SHARE

คัดลอกแล้ว

อย่างที่รู้กันว่า Google Maps คือแอป GPS ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระบบนำทางที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก แต่ช่วงนี้หากใครใช้แอปพลิเคชั่น Google Maps บ่อย ๆ จะเห็นสีใหม่ของแผนที่ที่เปลี่ยนมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว แน่นอนว่าการอัพเดทสีใหม่ หรือจะรูปลักษณ์ใหม่ย่อมมีผลต่อผู้ใช้งานประจำที่ชินกับการใช้งานแบบเดิมมาเป็นสิบปี

สิ่งที่เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด คือ ถนนที่เดิมเป็นสีเหลือง และขาว ก็เปลี่ยนมาเป็นสีเทาเข้มกับเทาอ่อน ส่วนสีที่บอกสภาพการจราจรก็เปลี่ยนเช่นกัน

พื้นที่ที่เป็นแหล่งน้ำ ลำธาร แม่น้ำ ทะเล จากที่เราชินสีฟ้าลาเวนเดอร์ก็เปลี่ยนมาเป็นสีฟ้าอมเขียวมินท์

เรื่องนี้ Google เคยประกาศตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้วว่าจะมีการอัพเดทสีใหม่ของ Google Maps จนกระทั่งสีใหม่มาแล้วจริง ๆ เรื่องเลยเกิด

มีปฏิกริยาจากคนใช้งานทั้งบวกและลบ หลายคนมาเปิดใช้ Google Maps แล้วไม่คุ้นชินตา ผู้ใช้ในต่างประเทศ โพสต์ความเห็นบ่นกันว่า ดูแผนที่แล้วไม่รู้สึกเป็นธรรมชาติ บางคนบอกว่าคุ้นกับการดูโทนสีแบบเก่า (ที่ใช้มาเกือบ 10 ปี แล้ว) ถึงขนาดบางคนหาทางจะทำยังไงก็ได้ให้ได้เวอร์ชั่นโทนสีเก่ากลับมาใช้ นักวิจารณ์บางคนก็มองว่าเปลี่ยนไปแล้วดันไปคล้าย Apple Maps เข้าให้อีก

ส่วนคนที่ชอบการอัพเดทสีใหม่เห็นว่าเป็นการออกแบบที่เพิ่มคอนทราสต์ช่วยการมองเห็นมากกว่าเดิม

การเปลี่ยนสีของ Google Maps ยังกลายเป็นงานงอก เมื่ออดีตนักออกแบบ Google Maps ยุคแรกเริ่มออกมาบอกว่า เห็นรูปลักษณ์ใหม่นี้แล้วรู้สึกมีความเป็นมนุษย์น้อยลง

Elizabeth Laraki ออกมาโพสต์แสดงความเห็นเรื่องนี้บน X (ทวิตเตอร์) @elizlaraki ว่า ได้เคยช่วยออกแบบ UI Google Maps เมื่อ 15 ปีก่อน และยังคงใช้แอปพลิเคชั่นนี้เป็นประจำ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แฟนตัวยงของดีไซน์ใหม่นี้แล้ว

“การออกแบบการมองเห็นแผนที่ตอนนี้ ไม่ชอบเลย เพราะให้ความรู้สึกเป็นมนุษย์น้อยลง ดูเป็นคอมพิวเตอร์เกินไป” เธอโพสต์ไว้บน X

และยังบอกอีกว่า ในเมื่อเป้าหมายคือการปรับปรุงการใช้งานให้ดีขึ้น และทำให้แผนที่อ่านง่ายขึ้น ดังนั้นทีมงาน ก็พลาดโอกาสสำคัญ เพราะที่จริงแล้ว Google Maps ควรไปรื้อการจัดวางเลย์เอ้าท์บนหน้าแผนที่ที่มันทับซ้อนรุงรังมากเกินไปแทน

