วันที่ 12 มิ.ย.63 บิสซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) เว็บไซต์ข่าวสารธุรกิจและการเงินของสหรัฐฯ รายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศในเดือนเมษายนที่ผ่านมาหดตัวลง 20.4% ถือเป็นการหดตัวที่ลดลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ด้านนายโจนาธาน เอโทว์ นักสถิติจากสำนักงานสถิติแห่งชาติกล่าวว่า “ภาวการณ์หดตัวของจีดีพีในเดือนเมษายน นับเป็นการหดตัวขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และยังหดตัวมากกว่า 3 เท่าของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นการหดตัวมากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำก่อนหน้าการระบาดของไวรัสโควิด-19”
โดยนายเอโทว์อธิบายเพิ่มเติมว่า กลุ่มธุรกิจหลายประเภทในอังกฤษล้วนแต่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่มีการล็อกดาวน์เดือนเมษายน ทั้งสถานบันเทิง, สถานศึกษา, การจำหน่ายรถยนต์ และร้านอาหาร ด้าน ดร. Tej Parikh ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า โควิด-19ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมีแนวโน้มที่จะทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษชะลอตัวในระยะยาว ภาครัฐจะต้องหาวิธีกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเร็ว เพราะการรอให้ถึงปลายปีจะมีความสเยงต่อภาคธุรกิจและอัตราการตกงานที่เพิ่มสูงขึ้น