4 เหตุผล ทำไมอุบลฯ ท่วมหนักสุดในรอบ 40 ปี

ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน การเป็นจุดรวมมวลน้ำของภาคอีสาน น้ำที่ระบายลงโขงได้ช้า และลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดที่เป็นแอ่ง คือเหตุผล 4 ข้อหลักๆ ที่ทำให้อุบลราชธานีโดนน้ำท่วมหนักและท่วมนานอย่างที่เห็น

อุบลราชธานีจมน้ำมานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว บางพื้นที่ท่วมมิดหลังคา น้ำสูง 3-4 เมตร ประชาชนเดือดร้อนกว่า 42,000 ครัวเรือน ในทั้ง 25 อำเภอ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี คาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาอีก 10 วัน น้ำถึงจะลดลงเท่าระดับตลิ่ง

ทำไมอุบลราชธานี จึงน้ำท่วมหนักและนานขนาดนี้ เหตุผลหลักๆ มี 4 ข้อด้วยกัน

หนึ่ง เริ่มจากที่มาของน้ำ นั่นคือพายุฝน ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม ไทยได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน 2 ลูก ชื่อว่า “โพดุล” และ “คาจิกิ” ส่งผลให้มีฝนตกหนักติดกันหลายวัน และเกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 32 จังหวัด โดยครึ่งหนึ่งของจังหวัดที่น้ำท่วมจากพายุ 2 ลูกนี้ อยู่ในภาคอีสาน

ตามธรรมชาติแล้วมวลน้ำมหาศาลเหล่านี้จะต้องไหลออกสู่ทะเล นี่จึงนำมาสู่เหตุผลข้อสองคือ อุบลราชธานีเป็นแหล่งรวมมวลน้ำเกือบทั้งหมด ลองจินตนาการดูว่าลำน้ำย่อยในจังหวัดต่างๆ เปรียบเสมือนท่อระบายน้ำ ที่มีน้ำไหลลงไปสมทบเรื่อยๆ ก่อนจะมารวมกันที่แม่น้ำชีและแม่น้ำมูล 2 ลำน้ำสายสำคัญของภาคอีสาน

หากเราดูเส้นทางการไหลของแม่น้ำชีและแม่น้ำมูล จะเห็นว่าแม่น้ำ 2 สายนี้มาบรรจบกันที่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี นั่นเท่ากับว่าอุบลราชธานีต้องรับมวลน้ำที่ขังอยู่ในพื้นที่ภาคอีสานไปเต็มๆ หรือประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

แต่เมื่อมวลน้ำไหลมาถึงอุบลฯ แล้ว การระบายลงสู่แม่น้ำโขงต่อไปกลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแม่น้ำมูลที่ไหลผ่ากลางอุบลฯ มีเกาะแก่งกีดขวางลำน้ำจำนวนมาก ทำให้น้ำไหลได้ช้า ประกอบกับน้ำในแม่น้ำโขงที่มีอยู่ค่อนข้างมากอยู่แล้ว ทำให้น้ำจากอุบลฯ ระบายออกได้ช้าลงไปอีก เมื่อเป็นเช่นนี้ น้ำจึงเอ่อล้นตลิ่งและทะลักเข้าท่วมเขตเมือง

โชคร้ายต่อสุดท้ายของอุบลราชธานีก็คือ ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแอ่ง ทำให้น้ำขัง ระบายออกลำบาก บวกกับการเจริญเติบโตของเมืองที่มีทั้งถนนและอาคารมากขึ้น ส่งผลให้น้ำมีทางไหลได้น้อยลง

ฝนที่ตกหนัก การเป็นจุดรวมมวลน้ำของภาคอีสาน น้ำที่ระบายลงโขงได้ช้า และลักษณะภูมิประเทศของจังหวดที่เป็นแอ่ง ทั้งหมดนี้ทำให้อุบลราชธานีโดนน้ำท่วมหนักและท่วมนาน อย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้