SHARE

คัดลอกแล้ว

สรุปดีลประวัติศาสตร์ เมื่อ UBS ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ตกลงซื้อกิจการคู่แข่ง Credit Suisse ที่มูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อยุติวิกฤตธนาคารล้ม

หลังจากโยนกันไปมาทั้งคืน ก็ได้ข้อสรุปแล้วว่า UBS Group AG ธนาคารเบอร์ 1 ของสวิตเซอร์แลนด์ จะเข้าซื้อกิจการของ Credit Suisse Group AG ซึ่งเป็นคู่แข่ง โดยมีรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เป็นนายหน้าและผู้ค้ำประกัน

สำหรับมูลค่าการซื้อขายกิจการสุดท้ายที่ตกลงกันได้คือ 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.12 แสนล้านบาท) ภายหลัง Credit Suisse ปฏิเสธข้อเสนอแรกที่ 1 พันล้านเหรียญ (ราว 3.4 หมื่นล้านบาท) เพราะต่ำกว่าราคาตลาดเกือบ 8 เท่า

โดยแบงก์ชาติสวิส (The Swiss National Bank) จะช่วยลงขันด้วย 1 แสนล้านเหรียญ และค้ำประกันให้อีก 9.7 พันล้านเหรียญ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับ UBS จากการเข้าซื้อกิจการของ Credit Suisse

ดีลประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการควบรวมกิจการระหว่าง 2 แบงก์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ แถมยังมีรัฐบาลเป็นนายหน้าแล้ว ยังเป็นดีลซื้อกิจการที่รีบที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย เพราะต้องคุมวิกฤตในภาคธนาคารให้ได้เร็วที่สุด

‘จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด เนื่องจาก Credit Suisse เป็นธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบ’ ประธานธนาคารแห่งชาติสวิส ‘โธมัส จอร์แดน’ (Thomas Jordan) กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

‘คอล์ม เคลลิเฮอร์’ (Colm Kelleher) ประธาน UBS กล่าวว่า UBS จะลดขนานธุรกิจวาณิชธนกิจ (Investment Bank: IB) ของ Credit Suisse ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่เจอปัญหาขาดทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ระบุถึงการเลิกจ้างพนักงาน

สำหรับการรับประกันความเสี่ยงของรัฐบาลสวิตฯ ถือเป็นกระบวนการที่มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะมีเวลาน้อยในการตรวจสอบสถานะกิจการ (Due Diligence) รวมถึง Credit Suisse ยังมีสินทรัพย์ที่ประเมินค่าได้ยาก

ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการธนาคารเก่าแก่ที่มีอายุ 166 ปีอย่าง Credit Suisse ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำหรับการเงินของประเทศและทั่วโลก

ในอดีต Schweizerische Kreditanstalt หรือ Credit Suisse ในปัจจุบัน ถูกก่อตั้งโดยนักอุตสาหกรรม ‘อัลเฟรท เอ็ชเชอร์’ (Alfred Escher) ในปี 1856 (2399) เพื่อเป็นเงินทุนในการสร้างเครือข่ายรางรถไฟของประเทศ

ก่อนจะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินโลก แต่วันนี้ Credit Suisse กลับต้องดิ้นรนปรับตัว ท่ามกลางธุรกิจธนาคารที่เปลี่ยนแปลงไปหลังวิกฤตการณ์ทางการเงิน

ขณะที่ UBS เกิดจากสถาบันการเงินกว่า 370 แห่งที่ถูกรวมระหว่าง 160 ปีที่ผ่านมา จุดสูงสุดของ UBS คือการควบรวมกิจการระหว่าง Union Bank of Switzerland และ Swiss Bank Corporation ในปี 1998 (2541)

แม้จะต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2008 (2551) แต่ UBS ก็สามารถกลับมาสร้างชื่อเสียงใหม่ ในฐานะผู้จัดการความมั่งคั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยให้บริการแก่บุคคลที่มีมูลค่าสุทธิสูง (High Net Worth) และสูงเป็นพิเศษ (Ultra-high Net Worth) ทั่วโลก

แม้ว่า Credit Suisse จะไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลเหมือน UBS ในตอนนั้น แต่ด้วยปัญหาภายใน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอื้อฉาว การเปลี่ยนแปลงผู้นำ และปัญหาทางกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังเจอปัญหาลูกค้าแห่ถอนสินทรัพย์มากกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.4 ล้านล้านบาท) ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว เพราะกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน แม้จะประกาศเพิ่มทุน 4.3 พันล้านเหรียญ (ราว 1.5 แสนล้านบาท) ก็ตาม

‘นี่เป็นทางออกเดียวที่เป็นไปได้’ คาริน เคลเลอร์-ซัตเตอร์ (Karin Keller-Sutter) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสวิสกล่าว โดยเสริมว่า จำเป็นต้องสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินของสวิสและตลาดต่างประเทศ Credit Suisse ไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป

ในคืนเดียวกัน Credit Suisse ส่งเมลแจ้งผู้ถือหุ้นว่า ภายใต้เงื่อนไขของการควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นทั้งหมดของ Credit Suisse จะได้รับ 1 หุ้นใน UBS คิดเป็น 22.48 หุ้นใน Credit Suisse

จนกว่าจะควบรวมกิจกิจการเสร็จ Credit Suisse จะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติและใช้มาตรการปรับโครงสร้างร่วมกับ UBS ขณะที่แบงก์ชาติสวิสจะให้ Credit Suisse เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้สภาพคล่องเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2566 กระทรวงการคลังแห่งสหพันธรัฐสวิส ธนาคารแห่งชาติสวิส และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการตลาดการเงินของสวิส (FINMA) ได้ขอให้ Credit Suisse และ UBS ทำข้อตกลงควบรวมกิจการ ตามกฎหมายฉุกเฉินซึ่งออกโดยสภาแห่งสหพันธรัฐสวิส

ทั้งนี้ การควบรวมกิจการสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น

ที่มา:

  • www.bloomberg.com/news/articles/2023-03-19/ubs-agrees-to-buy-credit-suisse-in-historic-deal-to-end-crisis
  • นักลงทุนสัมพันธ์ของ Credit Suisse

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า