่มจุดผลักดันน้ำเพิ่มที่อำเภอโขงเจียมเพื่อระบายน้ำออกปากแม่น้ำมูลวันละ 6,000,000 ลูกบาศ์ต่อวัน พร้อมกับจัดแถลงข่าวต่อสิ่อมวลลชนวันลั 3 รอบ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องผ่านสื่อมวลชน เนื่องจากมีข่าวปลอมทำให้ประชาชนในพื้นที่สับสันและตื่นกลัว ที่ห้องบัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม จังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยพลตรียุทธนา เอี่ยมวิจิตร รองแม่ทัพภาพที่ 2 (คนที่ 3) นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ และรองเธียรชัย พุทธรังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ปี 2562 ซึ่งจะมีการยกระดับการให้ข้อมูลข่าวสารสู่ประชาชน แถลงข่าววันละ 3 รอบ ในเวลา 09.30 น. เวลา 12.00 น. เวลา 15.00 น. และหากมีเหตุฉุกเฉินจะมีการแถลงข่าวเป็นกรณีพิเศษ ในเวลา 22.00 น.

การติดตามสถานการณ์น้ำที่สถานีวัดระดับน้ำ M7 วัดระดับได้ 10.95 เมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 6 เซนติเมตร ถือว่าระดับน้ำทรงตัว และคาดว่าสถานการณ์น้ำจะยังคงอยู่อีกไม่น้อยกว่า 3 สัปดาห์ แต่ยังมีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในพื้นที่ 5 อำเภอริมแม่น้ำมูล ได้แก่ อำเภอเมือง วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร ตาลสุม และสว่างวีระวงศ์ โดยทางจังหวัดอุบลราชธานีได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกันจังหวัดได้มีการจัดแผนบริหารจัดการน้ำท่วม โดยเพื่มเครื่องผลักดันน้ำที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล อำเภอพิบูลมังสาหารจากที่มีเครื่องผลักดันน้ำเพียง 30 เตรื่องเพิ่มเป็น 60 เครื่องซึ่งจะสามารถผลักดันน้ำออกจาะแม่น้ำมูลได้วันละ 6,000,000 ลูกบาศ์ต่อวัน และจะเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มอีก 1 จุดที่อำเภอโขงเจียม อีก 60 เครื่อง ที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูลซึ่งเป็นบริเวณปากแม่น้ำมูล ซึ่งจะทำให้สามารถผลักดันน้ำให้ออกจากแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงได้เร็วขึ้นวันละ 6,000,000 ลูกบาศ์เมตรต่อวัน ซึ่งทั้ง 2 แห่งจะช่วยให้ผลักดันน้าที่ท่วมได้รวดเร็วขึ้น

สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้ร่วมกับทหาร ตำรวจ ออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน และตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์ 0 4542 9610 และ 06 1029 9618 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง และจะเร่งคืนพื้นผิวจราจรที่มีน้ำท่วมขังในถนนสายหลักอุบลราชธานี – ยโสธร และอุบลราชธานี – ศรีสะเกษ เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไป – มาได้สะดวกมากขึ้น ควบคู่กับการระบายน้ำจากแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง โดยติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมเป็น 120 เครื่อง ที่อำเภอพิบูลมังสาหารและอำเภอโขงเจียม