รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่าลูกค้าของ Silicon Valley Bank จะได้เงินฝากคืนเต็มจำนวน หลังธนาคารประสบปัญหาล้มละลาย โดยจะปล่อยกู้ผ่านโปรแกรม Bank Term Funding Program และตั้งกองทุนช่วยเหลืออีก 25,000 ล้านเหรียญ
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12 มี.ค. 2566) ทางฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยกับสาธารณะว่า ลูกค้าที่ฝากเงินกับ Silicon Valley Bank จะสามารถเข้าถึงเงินทั้งหมดในบัญชีของตนเอง และสามารถถอนเงินได้ ภายในวันจันทร์นี้ (13 มี.ค.)
ในคำแถลงการณ์ร่วมระหว่างคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กระทรวงการคลัง และองค์กรคุ้มครองเงินฝาก (Federal Deposit Insurance Corporation: FDIC) ชี้ว่า
‘เจเน็ต เยลเลน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้ FDIC สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่สำหรับการปกป้องเงินฝากของลูกค้าใน Silicon Valley Bank
ขณะที่ Fed ยืนยันเพิ่มเติมอีกว่า จะให้การสนับสนุนด้านเงินทุนและการปล่อยกู้สำหรับ Silicon Valley Bank เพื่อให้แก่ผู้ฝากทุกรายมั่นใจได้ว่า จะสามารถถอนเงินของตนเองออกจากธนาคารได้
การปล่อยกู้ของ Fed จะทำผ่าน Bank Term Funding Program (BTFP) ซึ่งเป็นโปรแกรมสินเชื่อ 1 ปี แก่ธนาคาร สมาคมออมทรัพย์ และเครดิตยูเนี่ยน
ผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Mortgage-backed Securities: MBS) รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ ที่ผ่านเกณฑ์สำหรับการนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
BTFP มีจุดประสงค์เป็นแหล่งเงินทุนแก่สถาบันการเงินที่มีการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพสูง เพื่อที่สถาบันการเงินเหล่านั้นจะได้ไม่ต้องถูกบังคับขายขาดทุนในยามที่ขาดสภาพคล่อง จนอาจนำไปสู่การล้มละลายเป็นวงกว้างไปยังสถาบันการเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังอนุมัติเงินทุนกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.5 แสนล้านบาท) จากกองทุนเสถียรภาพ (Exchange Stabilization Fund: ESF) เพื่อหนุนกองทุน BTFP เพิ่มเติม แม้ว่าทาง Fed จะคาดว่า อาจจะไม่ต้องใช้เงินทุนกองนี้ก็ตาม
ในคำแถลงการณ์ร่วมของฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินในสหรัฐฯ ยังได้เผยถึงการปิดตัวลงของ Signature Bank (SBNY) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าผู้ฝากเงินในธนาคารดังกล่าวก็จะได้รับการคุ้มครองเงินฝากเช่นเดียวกับลูกค้าของ Silcon Valley Bank
ที่มา: finance.yahoo.com/news/us-government-guarantees-all-silicon-valley-bank-deposits-money-available-monday-223546372.html