ยูเครนเริ่มใช้ระบบจรวดพิสัยไกลสหรัฐฯ ทำลายคลังอาวุธรัสเซียหลายเมือง รัสเซียถล่มออฟฟิศยูเครน ตาย 20 คน

ยูเครนเริ่มใช้ระบบจรวดพิสัยไกลของสหรัฐฯ โจมตีคลังอาวุธรัสเซียแล้ว ขณะที่รัสเซียยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำถล่มอาคารสำนักงาน ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน เป็นเด็ก 3 คน

เว็บไซต์ Aljazeera รายงานสถานการณ์สงครามยูเครนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยชี้ว่าฝ่ายยูเครนเริ่มตอบโต้กลับด้วยการโจมตีคลังอาวุธของรัสเซีย ที่ตั้งอยู่ตามเมืองต่างๆ ของยูเครนที่รัสเซียยึดไว้ได้

รายงานระบุว่าในวันที่ 10 ก.ค. ทางการยูเครนเปิดเผยว่า ได้โจมตีฐานบัญชาการของรัสเซียในเมืองเคอร์สัน ทางตอนใต้ของยูเครน ที่ติดกับชายแดนรัสเซีย จนทำให้มีทหารรัสเซีย 10 นายและยังทำลายคลังอาวุธไปด้วย ขณะเดียวกันในอีก 2 วันต่อมา ทางการยูเครนระบุว่า ได้โจมตีคลังกระสุนของรัสเซียในเคอร์สันเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 52 นาย

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ยูเครนได้เริ่มใช้ระบบจรวดพิสัยไกล (HIMARS) ซึ่งเป็นอาวุธประสิทธิภาพสูงที่รัฐบาลสหรัฐฯ จัดส่งให้แล้ว โดยเว็บไซต์ Aljazeera ยังอ้างความเห็นของผู้ติดตามสถานการณ์การทหารของรัสเซียรายหนึ่งที่ระบุว่า ทางการรัสเซียยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่จากการใช้อาวุธพิสัยไกลของยูเครนได้

เช่นเดียวกับรายงานของซีเอ็นเอ็น สื่อสหรัฐฯ ที่ระบุว่า อาวุธจากตะวันตกรอบล่าสุดกำลังจะเป็นภัยคุกคามใหม่ของฝ่ายรัสเซีย โดยรายงานของซีเอ็นเอ็นระบุว่า ระบบยิงจรวดพิสัยไกลที่สหรัฐฯ ส่งให้ยูเครน มีความสามารถยิงจรวดโจมตีเป้าหมายได้จากระยะ 70-80 กิโลเมตร พร้อมมีระบบ GPS ซึ่งจะทำให้โจมตีเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น

จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯ ส่งระบบยิงจรวดพิสัยไกล HIMARS ให้กับยูเครนแล้ว 8 เครื่อง และมีแผนจะส่งให้เพิ่มอีก 4 เครื่องเพื่อใช้ต่อสู้กับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้รัสเซียอ้างว่าได้ทำลายระบบยิงจรวดของสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ปฏิเสธ

ขณะที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) เกิดเหตุจรวดของรัสเซียโจมตีอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยในเมืองวินนิสเซีย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอย่างน้อย 3 คน

นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนระบุว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ต่างจากการก่อการร้าย โดยทางการยูเครนเชื่อว่า จรวดลูกนี้น่าจะยิงมาจากเรือดำน้ำรัสเซียในทะเลดำ

ขณะที่ทางการรัสเซีย ซึ่งยืนยันมาตลอดว่าปฏิบัติการพิเศษทางการทหารในยูเครนไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน ยังไม่มีความเห็นใดๆ ต่อการโจมตีครั้งล่าสุดนี้