โดยเธอโพสต์อธิบายแบบยกเลย์เอ้าท์ Google Maps มาวงกลมแดงให้เห็นเลยว่า มีมากถึง 11 จุด ที่ซ้อนทับอยู่บนแผนที่ ทั้งที่มันควรทำให้ดูง่ายขึ้น และเสนอว่าควรลดปริมาณคุณลักษณะหรือฟีเจอร์ที่ทับอยู่บนแผนที่ออก และเพิ่มขนาดของฟีเจอร์ที่ควรต้องใช้งานหลักให้เห็นชัดขึ้น

Photo Credit @elizlaraki

สิ่งที่ควรต้องมีไว้ให้เห็นเด่นชัดคือ “ช่องค้นหา” กับ “แถบด้านล่าง” และเอาฟีเจอร์การใช้งานอื่น ๆ ที่ซ้อนอยู่บนแผนที่ออกไป โดยเลือกอันที่ใช้มากที่สุดไปรวมไว้ในแถบด้านล่าง และเอาส่วนที่ใช้น้อยที่สุดไปเก็บซ่อนไว้ตรงอื่น

โดย “ช่องค้นหา” และ “ตัวเส้นทาง” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต้องคงไว้ให้เด่น ส่วนอื่น ๆ สามารถย้ายลงไปเก็บไว้ที่แถบด้านล่างของจอได้ รวมทั้งฟีเจอร์ที่ช่วยบอกข้อมูลสถานที่ใกล้เคียง เช่น ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ ก็ไปเก็บไว้ด้านล่างได้เช่นกัน โดยออกแบบแถบด้านล่างให้แตะเพื่อเลื่อนมาดูข้อมูลได้

Photo Credit @elizlaraki

Photo Credit @elizlaraki

ประเด็นหลักที่อดีตนักออกแบบ Google Maps เสนอคือ ทำให้หน้าแผนที่ดูคลีนหรือสะอาดที่สุด ลดการเอาฟีเจอร์มากมายมาทับบนแผนที่ และจัดลำดับความสำคัญในการมองเห็น ส่วนคุณสมบัติการใช้งานอันไหนที่มีการใช้งานน้อยก็ให้นำไปซ่อน

เธอโพสต์อีกว่า เป็นเรื่องปกติที่ใช้ผลิตภัณฑ์อะไรไปนานเข้าจะมีหลายฟีเจอร์สะสมมากขึ้นเพื่อตอบสนองผู้ใช้งานที่หลากหลาย แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องระมัดระวังและคอยเคลียร์การเพิ่มฟีเจอร์พวกนี้ ที่พอเพิ่มอะไรใหม่ลงไปในพื้นที่การใช้งาน จะกลายเป็นว่าผู้ใช้งานต้องเจอปัญหากับผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ

“เราต้องคิดใหม่ว่าแอปนี้จะต้องเรียบง่าย และปรับให้ยืดหยุ่นได้สำหรับอนาคต ดูเหมือนถึงเวลาแล้วที่ Google Maps จะต้องทำเช่นนี้อีกครั้ง” เธอโพสต์ความเห็นทิ้งท้าย

ปรากฎว่า โพสต์ของเธอบน X มีทั้งคนที่เห็นด้วยและคนที่เห็นต่าง กลุ่มเห็นด้วยบอกว่าไม่เคยใช้คุณสมบัติมากมายที่ดึงขึ้นมาโชว์ให้เห็นบนจอเลย เพราะปกติใช้การออกคำสั่งด้วยเสียงแทน บ้างเห็นด้วยว่าข้อมูลต่างๆบนแผนที่เกะกะเกินจำเป็น

ส่วนกลุ่มเห็นต่างมองว่าฟีเจอร์ที่ซ้อนทับบนแผนที่มีประโยชน์ตรงที่เข้าถึงง่าย ไม่เสียเวลากดหา ยิ่งเวลารีบ หรือตอนกำลังขับรถที่ต้องรีบหาข้อมูลเส้นทาง

อีกทั้งเชื่อว่าผู้คนใช้ฟีเจอร์ที่ซ้อนทับขึ้นมาบนแผนที่กันค่อนข้างมาก ไม่อย่างนั้น Google Maps คงไม่ทำอย่างนี้ ส่วนเรื่องความคลีนของงานออกแบบมีคุณค่าน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเข้าถึงที่รวดเร็ว

Photo Credit @elizlaraki

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า