อังกฤษเปลี่ยนคำแนะนำ ให้กลุ่มอายุไม่เกิน 30 ปี ใช้วัคซีนอื่นแทนแอสตร้าเซนเนก้า

หน่วยงานของสหราชอาณาจักรออกมากำกับการใช้งานวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แนะให้เปลี่ยนยี่ห้อสำหรับผู้ที่มีอายุ 18-29 ปี

วันที่ 7 เม.ย. 2564 สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่า องค์การกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของสหราชอาณาจักร หรือ MHRA พบหลักฐานว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) มีส่วนเชื่อมโยงกับอาการลิ่มเลือดอุดตันที่อาจพบได้น้อยมาก

จากข้อมูลเมื่อสิ้นเดือนมี.ค. มีผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดนี้แล้วเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันขึ้นหลังจากนั้น 79 ราย และเสียชีวิต 19 ราย เกือบ 2 ใน 3 เป็นผู้หญิง และผู้เสียชีวิตมีอายุระหว่าง 18-79 ปี

แม้จะพบหลักฐานความเชื่อมโยง ทาง ดร.จูน เรน จาก MHRA ยังคงแนะนำว่า สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีดวัคซีน ยังมีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง ซึ่งมีโอกาสเกิดยากมาก และจะต้องศึกษาต่อไปว่าวัคซีนเป็นตัวที่ทำให้เกิดอาการแน่ชัดหรือไม่

แต่สำหรับกลุ่มที่มีอายุน้อย ประโยชน์กับความเสี่ยงนั้นใกล้เคียงกันมากกว่า กล่าวคือ สำหรับผู้สูงอายุแล้ว อันตรายจากโรคโควิด-19 สูงกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง ส่วนกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 30 ปี อาจไม่ได้รับอันตรายจากโรคโควิด-19 มากจนต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงเหล่านั้น แม้โอกาสจะเกิดมีน้อยมากก็ตาม

หลังจากมีผลสรุปของหน่วยงานด้านความปลอดภัยออก ทางคณะกรรมธิการร่วมด้านวัคซีนและภูมิคุ้มกันของสหราชอาณาจักร หรือ JCVI ที่มีหน้าที่กระจายวัคซีน ก็แนะนำว่า ให้จัดหาวัคซีนทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปีทันที

ในเวลาเดียวกัน องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป หรือ EMA ก็มีการสรุปผลว่า ควรมีการระบุอาการลิ่มเลือดอุดตันไว้ในผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ยาก ของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โดยยังคงแนะนำให้ใช้วัคซีนตัวนี้ต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและช่วยชีวิตคนได้